กอปภ.ก. ประชุมติดตามสถานการณ์น้ำ สร้างความเข้าใจทุกภาคส่วนประหยัดน้ำ – ป้องกันการลักลอบสูบน้ำ

ข่าวทั่วไป Tuesday March 29, 2016 16:37 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--29 มี.ค.--กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย กระทรวงมหาดไทย โดยกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) จัดประชุมกองอำนวยการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยกลาง (กอปภ.ก.) อำนวยการติดตาม ซักซ้อมการเฝ้าระวัง และประเมินสถานการณ์ภัยแล้ง ครั้งที่ 12/2559 ในวันที่ 25 มีนาคม 2559 โดยได้สั่งการให้ทุกหน่วยงานเร่งช่วยเหลือประชาชนในพื้นที่ประสบภัยและผู้ที่ได้รับผลกระทบอย่างทั่วถึงและเป็นธรรม พร้อมเร่งสร้างความเข้าใจถึงสถานการณ์น้ำของเขื่อนอุบลรัตน์และกว๊านพะเยา รวมถึงขอความร่วมมือประชาชนมิให้ลักลอบสูบน้ำจากคลองส่งน้ำเพื่อการผลิตน้ำประปา ตลอดจนประสานกรมชลประทานระบายน้ำเพื่อผลักดันน้ำเค็มในช่วงน้ำทะเลหนุน มิให้ส่งผลกระทบต่อค่าความเค็มของน้ำเพื่อการเกษตรและน้ำดิบสำหรับผลิตน้ำประปา ทั้งนี้ ขอความร่วมมือทุกภาคส่วนใช้น้ำที่มีจำกัดอย่างประหยัดและเกิดประโยชน์สูงสุด เพื่อให้การใช้น้ำเป็นไปตามแผนการจัดสรรน้ำที่ภาครัฐกำหนด ส่งผลให้มีน้ำอุปโภคบริโภคและรักษาระบบนิเวศเพียงพอตลอดช่วงฤดูแล้งถึงช่วงต้นฤดูฝน ปี พ.ศ. 2559 นายสุปกิต โพธิ์ปภาพันธ์ รองอธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย ประธานการประชุมกองอำนวยการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยกลาง (กอปภ.ก) อำนวยการติดตาม ซักซ้อมการเฝ้าระวัง และประเมินสถานการณ์ภัยแล้ง ครั้งที่ 12/2559 กล่าวว่า ขณะนี้หลายพื้นที่ของประเทศได้รับผลกระทบจากสถานการณ์ภัยแล้ง มีจังหวัดประกาศเขตการให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัติกรณีฉุกเฉิน (ภัยแล้ง) จำนวน 18 จังหวัด 68 อำเภอ 306 ตำบล 2,580 หมู่บ้าน คิดเป็นร้อยละ 3.44 ของหมู่บ้านทั่วประเทศ รัฐบาลและคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ห่วงใยความเดือดร้อนของประชาชนจากสถานการณ์ภัยแล้ง จึงได้สั่งการให้ทุกหน่วยงานเร่งช่วยเหลือประชาชนในพื้นที่ประสบภัยและผู้ที่ได้รับผลกระทบอย่างทั่วถึงและเป็นธรรม เฝ้าระวังพื้นที่เสี่ยงขาดแคลนน้ำบริเวณเขื่อนอุบลรัตน์ จังหวัดขอนแก่น ซึ่งมีปริมาณน้ำลดลงใกล้ระดับกักเก็บต่ำสุด อาจต้องนำน้ำสำรองที่อยู่ก้นเขื่อนมาใช้งาน ซึ่งจะไม่ส่งผลกระทบต่อโครงสร้างเขื่อนอุบลรัตน์และคุณภาพน้ำประปา เนื่องจากต้องมีการตรวจสอบคุณภาพน้ำก่อนจัดสรรน้ำให้ประชาชนนำไปใช้งาน โดย กอปภ.ก. ได้ประสานให้จังหวัดเร่งทำความเข้าใจกับประชาชนในพื้นที่ถึงสถานการณ์น้ำ ความจำเป็นในการบริหารจัดการและจัดสรรน้ำอย่างรัดกุม เพื่อให้การใช้น้ำเกิดประโยชน์สูงสุดต่อทุกภาคส่วน สำหรับสถานการณ์น้ำบริเวณกว๊านพะเยา จังหวัดพะเยา ซึ่งปริมาณน้ำลดลงต่อเนื่อง ทำให้ขาดแคลนน้ำดิบในการผลิตน้ำประปาสำหรับอุปโภคบริโภค และน้ำเพื่อการเกษตรสำหรับใช้หล่อเลี้ยงสวนลำไย กอปภ.ก. ได้ประสานให้ชลประทานจังหวัดพะเยา สำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดพะเยา และองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น จัดหาแหล่งน้ำสำรองสำหรับนำน้ำไปเติมในแหล่งน้ำผลิตน้ำประปา โดยผันน้ำจากอ่างเก็บน้ำแม่ตั๋มจำนวน 2 ล้านลูกบาศก์เมตร เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนของประชาชนในเบื้องต้น และแจกจ่ายน้ำแก่ประชาชน นอกจากนี้ กรณีน้ำเค็มรุกล้ำแหล่งน้ำในพื้นที่ภาคตะวันออกและภาคกลาง กอปภ.ก. ได้ประสานกรมชลประทานระบายน้ำเพื่อผลักดันน้ำเค็มในช่วงน้ำทะเลหนุน ไม่ให้ส่งผลกระทบต่อค่าความเค็มของน้ำเพื่อการเกษตรสำหรับหล่อเลี้ยงไม้ยืนต้นและน้ำดิบสำหรับผลิตน้ำประปา อย่างไรก็ตาม รัฐบาลยังคงต้องขอความร่วมมือเกษตรกรงดเว้นการทำนาปรังรอบที่ 2 โดยเฉพาะในเขตลุ่มน้ำเจ้าพระยา เพื่อป้องกันผลผลิตได้รับความเสียหาย พร้อมสร้างความเข้าใจมิให้ประชาชนลักลอบสูบน้ำจากคลองส่งน้ำไปใช้อย่างผิดวัตถุประสงค์ เพราะส่งผลกระทบต่อปริมาณน้ำดิบที่ใช้ในการผลิตน้ำประปา สำหรับการเล่นน้ำในช่วงเทศกาลสงกรานต์ท่ามกลางวิกฤตภัยแล้งในหลายพื้นที่ ได้ขอความร่วมมือให้ประชาชนเล่นน้ำอย่างประหยัดรู้คุณค่า มีจิตสำนึกบนพื้นฐานความพอเพียง เพื่อสืบสานประเพณีสงกรานต์ตามวิถีไทย ทั้งนี้ ขอความร่วมมือทุกภาคส่วนใช้น้ำที่มีจำกัดอย่างประหยัดและเกิดประโยชน์สูงสุด เพื่อให้การใช้น้ำเป็นไปตามแผนการจัดสรรน้ำที่ภาครัฐกำหนด ส่งผลให้มีน้ำอุปโภคบริโภคและรักษาระบบนิเวศเพียงพอตลอดช่วงฤดูแล้งถึงช่วงต้นฤดูฝน ปี พ.ศ. 2559 0-2243-0674 0-2243-2200 www.disaster.go.th

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ