ททท.ชวนนักเรียนญี่ปุ่นทัศนศึกษาจังหวัดนครราชสีมาและอีสานตอนล่าง

ข่าวท่องเที่ยว Wednesday July 18, 2001 10:53 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--18 ก.ค.--ททท.
แม้ว่าในปัจจุบันจะมีนักท่องเที่ยวต่างประเทศมาเยือนประเทศไทยมากถึง 9.5 ล้านคน แต่เมื่อพิจารณาถึงการกระจายของนักท่องเที่ยวไปยังภูมิภาคต่าง ๆ แล้วพบว่ามีนักท่องเที่ยวต่างชาติมาเยือนภาคอีสานน้อยมากคือ ไม่ถึงร้อยละ 3 จึงได้มีการกำหนดกลยุทธ์ทางการท่องเที่ยวที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือมีอยู่อย่างเด่นชัด
สำหรับสิ่งดึงดูดใจที่เด่นชัดของภาคอีสานได้แด่ อารยธรรมและขนบธรรมเนียมประเพณีของขาวอีสาน โดยเฉพาะในเขตพื้นที่จังหวัดนครราชสีมาที่มีโบราณสถานขนาดใหญ่ อาทิ ปราสาทหินพิมาย อนุสาวรีย์ท้าวสุรนารี แหล่งโบราณคดีบ้านปราสาท ฯลฯ ประกอบกับปัจจุบัน จังหวัดนคราชสีมา มีสถานที่พัก สิ่งอำนวยความสะดวกต่าง ๆ และศูนย์การค้าที่ทันสมัยหลายแห่งสามารถรองรับนักท่องเที่ยวได้หลายระดับ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) จึงใช้ ศักยภาพที่มีอยู่เป็นจุดขายทางการตลาดแก่นักท่องเที่ยว รัฐบาลญี่ปุ่นได้ให้การสนับสนุนการเดินทางท่องเที่ยวออกนอกประเทศแก่เด็กนักเรียนระดับมัธยมศึกษา เพื่อให้เยาวชนได้มีโอกาส ทัศนศึกษาและเรียนรู้เรื่องราวของประเทศต่าง ๆ อันจะเป็นประโยชน์ต่อการพัฒนาประเทศในอนาคต
ในปีที่ผ่านมามีนักเรียนระดับมัธยมของประเทศญี่ปุ่นเดินทางออกนอกประเทศจำนวนหลายแสนคน ส่วนใหญ่เดินทางไปประเทศ เกาหลี จีน และออสเตรเลีย นักเรียนกว่า 10,000 คน เดินทางไปประเทศสิงคโปร์ และมาเลเซีย แต่เนื่องจากเหตุการณ์จับนักท่องเที่ยวเป็นตัวประกัน และสถานการณ์ทางการเมืองภายในประเทศมาเลเซีย และราคาห้องพักที่สูงขึ้นในประเทศสิงคโปร์ทำให้เป็นโอกาสอันดีของประเทศไทยที่เสนอขาย กิจกรรมการท่องเที่ยวแก่นักเรียนญี่ปุ่น
ในปี 2543 ททท. เริ่มดำเนินแผนการตลาดขายกิจกรรมการท่องเที่ยวในจังหวัดนครราชสีมาแก่บริษัท นำเที่ยวใหญ่ ๆ ของประเทศญี่ปุ่น อาทิ JTB KNT NTA ฯลฯ ซึ่งได้รับความสนใจเป็นจำนวนมาก นอกจากนั้นสถาบันการศึกษาชั้นนำกว่าสิบแห่ง อาทิ วิทยาลัยนาฏศิลป์นครราชสีมา โรงเรียนพิมายวิทยา โรงเรียนราชสีมาวิทยาลัย โรงเรียนสุรนารีวิทยา ฯลน ได้ให้ความร่วมมืออย่างดียิ่ง และพร้อมที่จะรับนักเรียนญี่ปุ่น เข้าร่วมกิจกรรมของโรงเรียน ทำให้บริษัทนำเที่ยวมีความพอใจว่า จังหวัดนครราชสีมาเป็นจังหวัดแรกที่ได้ให้ความร่วมมือเป็น อย่างดี และน่าสนใจมากที่สุดสำหรับกิจกรรมของนักเรียนญี่ปุ่น ระหว่างทัศนศึกษาจังหวัดนครราชสีมา ได้แก่การชมอุทยานประวัติศาสตร์พิมาย การร่วมมือกิจกรรมบายศรีสู่ขวัญของชาวบ้านบ้านประสาท การเข้าร่วมเรียนกับนักเรียนไทย ทั้งทางด้านวิชาการ และศิลปวัฒนธรรมพื้นบ้าน คาดว่าในปี 2545 จะมีนักเรียนญี่ปุ่นมาทัศนศึกษาจังหวัดนครราชสีมาจำนวนกว่า 10,000 คน ซึ่งหากคำนวณเป็นรายได้อาจดูไม่มากนักอยู่ในวงเงินราว 200-300 ล้านบาท แต่หากคิดถึงผลที่จะได้รับจากการที่นักเรียนญี่ปุ่นเข้ามาทัศนศึกษาจังหวัดนครราชสีมาแล้ว จะเป็นประโยชน์ต่อประเทศไทยอย่างมหาศาล ไม่ว่าจะเป็นชื่อเสียง ความปลอดภัย เนื่องจากรัฐบาลญี่ปุ่นเข้มงวดเรื่องสถานที่ ที่นักเรียนญี่ปุ่นจะไปเยือนมาก นอกจากนั้นนักเรียนกลุ่มนี้ยังจะเป็นสื่อ ประชาสัมพันธ์ที่จะนำ พี่ น้อง และบุคคลรอบข้างเข้ามาเยือนในอนาคต เป็นผู้ที่ช่วยทำให้ นักเรียนไทยได้รู้จักเพื่อนต่างชาติ ซึ่งจะมีผลต่อความสัมพันธ์ที่ดีระหว่างประเทศ และสิ่งที่สำคัญที่สุดเป็นกลุ่มนักท่องเที่ยวที่ถือได้ว่าบริสุทธิ์ทั้งทางด้านพฤติกรรมการท่องเที่ยวและสิ่งที่เขาจะนำไปเผยแพร่ต่อถึงภาพลักษณ์ที่ดีของประเทศไทย บริษัท KNT เป็นบริษัทนำเที่ยวที่ใหญ่เป็นอันดับ 2 ของประเทศญี่ปุ่น ในปีที่ผ่านมานำนักท่องเที่ยวญี่ปุ่นเดินทางไปต่างประเทศ 1.3 ล้านคน และยังเป็นบริษัทนำเที่ยวที่ได้รับความไว้วางใจจากรัฐบาลญี่ปุ่นให้เป็นผู้จัดรายการทัศนศึกษาที่ประเทศเกาหลีใต้ถึง 160,000 คน ในปีนี้บริษัท KNT ได้รับเชิญจาก การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย และภาคเอกชน ให้มาสำรวจเส้นทางกิจกรรมการท่องเที่ยวในจังหวัดนครราชสีมา เมื่อพิจารณาถึงความหลากกหลายของแหล่งนักท่องเที่ยวความรู้ และความปลอดภัย ที่นักเรียนญี่ปุ่นจะได้รับหลังจากมาเยือนจังหวัดนครราชสีมาแล้ว บริษัท KNT ได้บรรจุจังหวัดนครราชสีมาและประเทศไทยไว้ในรายการนำเที่ยวสำหรับ นักเรียน ตั้งแต่ปี 2545นี้ และจากการที่ประเทศญี่ปุ่นประสบปัญหาด้านเศรษฐกิจจึงคาดว่า ชาวญี่ปุ่นจะเลือกเดินทางมาประเทศไทย ซึ่งคุ้มค่ากับการใช้จ่ายเงินมากกว่าการเลือกเดินทางไปยังประเทศอื่น รวมทั้งกลุ่มนักเรียนญี่ปุ่นเดินทางมายังประเทศไทยเพิ่มขึ้น ในปี 2544 คาดว่าจะมีนักท่องเที่ยวญี่ปุ่นเดินทางออกนอกประเทศถึง 17 ล้านคน และประเทศไทยเป็นแหล่ง ท่องเที่ยวอันดับต้น ๆ ที่ชาวญี่ปุ่นและนักเรียนญี่ปุ่นให้ความสนใจ อันเป็นผลดีต่อประเทศทั้งในด้านเศรษฐกิจและภาพลักษณ์ที่ดีของเมืองไทยต่อชาวญี่ปุ่นที่ให้การยอมรับประเทศไทย ซึ่งนับว่าประสบความสำเร็จในระดับหนึ่งทางด้านการตลาดที่ ททท.ดำเนินกลยุทธมาโดยตลอด
นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรียังชี้แจงต่อไปว่า ในปี 2546 รัฐบาลญี่ปุ่นมีนโยบายที่จะส่งเสริมและสนับสนุนให้นักเรียนของญี่ปุ่น ซึ่งเป็นเยาวชนได้มีโอกาสทัศนศึกษาในต่างประเทศมากยิ่งขึ้นเพื่อให้เห็นโลกทัศน์อย่างกว้างขวาง ดังนั้น จึงเป็นที่ คาดหมายว่าจะมีนักเรียนญี่ปุ่นเดินทางออกนอกประเทศไปยังประเทศต่าง ๆ ไม่น้อยกว่า 2 ล้านคน ในจำนวนดังกล่าวจะเดินทางเข้ามายังประเทศไทยไม่ต่ำ 2-3 แสนคน ซึ่งจากการประมาณการของการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทยคาดว่านอกจากนักเรียนญี่ปุ่นที่จะเดินทางเข้ามาแล้ว จะมีผู้ปกครองตามมาด้วยอีกเป็นจำนวนมาก ทั้งนี้จะทำให้ประเทศไทยมีรายได้จากการท่องเที่ยวเพิ่มมาตามลำดับ
กรมประชาสัมพันธ์และเผยแพร่ กรมประชาสัมพันธ์ โทร.6182323 ต่อ 1516-7--จบ--
-สส-

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ