กรุงเทพฯ--21 พ.ย.--เอไอเอส
การจำหน่ายหุ้นกู้เอไอเอส มูลค่า 15,000 ล้านบาท ประสบความสำเร็จเป็นอย่างดี ได้รับการตอบรับทั้งจากนักลงทุนสถาบันและจากบุคคลทั่วไปอย่างล้นหลาม โดยแสดงความจำนงจองซื้อหมดอย่างรวดเร็ว
นายสมประสงค์ บุญยะชัย ประธานกรรมการบริหาร บริษัท แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส จำกัด (มหาชน) หรือ เอไอเอส ผู้ให้บริการโทรศัพท์เคลื่อนที่ในระบบเซลลูล่าร์ 900, จีเอสเอ็ม 2 วัตต์และมือถือพร้อมใช้วัน-ทู-คอล! เปิดเผยว่า "ตามที่บริษัทฯมีแผนงานที่จะระดมทุนผ่านการออกหุ้นกู้ชุดที่ 2 อายุ 5 ปี ในวงเงิน 5,000-10,000 ล้านบาท ซึ่งบริษัทฯได้จัดสรรหุ้นกู้จำนวน 5,000 ล้านบาท ให้แก่บุคคลทั่วไป (นักลงทุนประเภทที่ 2) ในลักษณะของหุ้นกู้ประเภทระบุชื่อผู้ถือ ไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีประกัน และจัดจำหน่ายผ่านทางสาขาของธนาคารกสิกรไทย จำกัด (มหาชน) ทั่วประเทศ และธนาคารดอยซ์แบงก์ เอจี ในระหว่างวันที่ 21-27 พฤศจิกายน 2544 นั้น ผลปรากฏว่า ในวันที่ 21 พฤศจิกายนที่ผ่านมา ซึ่งเป็นวันแรกของการเปิดให้จองซื้อได้มีบุคคลทั่วไปให้ความสนใจและทำการติดต่อขอจองซื้อหุ้นกู้ของบริษัทฯเป็นจำนวนมาก โดยมียอดการจองซื้อในวันแรกครบตามจำนวนที่เสนอขายแล้ว นอกจากนี้ส่วนเพิ่มเติมอีก 5,000 ล้านบาทนั้น จากการที่มีนักลงทุนสถาบัน (ผู้ลงทุนประเภทที่ 1) แสดงความจำนงในการจองซื้อมาอย่างมากมายเช่นกัน ดังนั้นบริษัทฯจึงได้เปิดให้นักลงทุนสถาบันแสดงความจำนงจองซื้อเข้ามาในวันที่ 20 พฤศจิกายน ที่ผ่านมา ซึ่งก็ได้รับการตอบรับเป็นอย่างดีโดยมีการแสดงความจำนงเข้ามามากกว่าจำนวนที่สามารถจัดสรรให้ได้อย่างมากมาย"
ทั้งนี้นายสมประสงค์กล่าวเพิ่มเติมว่า "สาเหตุที่ทำให้หุ้นกู้เอไอเอสได้รับการตอบรับเป็นอย่างดีนั้น เชื่อว่าเป็นเพราะประชาชนให้ความมั่นใจในความแข็งแกร่งและศักยภาพในการดำเนินธุรกิจโทรศัพท์เคลื่อนที่ของบริษัทฯ ซึ่งขณะนี้ถือได้ว่าเป็นผู้ครองส่วนแบ่งทางการตลาดในธุรกิจโทรศัพท์เคลื่อนที่ของประเทศไทยสูงสุด ประกอบกับการที่หุ้นกู้ของบริษัทฯได้รับการจัดอันดับความน่าเชื่อถือจากทริส หรือ บริษัท ไทยเรตติ้งอินฟอร์เมชั่นเซอร์วิส จำกัด ที่ระดับ AA- เท่ากับเป็นการตอกย้ำถึงความมั่นคงของบริษัทฯได้เป็นอย่างดี นอกจากนี้ยังถือเป็นการนำเสนอทางเลือกในการลงทุนให้แก่บุคคลทั่วไปในภาวะเศรษฐกิจปัจจุบันอีกด้วย ทั้งนี้บริษัทฯขอขอบพระคุณมายังนักลงทุนทุกท่านที่ให้ความสนใจจองซื้อหุ้นกู้เอไอเอสจนครบตามจำนวนที่มีการจัดสรร โดยบริษัทฯขอสัญญาว่าเงินจากการจำหน่ายหุ้นกู้ในครั้งนี้จะนำไปดำเนินการขยายเครือข่ายและพัฒนาบริการในทุกด้านให้มีประสิทธิภาพสูงยิ่งขึ้น เพื่อให้สามารถรองรับการใช้งานรวมถึงอำนวยความสะดวกให้แก่ผู้ใช้บริการที่จะเพิ่มขึ้นต่อไปในอนาคต และเพิ่มพูนศักยภาพการให้บริการของระบบสื่อสารโทรคมนาคมของไทยอย่างต่อเนื่องต่อไป"
ด้านนายทวิช ธนะชานันท์ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ บมจ.ธนาคารกสิกรไทย ในฐานะหนึ่งในผู้จัดการ การจัดจำหน่ายหุ้นกู้ให้แก่ผู้ลงทุนประเภทที่ 2 ร่วมกับธนาคารดอยซ์แแบงก์ เอจี กล่าวเสริมว่า "การจำหน่ายหุ้นกู้ในครั้งนี้ถือว่าได้รับความสำเร็จอย่างสูงตามความคาดหมาย ทั้งในส่วนของบริษัทผู้ออกหุ้นกู้และส่วนของผู้ลงทุนในหุ้นกู้ โดยในส่วนของบริษัทเอไอเอสนั้นถือว่าได้รับความไว้วางใจจากนักลงทุนเป็นอย่างดีเนื่องจากเป็นบริษัทผู้ให้บริการโทรศัพท์มือถือที่มีส่วนแบ่งตลาดเป็นอันดับ 1 ในเมืองไทยซึ่งเป็นที่รู้จักของประชาชนโดยทั่วไป และมีสถานะทางการเงินที่ดีมากจนได้รับการจัดอันดับเครดิตสูงที่สุดในกลุ่มบริษัทเอกชนที่ AA- จากทริส โดยในส่วนของนักลงทุนที่ลงทุนในหุ้นกู้เอไอเอสนั้นนับว่าเป็นทางเลือกของการลงทุนอีกทางหนึ่งที่ให้อัตราดอกเบี้ยที่สูงกว่าการฝากเงินไว้กับธนาคารพาณิชย์ในปัจจุบัน และผู้ที่ได้รับการจัดสรรหุ้นกู้จะได้รับดอกเบี้ยในช่วงจองซื้อด้วย"
ทั้งนี้นายวรภัค ธันยาวงษ์ กรรมการผู้จัดการ Debt Capital Market&Liability Risk Management ธนาคารดอยซ์แบงก์ เอจี สาขากรุงเทพฯ ในฐานะผู้จัดการการจัดจำหน่ายให้แก่ผู้ลงทุนประเภทที่ 2 กล่าวเพิ่มเติมว่า "การเสนอขายหุ้นกู้ของเอไอเอสในครั้งนี้นับว่าเป็นการเพิ่มทางเลือกในการลงทุนให้แก่นักลงทุนโดยทั่วไปในสภาวะดอกเบี้ยต่ำ โดยนอกเหนือจากการได้รับการจัดอันดับที่ AA- จากทริส ซึ่งถือเป็นอันดับที่ดีที่สุดของภาคเอกชนในปัจจุบันแล้ว ความมีชื่อเสียงของบริษัทฯในฐานะผู้นำในตลาดโทรศัพท์เคลื่อนที่รวมถึงความชัดเจนและโปร่งใสในด้านนการบริหารและการเงิน ตลอดจนความคุ้นเคยที่นักลงทุนมีต่อบริษัท จึงทำให้มีนักลงทุนแสดงความประสงค์ที่จะลงทุนในหุ้นกู้ดังกล่าวเป็นจำนวนมาก"--จบ--
-อน-