กรุงเทพฯ--12 เม.ย.--พีอาร์ดีดี
สภาวะตลาดวันที่ 12 เมษายน 2559 ราคาทองคำแกว่งตัวในกรอบที่ระดับ 1,253.60-1,262.60 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ขณะที่ราคาทองคำแท่ง 96.5% ภายในประเทศขายออกอยู่ที่ 20,900 บาทต่อบาททองคำ โดยราคาปรับตัวเพิ่มขึ้น 150 บาทจากวันก่อนหน้าที่ระดับ 20,750 บาทต่อบาททองคำ ขณะที่โกลด์ฟิวเจอร์ส GFJ16 อยู่ที่ 20,990 บาท โดยราคาปรับตัวเพิ่มขึ้น 160 บาท จากวันก่อนหน้าที่ระดับ 20,830 บาท
(หมายเหตุ: ข้อมูลนี้จัดทำขึ้น ณ เวลา 16.15 น.ของวันที่ 12/04/16)
แนวโน้มวันที่ 18 เมษายน 2559
ดัชนีดอลลาร์เมื่อเทียบกับตะกร้าสกุลเงินดิ่งลงแตะจุดต่ำสุดในรอบเกือบ 8 เดือนที่ หลังจากร่วงผ่านจุดต่ำสุดของเดือนตุลาคม 2015 ลงไป ซึ่งเป็นการร่วงผ่านระดับสำคัญทางเทคนิค จนดัชนีดอลลาร์ลงไปแตะจุดต่ำสุดใหม่ในรอบหลายเดือน ในขณะที่นักลงทุนส่งคำสั่งขายดัชนีดอลลาร์เข้ามาอย่างต่อเนื่อง เมื่อตลาดสัญญาล่วงหน้าอัตราดอกเบี้ยส่งสัญญาณบ่งชี้ว่า ว่าธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด)อาจปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเพียง 0.25 % ในปี 2016 และคาดว่ามีโอกาสเพียง 20 % เท่านั้นที่เฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย ในการประชุมวันที่ 14-15 มิถุนายน ข้อมูลดังกล่าว สนับสนุนให้ราคาทองคำสามารถเคลื่อนไหวใกล้ระดับสูงสุดในรอบ 3 สัปดาห์ได้ ทั้งนี้ ราคาทองคำได้รับแรงหนุนในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัย เมื่อทิศทางเศรษฐกิจจีนเติบโตเพียง 6.8 % ในไตรมาส 4/2015 ซึ่งถือเป็นอัตราการเติบโตทางเศรษฐกิจที่ต่ำที่สุดนับตั้งแต่เกิดวิกฤติการเงินในปี 2007-2008 นักลงทุนเพิ่มความระมัดระวังในการถือครองสินทรัพย์เสี่ยง เนื่องจากข้อมูลเศรษฐกิจที่น่าผิดหวังในไตรมาสแรกของจีนอาจจะเป็นปัจจัยสร้างความผันผวนต่อตลาดเงินตลาดทุนอีกครั้ง อย่างไรก็ตาม เมื่อราคาทองคำขยับขึ้นยังคงมีแรงขายทำกำไรสลับออกมา เพราะคำสัญญาของเจ้าหน้าที่จีนที่จะชะลอการลดค่าเงินหยวนลง นั่นช่วยดึงดูดนักลงทุนต่างประเทศกลับเข้ามาลงทุนในสินทรัพย์เสี่ยงอีกครั้งหลังจากที่พวกเขาได้ขายสินทรัพย์ในตลาด เอเชียและตลาดเกิดใหม่ในปี 2015 และช่วงต้นปีนี้ เนื่องจากผลตอบแทนที่ต่ำกว่าอันเป็นผลจากค่าเงินหยวนอ่อนค่าลง ประกอบกับประเทศชั้นนำจะบรรลุข้อตกลงเพื่อหลีกเลี่ยงสงครามค่าเงินโลกนั้น ทำให้นักลงทุนคลายกังวล ซึ่งส่งผลเชิงลบกับทองคำในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัย ซึ่งการเคลื่อนไหวของราคาทองคำจะเป็นไปในลักษณะค่อยๆขยับขึ้น นักลงทุนที่ไม่อยากแบกรับความเสี่ยงมากจนเกินไปควรรอการเข้าซื้อเมื่อราคาทองคำอ่อนตัวลงมาในโซนแนวรับสำคัญ
กลยุทธ์การลงทุน ทางวายแอลจีมีมุมมองว่า ราคาทองคำยังมีการเคลื่อนไหวในกรอบและคาดว่าราคาทองคำเคลื่อนไหวในลักษณะค่อยๆขยับขึ้น โดยความผันผวนของราคาและการแกว่งตัวของราคาอาจลดลงจากช่วงที่ผ่านมา นักลงทุนสามารถลงทุนระยะสั้นโดยเข้าซื้อหากราคาย่อตัวไม่หลุดแนวรับบริเวณ 1,240 หรือ 1,232 ดอลลาร์ต่อออนซ์ โดยไม่แนะนำให้เข้าซื้อทั้งหมดบริเวณแนวรับใดแนวรับหนึ่ง ควรเหลือเงินทุนเพื่อซื้อเฉลี่ยหากราคาหลุดแนวรับแรกซึ่งราคาอาจจะปรับตัวลงไปบริเวณแนวรับถัดไป และให้ขายทำกำไรเมื่อราคาดีดตัวขึ้นบริเวณแนวต้าน 1,267 หรือ 1,283 ดอลลาร์ต่อออนซ์ หากไม่สามารถผ่านไปได้อาจเห็นการย่อตัวของราคาทองคำอีกครั้ง เบื้องต้นวายแอลจียังมองว่าการลงทุนยังเน้นการลงทุนระยะสั้น เพราะแม้ว่าราคาทองคำจะดีดตัวขึ้นได้บ้าง ก็ยังคงมีแรงขายทองคำออกมาเช่นกัน ซึ่งนักลงทุนควรตั้งจุดตัดขาดทุนเพื่อควบคุมความเสี่ยง
ทองคำแท่ง (96.50%)
แนวรับ 1,240 (20,540บาท) 1,232 (20,410บาท) 1,224 (20,270บาท)
แนวต้าน 1,267 (20,990บาท) 1,283 (21,260บาท) 1,300 (21,540บาท)
GOLD FUTURES (GFJ16)
แนวรับ 1,240 (20,660บาท) 1,232 (20,520บาท) 1,224 (20,390บาท)
แนวต้าน 1,267 (21,110บาท) 1,283 (21,380บาท) 1,300 (21,660บาท)
หากต้องการทราบทิศทางราคาทองคำและแนวทางลงทุนทองคำ ขอคำปรึกษาเพิ่มเติมจากทีมที่ปรึกษาการลงทุนด้านโกล์ดฟิวเจอร์ส โทร.02-687-9999