ถนนเลียบเจ้าพระยา: คิดให้ถูก จะสร้างให้รถวิ่งทั่วหรือสร้างบางจุดไว้ชมวิว

ข่าวอสังหา Monday April 4, 2016 14:06 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--29 เม.ย.--เอเจนซี่ ฟอร์ เรียลเอสเตท แอฟแฟร์ส ตามที่รัฐบาลพยายามจะหาทางสร้างถนนเลียบแม่น้ำเจ้าพระยาโดยไม่ฟังคำทันทานจากผู้คัดค้านทั่วสารทิศนั้น ถือเป็นการสร้างปัญหาแก่กรุงเทพมหานครมากกว่าจะช่วยแก้ไขปัญหาใด ๆ ดร.โสภณ มีแนวคิดที่ดีกว่า คือสร้างถนนขนาดใหญ่เพิ่มพื้นที่จราจร หรือไม่ก็สร้างเป็นจุดชมวิวเฉพาะแห่ง ดร.โสภณ พรโชคชัย ประธานกรรมการบริหาร ศูนย์ข้อมูลวิจัยและประเมินค่าอสังหาริมทรัพย์ไทย กล่าวว่า โครงการถนนเลียบแม่น้ำเจ้าพระยา โดยในระยะแรกจะเริ่มก่อสร้างภายในปี 2559 มีระยะทาง 14 กิโลเมตร ตั้งแต่สะพานพระราม 7 ถึง สะพานปิ่นเกล้า มูลค่าค่าก่อสร้างประมาณ 14,000 ล้านบาท (http://bit.ly/1Oiyd8J) หรือเป็นเงินกิโลเมตรละ 1,000 ล้านบาท ซึ่งถือว่าเป็นค่าใช้จ่ายที่สูงมาก เงินจำนวนนี้สามารถนำไปสร้าง 1. สะพานข้ามแม่น้ำเจ้าพระยาได้ราว 3 แห่ง (http://goo.gl/kMAjnX) 2. ทางด่วนอุดรรัถยา-อยุธยา ระยะทาง 42 กิโลเมตรได้ครึ่งหนึ่ง (http://bit.ly/1Ll1kq9) 3. ถนนไร้ฝุ่นในชนบทได้ 1,750 กิโลเมตร (http://goo.gl/D1pLsA) การก่อสร้างนี้นัยว่าเพื่อให้เป็นทางจักรยาน ซึ่งแพงมาก การสร้างถนนนี้ก็เพื่อพวกคหบดีมีเงินมากมายที่ซื้อจักรยานแพง ๆ มาขี่อวดโฉมกันหรืออย่างไร ไปสร้างในเขตชานเมืองโดยซื้อที่ราคาถูก ๆ ทำเลนให้ขี่เล่น ยังคุ้มค่ากว่ามากนัก เช่น ซื้อที่ 100 ไร่ ๆ ละ 2 ล้านบาท รวม 200 ล้านบาท และปรับปรุงเป็นที่ขี่จักรยานอีก 50 ล้านบาท รวม 250 ล้านบาท เอาเงินของชาติมาบริจาคให้เหล่าคนรวยที่ชอบขี่จักรยานเล่น ยังดีกว่ามาผลาญงบประมาณแผ่นดินในลักษณะนี้ นี่คือข้อคิดจาก ดร.โสภณ หากเทียบกับสวนลุมพินี ซึ่งเป็นสวนสาธารณะที่ดีและใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งในกรุงเทพมหานครนั้น พบว่ามีผู้ใช้สอยเพียงวันละ 8,500 คน กรณีสร้างถนนจักรยานที่หวังจะมีนักท่องเที่ยวมาคงจะเป็นฝันที่ไม่เป็นจริง นักท่องเที่ยงคงมาดูอย่างอื่นมากกว่า ดังนั้นอาจประมาณว่ามีคนใช้สอยเพียง 1/3 ของสวนลุมพินี หรือราว 3,000 คน หากค่าก่อสร้างเป็นเงิน 14,000 ล้านบาท หรือคิดเป็นรายได้ปีละ 700 ล้านบาท (จากอัตราดอกเบี้ย 5%) หากมีคนใช้สอยเพียงวันละประมาณ 3,000 คน รวม หรือปีละ 1,095,000 คน ก็เท่ากับรัฐบาลประเคนให้คนเหล่านี้คนละ 639 บาทต่อครั้งที่มาเยือน แจกเงินคนเหล่านี้ไปเข้าฟิตเนส ยังไม่สิ้นเปลืองเท่านั้น แจกเงินผู้สูงอายุยังเป็นเงินแค่ 33 บาทต่อเดือนเท่านั้น นี่จึงเป็นการผลาญชาติโดยแท้ ที่มักอ้างอิงการพัฒนาริมแม่น้ำฮันในประเทศเกาหลีนั้น ดร.โสภณ กล่าวว่า เป็นการอ้างเท็จโดยแท้ เพราะในกรุงโซล เขาสร้างถนนขนาดใหญ่ข้างละ 3 ช่องทางจราจร รวมสองฝั่ง 12 ช่องทางจราจร ริมแม่น้ำเป็นเสมือนเขื่อนป้องกันน้ำท่วมได้ด้วย และในกรุงโซลยังมีสะพานข้ามแม่น้ำขนาดใหญ่ของเขาเฉลี่ยทุกระยะ 1 กิโลเมตร แต่ของไทยยังมีสะพานข้ามแม่น้ำทุกระยะ 2 กิโลเมตร ซึ่งถือว่ามีน้อยไป ถ้าจะสร้างถนนเลียบเจ้าพระยา ต้องสร้างให้เป็นถนนที่มีช่องทางจราจรไปกลับข้างละ 3 ช่อง ทั้งสองฝั่งแม่น้ำ เช่นแม่น้ำฮันที่เกาหลีใต้ อีกทางเลือกหนึ่งก็คือการสร้างถนนถนนแห่งดาราที่ฮ่องกง (Avenue of Stars) อยู่ฝั่งเกาลูนในบริเวณที่เรียกว่าจิมซาจุ่ย ซึ่งมองเห็นวิวเมืองฮ่องกงได้อย่างเหมาะเจาะสวยงาม ถือเป็นหนึ่งในพื้นที่ ๆ นักท่องเที่ยวต้องแวะมาเยี่ยมเยียนให้ได้เช่นกัน นักท่องเที่ยวนิยมไปเดินเล่น ดูลายฝ่ามือของดาราที่ตนชื่นชอบ (แต่ส่วนมากจะมีแต่แผ่นป้ายชื่อ เพราะหลายคนสิ้นชื่อไปแล้ว) ยังมีกิจกรรมต่าง ๆ เกิดขึ้นเป็นระยะ ๆ จุดโดดเด่นก็คือการไปเดินเล่นถ่ายภาพกับวิวสวย ๆ ในฝั่งตรงข้ามซึ่งเป็นเกาะฮ่องกง ซึ่งสามารถไปเยี่ยมชมได้ตลอดทั้งกลางวันและกลางคืน ยิ่งในเวลาค่ำคืน ยังมีการแสดงแสงสีเสียงให้เห็นถึงฝั่งฮ่องกงอีกด้วย กรณีนี้เราสามารถสร้างบริเวณวังหลวง/วัดอรุณ หรือสาทรทั้งสองฝั่ง เป็นต้น ไม่ต้องสร้างเป็นแนวยาวแต่อย่างใด (http://bit.ly/1UaOKf9) อ้างอิง: AREA แถลง ฉบับที่ 119/2559: วันจันทร์ที่ 04 เมษายน 2559 ผู้แถลง: ดร.โสภณ พรโชคชัย (sopon@area.co.th) ประธานกรรมการบริหาร ศูนย์ข้อมูลวิจัยและประเมินค่าอสังหาริมทรัพย์ไทย บจก. เอเจนซี่ ฟอร์ เรียลเอสเตท แอฟแฟร์ส หรือ AREA (www.area.co.th): ซึ่งเป็นองค์กรที่มีฐานข้อมูลอสังหาริมทรัพย์ภาคสนามขนาดใหญ่ที่สุดและปรับปรุงให้ทันสมัยที่สุดในประเทศไทย และดำเนินการเก็บข้อมูลต่อเนื่องมาตั้งแต่ พ.ศ.2537 เป็นศูนย์ข้อมูลที่มีความเป็นกลางทางวิชาการ และเป็นอิสระทางวิชาชีพ โดยไม่ถูกครอบงำโดยผู้มีส่วนได้ส่วนเสียใด ๆ สมาชิกของศูนย์ข้อมูลฯ ได้รับข้อมูลที่เป็น First-hand information ในเวลาเดียวกัน

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ