กรุงเทพฯ--2 ก.พ.--ธ.กรุงไทย
ธนาคารกรุงไทยพักชำระหนี้ให้กับลูกค้าที่ประสบภัยคลื่นยักษ์สึนามิแล้วเกือบ 14,000 ล้านบาท ลดดอกเบี้ยลงเหลือ 2% พร้อมให้วงเงินกู้ฉุกเฉิน รวมทั้งเร่งปรับปรุงโครงสร้างหนี้ เพื่อให้ลูกค้าฟื้นตัวได้เร็วที่สุด
นายอภิศักดิ์ ตันติวรวงศ์ กรรมการผู้จัดการ บมจ.ธนาคารกรุงไทย เปิดเผยรายละเอียดการให้ความช่วยเหลือลูกค้าที่ประสบภัยคลื่นยักษ์สึนามิ ใน 6 จังหวัดภาคใต้ว่า หลังเกิดเหตุการณ์ ธนาคารได้ส่งผู้บริหารระดับสูงลงพื้นที่เพื่อสำรวจความเสียหายและให้ช่วยเหลือในเบื้องต้น โดยลูกค้าธนาคารที่ได้รับความเสียหายโดยตรงในครั้งนี้มีจำนวนทั้งสิ้น 118 ราย เป็นยอดหนี้รวม 8,053.31 ล้านบาท ซึ่งขณะนี้ธนาคารได้อนุมัติให้ความช่วยเหลือลูกค้าที่ได้รับผลกระทบทั้งโดยตรงและโดยอ้อม ด้วยการพักชำระหนี้เป็นระยะเวลา 6 เดือน และลดดอกเบี้ยลงเหลือ 2% จำนวน 161 ราย เป็นยอดหนี้ทั้งสิ้น 13,238.61 ล้านบาท
นอกจากนี้ ธนาคารยังได้ให้เงินกู้ฉุกเฉินและเงินกู้ฟื้นฟูไปแล้ว จำนวน 23 ราย เป็นวงเงิน 288.97 ล้านบาท และอยู่ระหว่างพิจารณาอนุมัติเงินกู้เพื่อฟื้นฟูกิจการอีกจำนวน 43 ราย เป็นวงเงินรวม 4,145.54 ล้านบาท รวมทั้งได้สั่งการให้หน่วยงานและสาขาเร่งปรับปรุงโครงสร้างหนี้ลูกค้าที่ได้รับผลกระทบโดยเร็ว
นายอภิศักดิ์ ตันติวรวงศ์ ได้กล่าวต่อไปว่า ธนาคารได้ดำเนินการทุกวิธีทางที่ช่วยให้ลูกค้าสามารถฟื้นตัวให้ได้เร็วที่สุด โดยธนาคารได้ปรับเปลี่ยนวิธีการพิจารณาสินเชื่อให้รวดเร็วขึ้น มอบอำนาจให้ผู้บริหารสายงาน ในการอนุมัติเงินกู้ฉุกเฉินให้กับลูกค้า ในวงเงินรายละไม่เกิน 30 ล้านบาท อัตราดอกเบี้ย 2% ซึ่งมั่นใจว่า ด้วยมาตรการช่วยเหลือต่างๆ ลูกค้าจะสามารถฟื้นฟูกิจการได้ภายใน 6 เดือน
สำหรับในส่วนของลูกค้าเงินฝากที่มีบัตรทองกรุงไทย ATM บัตรวีซ่า อิเล็กตรอน หรือมีบัญชีเงินฝากกรุงไทยทวีคูณ ซึ่งประสบภัยและเสียชีวิตในครั้งนี้ ธนาคารได้จ่ายเงินค่าสินไหมทดแทนไปแล้ว จำนวน 19 ราย รายละ 1 แสนบาท และอยู่ระหว่างตรวจสอบเอกสารเพื่อจ่ายเงินอีกจำนวน 16 ราย
นอกจากนี้ ในตลอดเดือนมกราคมที่ผ่านมา ธนาคารได้ให้สาขา 24 แห่ง และสำนักงานธุรกิจ 2 แห่ง ที่ตั้งอยู่ใน 6 จังหวัดภาคใต้ เป็นจุดรับเรื่องเกี่ยวกับความต้องการของผู้ประสบภัย ซึ่งส่วนใหญ่ต้องการความช่วยเหลือในด้านสินเชื่อ โดยธนาคารได้ส่งเรื่องให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง สำหรับในส่วนของลูกค้าธนาคาร ได้ให้ความช่วยเหลือไปแล้ว 62 ราย และอยู่ระหว่างพิจารณาให้ความช่วยเหลืออีก 212 ราย
สำนักสื่อสารและประชาสัมพันธ์
โทร. 0-2208-4174-7--จบ--