กรุงเทพฯ--18 เม.ย.--มรภ.สงขลา
มรภ.สงขลา จับมือ มอ. มทร.ศรีวิชัย หารือความร่วมมือขับเคลื่อนท้องถิ่น ชี้ทุกมหาวิทยาลัยต่างทำงานวิจัย แต่ยังขาดในระดับบริหารองค์กร เผยหากทำได้จะเป็นประวัติศาสตร์หน้าใหม่ของสถาบันอุดมศึกษาไทย
ศ.ดร.จรัส สุวรรณมาลา นายกสภามหาวิทยาลัยราชภัฏสงขลา (มรภ.สงขลา) เปิดเผยว่า เมื่อเร็วๆ นี้ ผู้บริหาร มรภ.สงขลา ได้พบกับ ศ.นพ.จรัส สุวรรณเวลา นายกสภามหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ (ม.อ.) และ ศ.กิตติคุณพีระศักดิ์ จันทร์ประทีป นายกสภามหาวิทยาลัยราชมงคลศรีวิชัย (มทร.ศรีวิชัย) ศ.ดร.จรัส สุวรรณมาลา นายกสภา มรภ.สงขลา และคณะ พร้อมด้วยตัวแทนกลุ่มภาคีคนรักเมืองสงขลา เพื่อร่วมหารือความร่วมมือขับเคลื่อนท้องถิ่น ใน 3 ประเด็นสำคัญ ได้แก่ 1. ด้านการศึกษางานวิจัย 2. ด้านศิลปวัฒนธรรม และ 3. ด้านทักษะภาษาอังกฤษของนิสิต นักศึกษา เพื่อปฏิรูปความร่วมมือระหว่างสถาบันอุดมศึกษา อันจะเป็นประโยชน์ต่อการพัฒนาจังหวัดในทิศทางเดียวกัน อาทิ การร่วมผลักดันให้ จ.สงขลา เป็นเมืองมรดกโลก
นายกสภา มรภ.สงขลา กล่าวว่า จากการรวบรวมงานวิจัยต่างๆ ตลอดหลายปีที่ผ่านมา พบว่าทั้ง 3 มหาวิทยาลัยมีงานวิจัยในประเด็นที่คล้ายคลึงกันอยู่จำนวนมาก แต่ผลสัมฤทธิ์การนำมาต่อยอดอาจจะยังไม่สมบูรณ์ด้วยข้อจำกัดหลายประการ ยกตัวอย่างเช่น การศึกษาและงานวิจัยด้านลุ่มน้ำทะเลสาบสงขลา ที่ทุกมหาวิทยาลัยต่างมีงานวิจัยออกมา แต่ยังไม่เคยได้ทำงานร่วมกันอย่างจริงจัง ในระดับผู้วิจัยอาจมีการร่วมทีมวิจัยเป็นปกติ ยังขาดแต่ในระดับบริหารองค์กร ซึ่งหากทำได้จะเป็นประวัติศาสตร์หน้าใหม่ของความร่วมมือกันระหว่างสถาบันอุดมศึกษา ที่จะขยายความร่วมมือได้ต่อไปในอนาคต
ด้าน ศ.นพ.จรัส สุวรรณเวลา นายกสภา มอ. กล่าวว่า ในฐานะนายกสภาของทั้ง 3 มหาวิทยาลัยที่มีโอกาสทำงานเพื่อ จ.สงขลา พร้อมกัน ได้ปรึกษากันว่าในฐานะที่เราต่างก็เป็นมหาวิทยาลัยของรัฐ มีทั้งกำลังบุคลากร นักศึกษา และงบประมาณ แต่ละสถาบันก็มีข้อเด่นแตกต่างกัน น่าจะเป็นการดีกว่าถ้าเราทั้งหมด หันมาผนึกกำลังกันและทำงานเป็นทีม เพื่อขับเคลื่อนวาระต่างๆ ในการพัฒนา จ.สงขลา อย่างถ้อยทีถ้อยอาศัยและเคารพซึ่งกันและกัน
ผศ.เถกิง วงศ์ศิริโชติ ผู้ช่วยอธิการบดี ม.อ. ได้ร่วมแลกเปลี่ยนด้านแนวทางการพัฒนาทักษะทางภาษาอังกฤษว่า ปัญหาทักษะด้านภาษาอังกฤษของนักศึกษาไทย รวมไปถึงบุคลากร นับว่าเป็นปัญหาสำคัญของทุกที่ ม.อ. ก็พบปัญหานี้เช่นเดียวกัน ซึ่งตอนนี้เราได้นำโปรแกรม Tell Me More ซึ่งเป็นโปรแกรมการเรียนและทดสอบความรู้ทางภาษาอังกฤษแบบออนไลน์ มาให้นักศึกษา คณาจารย์ และบุคลากรของมหาวิทยาลัยได้ใช้ฟรีๆ ซึ่งเป็นค่าใช้จ่ายที่มหาวิทยาลัยต้องแบกรับภาระ หากทั้ง 3 มหาวิทยาลัย รวมไปถึงมหาวิทยาลัยอื่นๆ จะผนึกรวมกำลังในการซื้อ คิดว่าน่าจะเป็นประโยชน์ในเชิงต่อรองทางธุรกิจเป็นอย่างมาก