ควรรื้อที่มาของคณะกรรมการจัดสรรที่ดินกลาง

ข่าวอสังหา Friday October 30, 2015 14:56 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--29 เม.ย.--เอเจนซี่ ฟอร์ เรียลเอสเตท แอฟแฟร์ส ทำไมคณะกรรมการจัดสรรที่ดินกลางตาม พรบ.จัดสรรที่ดินล่าสุด ก็ยังมีแต่ข้าราชการมากินตำแหน่ง แถมกำหนดให้ผู้ทรงคุณวุฒิไม่น้อยกว่าครึ่งหนึ่งเป็นผู้ดำเนินกิจการเกี่ยวกับการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ ในร่างพระราชบัญญัติจัดสรรที่ดินฉบับล่าสุดให้กึ่งหนึ่งของกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิมาจากผู้ดำเนินกิจการเกี่ยวกับการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ อย่างนี้ผู้บริโภคจะเสียเปรียบหรือไม่ การแต่งตั้งก็ยังอาจไม่เป็นธรรม ไม่เป็นประชาธิปไตย ระบบที่ให้ข้าราชการระดับสูงมาเป็นกรรมการโยงไปโยงมาก็ควรรื้อได้แล้ว ทั้งนี้ เมื่อเร็ว ๆ นี้พระราชบัญญัติจัดสรรที่ดินฉบับล่าสุดได้ผ่านความเห็นชอบของสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (โปรดดูรายละเอียดที่ http://goo.gl/yPfLEI) ได้กำหนดไว้ว่า "มาตรา 3 ให้ยกเลิกความในมาตรา 7 แห่งพระราชบัญญัติจัดสรรที่ดิน พ.ศ.2543 และให้ใช้ข้อความต่อไปนี้แทน มาตรา 7 ให้คณะกรรมการจัดสรรที่ดินกลาง ประกอบด้วย ปลัดกระทรวงมหาดไทย เป็นประธานกรรมการ อัยการสูงสุด อธิบดีกรมการปกครอง อธิบดีกรมชลประทาน อธิบดีกรมโยธาธิการและผังเมือง เลขาธิการคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค เลขาธิการสำนักงานนโยบายและแผนทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม และผู้ทรงคุณวุฒิจำนวนหกคนซึ่งรัฐมนตรีแต่งตั้งจากผู้มีความรู้ ความสามารถ หรือประสบการณ์ในด้านการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ การผังเมือง การบริหารชุมชน หรือกฎหมาย เป็นกรรมการ. . . กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิตามวรรคหนึ่ง ให้แต่งตั้งจากผู้แทนภาคเอกชนซึ่งเป็นผู้ดำเนินกิจการเกี่ยวกับการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ไม่น้อยกว่ากึ่งหนึ่ง" การแต่งตั้งผู้ทรงคุณวุฒินั้นไม่ควรกำหนดให้มีผู้ดำเนินกิจการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ "ไม่น้อยกว่ากึ่งหนึ่ง" เพราะผู้ดำเนินกิจการเกี่ยวกับการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์เป็นผู้มีส่วนได้ส่วนเสียที่อยู่ภายใต้การควบคุมโดยตรง ในวงการนี้ยังมีองค์กรที่เกี่ยวข้องมากมาย เช่น สมาคมอสังหาริมทรัพย์นับสิบแห่ง (ไม่ใช่มีแค่ 3 แห่ง) ภาคก่อสร้าง เช่นสมาคมธุรกิจรับสร้างบ้าน สมาคมไทยรับสร้างบ้าน สมาคมอุตสาหกรรมก่อสร้างไทยฯ อีกนับ 10 สมาคม ภาคการเงิน (อีก 3 สมาคม) ภาคนักวิชาชีพ (ผู้ประเมินค่าทรัพย์สิน นายหน้า บริหารทรัพย์สิน อีกนับสิบสมาคม) ประชาชนผู้บริโภครวมทั้งนิติบุคคลบ้านจัดสรร-อาคารชุดนับพันแห่ง ผู้ทรงคุณวุฒิในวงการศึกษา เป็นต้น การกำหนดให้กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิไม่น้อยกว่ากึ่งหนึ่งมาจากผู้ประกอบการพัฒนาที่ดิน จึงเป็นสิ่งที่พึงทบทวน คำว่า "ไม่น้อยกว่ากึ่งหนึ่ง" แสดงว่าอาจเป็นผู้ดำเนินกิจการเกี่ยวกับการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์เกือบทั้งหมดก็เป็นไปได้ กลายเป็นว่าในคณะกรรมการจัดสรรที่ดินถูกยึดกุมโดยผู้มีส่วนได้ส่วนเสียเพียงฝ่ายเดียว เพราะกรรมการที่เหลือก็เป็นข้าราชการทั้งสิ้น อีกประเด็นหนึ่งก็คือการให้รัฐมนตรีแต่งตั้งผู้ทรงคุณวุฒิที่ไม่ใช่ข้าราชการ 6 คนนั้น มาตรฐานการแต่งตั้งคืออะไร ที่ผ่านมาอยู่ที่ความพอใจ การรู้จักมักคุ้น "เส้นสาย" หรือไม่ แม้แต่ในฝ่ายของ "ผู้ดำเนินกิจการเกี่ยวกับการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์" เอง ก็ควรมีการคัดสรรที่เป็นธรรมและเป็นประชาธิปไตย ทางออกก็คือควรจัดประชุม "ผู้ดำเนินกิจการเกี่ยวกับการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์" ทั่วประเทศ แล้วให้คัดสรรกันเองในที่ประชุม ไม่ใช่ผ่านระบบสมาคม เพราะ "ผู้ดำเนินกิจการเกี่ยวกับการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์" ส่วนใหญ่ก็ไม่ได้เป็นสมาชิกของสมาคม ส่วนผู้ทรงคุณวุฒิอื่น ก็ควรผ่านการเลือกตั้งจากแต่ละสาขาวิชาชีพ ไม่ใช่ให้สมาคมต่าง ๆ ซึ่งอาจไม่ใช่ตัวแทนที่แท้จริงของนักวิชาชีพมาเป็นกรรมการ ยิ่งกว่านั้นระบบของคณะกรรมการจัดสรรที่ดิน หรือคณะกรรมการใด ๆ ในประเทศไทย ควรพิจารณา "รื้อ" ใหม่ได้แล้ว ไม่ใช่แต่งตั้งให้หัวหน้าส่วนราชการต่าง ๆ มา "กินตำแหน่ง" หรือรับเบี้ยประชุมเพิ่มเติมในเวลาราชการ กลายเป็นการสร้างระบบราชการที่ไม่โปร่งใส ผมจึงขอเสนอว่า: 1. ราชการส่วนที่เกี่ยวกับการควบคุมที่เกี่ยวข้อง เช่น กรมที่ดิน กรมชลประทาน ไฟฟ้า ประปา สาธารณูปโภคอื่น ควรมีผู้แทนมาเป็นกรรมการเพื่อการประสานงานโดยไม่จำเป็นต้องเป็นหัวหน้าส่วนราชการที่มีภารกิจมากมายอยู่แล้ว 2. คณะกรรมการจัดสรรที่ดินกลาง ควรเป็นองค์กรโดยเอกเทศ ประกอบด้วยกรรมการที่มีวาระการเป็นกรรมการที่แน่นอนเช่น 2-4 ปี (ห้ามเป็นซ้ำเพื่อ "ไม่ให้รากงอก") มาจากผู้แทนของผู้มีส่วนได้ส่วนเสียเป็นสำคัญ ทั้ง "ผู้ดำเนินกิจการเกี่ยวกับการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์" นักวิชาชีพ โดยเฉพาะผู้บริโภคที่เป็นประธานนิติบุคคลบ้านจัดสรรและอาคารชุดที่มีประสบการณ์ตรงกับผลของการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ ผู้แทนของแต่ละภาคส่วนให้มาจากการจัดประชุมเลือกตั้งโดยตรง ไม่ใช่ผ่านมาจากสมาคม ซึ่งอาจไม่ใช่ผู้แทนของผู้เกี่ยวข้อง ในการออกกฎหมายใดๆ นั้น ต้องคำนึงถึงผลประโยชน์ของประชาชนเป็นศูนย์กลาง ประชาชนไทยเป็นเจ้าของประเทศนี้ อ้างอิง:AREA แถลง ฉบับที่ 327/2558: วันศุกร์ที่ 30 ตุลาคม 2558 ผู้แถลง: ดร.โสภณ พรโชคชัย (sopon@area.co.th) ประธานกรรมการบริหาร ศูนย์ข้อมูลวิจัยและประเมินค่าอสังหาริมทรัพย์ไทย บจก. เอเจนซี่ ฟอร์ เรียลเอสเตท แอฟแฟร์ส หรือ AREA (www.area.co.th): ซึ่งเป็นองค์กรที่มีฐานข้อมูลอสังหาริมทรัพย์ภาคสนามขนาดใหญ่ที่สุดและปรับปรุงให้ทันสมัยที่สุดในประเทศไทย และดำเนินการเก็บข้อมูลต่อเนื่องมาตั้งแต่ พ.ศ.2537 เป็นศูนย์ข้อมูลที่มีความเป็นกลางทางวิชาการ และเป็นอิสระทางวิชาชีพ โดยไม่ถูกครอบงำโดยผู้มีส่วนได้ส่วนเสียใด ๆ สมาชิกของศูนย์ข้อมูลฯ ได้รับข้อมูลที่เป็น First-hand information ในเวลาเดียวกัน

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ