กรุงเทพฯ--1 เม.ย.--พีอาร์ดีดี
สภาวะตลาดวันที่ 01 เมษายน 2559 ราคาทองคำแกว่งตัวในกรอบที่ระดับ 1,229.80-1,234.97 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ขณะที่ราคาทองคำแท่ง 96.5% ภายในประเทศขายออกอยู่ที่ 20,500 บาทต่อบาททองคำ โดยราคาปรับตัวลดลง 50 บาทจากวันก่อนหน้าที่ระดับ 20,550 บาทต่อบาททองคำ ขณะที่โกลด์ฟิวเจอร์ส GFJ16 อยู่ที่ 20,610 บาท โดยราคาปรับตัวลดลง 20 บาท จากวันก่อนหน้าที่ระดับ 20,630 บาท
(หมายเหตุ: ข้อมูลนี้จัดทำขึ้น ณ เวลา 17.06 น.ของวันที่ 01/04/16)
แนวโน้มวันที่ 04 เมษายน 2559
ราคาพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐปรับตัวขึ้นมากที่สุดในรอบ 4 ปีครึ่งในไตรมาส 1/2016 ส่งผลให้อัตราผลผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐที่ดิ่งลงจนฉุดสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐให้อ่อนค่าลงตาม ทั้งนี้ ดัชนีดอลลาร์ปรับตัวลง 4.16% ในไตรมาส 1/2016 ซึ่งเป็นการร่วงลงมากที่สุดนับตั้งแต่ไตรมาส 3/2010 ขณะที่ดัชนีดอลลาร์ยังคงเคลื่อนไหวใกล้ระดับต่ำสุดในรอบ 5 เดือน หลังจากนางเจเน็ต เยลเลน ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ได้สะท้อนความเสี่ยงต่อเศรษฐกิจโลก และเพิ่มความ "ระมัดระวัง" ต่อการขึ้นอัตราดอกเบี้ย ทั้งนี้ ราคาทองคำพุ่งทะยานขึ้นถึง 16.14% ในไตรมาส 1/2016 ซึ่งเป็นการพุ่งขึ้นมากที่สุดนับตั้งแต่ไตรมาส 3/1986 อย่างไรก็ตาม ราคาทองคำยังคงเคลื่อนไหวต่ำกว่าระดับสูงสุดในรอบ 13 เดือนที่ 1,282.51 ดอลลาร์ต่อออนซ์อยู่มาก เนื่องจากนักลงทุนยังคงเพิ่มความระมัดระวังในการสะสมทองคำเพิ่มหลังจากราคาทะยานขึ้นในช่วงก่อนหน้า ประกอบกับ นักวิเคราะห์จาก GFMS ประเมินว่าราคาทองอาจจะร่วงต่ำกว่าระดับ 1,200 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ในช่วงไม่กี่เดือนข้างหน้า โดยคาดว่าอัตราดอกเบี้ยของสหรัฐจะเพิ่มขึ้น และอุปสงค์ในตลาดส่งมอบปัจจุบันของทองคำจะยังคงชะลอตัว ซึ่ง GFMS เชื่อว่า การพุ่งขึ้นของราคาในช่วงที่ผ่านมาจะเกิดขึ้นในระยะสั้นๆ และทันทีที่ภาวะปั่นป่วนในตลาดเงินตลาดทุนลดลงอาจจะเห็นราคาทองคำร่วงลงอีกครั้ง โดยเฉพาะในช่วงที่ภาวะอุปสงค์ในตลาดส่งมอบปัจจุบันในตลาดที่สำคัญในเอเชียชะลอตัวลง อย่างไรก็ตามนักลงทุนในตลาดทองคำหวังว่าอาจจะมีแรงซื้อทองคำในตลาดส่งมอบปัจจุบันของอินเดียฟื้นตัวขึ้นบ้าง หากอัตราดอกเบี้ยของอินเดียลดลง ทั้งนี้ ข้อมูลบ่งชี้ว่าอัตราเงินเฟ้อที่ลดลงจะทำให้ธนาคารกลางอินเดียมีโอกาสลดอัตราดอกเบี้ยลงในการประชุมนโยบายการเงินวันที่ 5 เมษายนนี้ และจะลดอัตราดอกเบี้ยลงอีกครั้งภายในเดือนกันยายน ครั้งละ 0.25% สู่ระดับ 6.25% หลังจากในปีที่ 2015 อินเดียได้ลดอัตราดอกเบี้ยลงรวม 1.25% สู่ระดับ 6.75% ในเดือนกันยายน แต่นับตั้งแต่นั้นธนาคารกลางได้ลงมติคงอัตราดอกเบี้ย
กลยุทธ์การลงทุน ทางวายแอลจีมีมุมมองว่าหากราคาทองคำขึ้นทดสอบแนวต้านที่ 1,240 ดอลลาร์ต่อออนซ์ หรือ 1,248 ดอลลาร์ต่อออนซ์ นักลงทุนที่สะสมทองคำไว้อาจมีการขายทำกำไรบ้างส่วนออกมาบ้างเพราะในช่วงที่ผ่านมาเมื่อราคาทองคำมีการปรับตัวขึ้นยังคงมีแรงขายออกมาอย่างต่อเนื่อง สำหรับการทำกำไรให้ดูว่าราคาจะผ่านแนวต้านได้หรือไม่ ถ้าสามารถผ่านไปได้ให้แนะนำให้ถือต่อไป เพื่อขายทำกำไรที่แนวต้านถัดไป และหากราคาทองคำมีการปรับตัวลดลงมาไม่หลุดแนวรับ แนะนำนักลงทุนสามารถทำการเข้าซื้อเก็งกำไรระยะสั้น ทั้งนี้ประเมินแนวรับไว้ที่ 1,123 ดอลลาร์ต่อออนซ์ โดยมีแนวรับถัดไปอยู่ที่ 1,215 ดอลลาร์ต่อออนซ์
ทองคำแท่ง (96.50%)
แนวรับ 1,223 (20,300บาท) 1,215 (20,170บาท) 1,208 (20,050บาท)
แนวต้าน 1,240 (20,590บาท) 1,248 (20,720บาท) 1,259 (20,910บาท)
GOLD FUTURES (GFJ16)
แนวรับ 1,223 (20,490บาท) 1,215 (20,360บาท) 1,208 (20,240บาท)
แนวต้าน 1,240 (20,780บาท) 1,248 (20,910บาท) 1,259 (21,090บาท)
หากต้องการทราบทิศทางราคาทองคำและแนวทางลงทุนทองคำ ขอคำปรึกษาเพิ่มเติมจากทีมที่ปรึกษาการลงทุนด้านโกล์ดฟิวเจอร์ส โทร.02-687-9999