ชาญอิสสระ จัดงานประชุมสามัญผู้ถือหุ้น ประจำปี 2559 รายงานผลประกอบการปี 2558 มีรายได้ 2,744 ล้านบาท เติบโตกว่า 67%

ข่าวหุ้น-การเงิน Tuesday May 10, 2016 16:26 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--10 พ.ค.--Branded The Agency บริษัท ชาญอิสสระ ดีเวล็อปเมนท์ จำกัด (มหาชน) ผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์ จัดงานประชุมสามัญผู้ถือหุ้น ประจำปี 2559 รายงานผลประกอบการปี 2558 มีรายได้ 2,744 ล้านบาท เติบโตกว่า 67% เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันในปี 2557 พร้อมจ่ายเงินปันผลให้กับผู้ถือหุ้นในอัตราหุ้นละ 0.12 รวมเป็นเงินปันผลจ่ายทั้งสิ้น 86.4 ล้านบาท นายสงกรานต์ อิสสระ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการ บริษัท ชาญอิสสระ ดีเวล็อปเมนท์ จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า "ผลประกอบการในปี 2558 ของบริษัทฯ ถือว่าประสบความสำเร็จอยู่ในเกณฑ์ที่ดี โดยมีรายได้รวมทั้งสิ้นอยู่ที่ 2,744 ล้านบาท มีอัตราการเติบโตสูงขึ้นจากปี 2557 หรือคิดเป็น 67% แบ่งเป็นรายได้มาจากการขายอสังหาริมทรัพย์หลายโครงการ ประกอบด้วยโครงการบ้านทิวทะเล 1 (อความารีน) บ้านทิวทะเล 2 (บลู แซฟไฟร์) และโครงการ อิซซี่ คอนโด สุขสวัสดิ์ มีมูลค่ารวมอยู่ที่ 1,882 ล้านบาท รวมถึงโครงการอื่นๆ อีก 159 ล้านบาท ซึ่งเป็นการตอบรับนโยบายลดค่าธรรมเนียมการโอน ลดค่าจดจำนองและค่าลดหย่อนบ้านหลังแรกของรัฐบาลที่ต้องการกระตุ้นภาคธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ได้เป็นอย่างดี นอกจากนี้ยังมีรายได้จากการบริหารโรงแรม 466 ล้านบาทและรายได้จากค่าเช่าและค่าบริการ 78 ล้านบาท และรายได้อื่นๆ อีก 159 ล้านบาท โดยเมื่อรวมรายได้จากทุกภาคส่วนแล้วทำให้บริษัทมีผลกำไรสุทธิ 132 ล้านบาทและสามารถจ่ายเงินปันผลจากกำไรสุทธิให้กับผู้ถือหุ้นในอัตราหุ้นละ0.12 บาท รวมเป็นเงินปันผลจ่ายทั้งสิ้น 86.4 ล้านบาท" สำหรับในปี 2559 ยังคงเดินหน้าขยายธุรกิจอย่างต่อเนื่องตามแผนงาน โดยในเดือนมกราคมที่ผ่านมา ได้เปิดบริการโรงแรมส่วนต่อขยายของศรีพันวาภูเก็ต ภายใต้ชื่อ ฮาบิตะ รวมมูลค่าโครงการอยู่ที่ 1,300 ล้านบาท และเมื่อเร็วๆ นี้ได้เปิดตัวโครงการโรงแรม บาบาบีช คลับ โฮเทล แอนด์ รีสอร์ต ชะอำ-หัวหิน โรงแรมสไตล์บีชคลับระดับลักซ์ชัวรี่ มูลค่ากว่า 1,700 ล้านบาท รวมถึงจะมีการเปิดตัวโครงการอสังหาริมทรัพย์ระดับไฮเอนด์ คือบ้านจัดสรร 2 โครงการบนถนนพระราม 9 มูลค่า 1,400 ล้านบาท และโครงการบางนา-ตราด มูลค่า 1,700 ล้านบาท "ถึงแม้ว่าสถานการณ์เศรษฐกิจและการเมือง ยังมีความผันผวนและมีความไม่แน่นอนในปีนี้ แต่เรามีความเชื่อมั่นว่าภาพรวมธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ ยังสามารถเติบโตได้เพราะยังคงมีความต้องการทั้งในส่วนของผู้อยู่อาศัยและนักลงทุน และปัจจัยอีกหลายด้าน ไม่ว่าจะเป็นนโยบายส่งเสริมและกระตุ้นภาคธุรกิจอสังหาริมทรัพย์อย่างต่อเนื่อง การพัฒนาระบบคมนาคม ฯลฯ ดังนั้นผู้ประกอบการอสังหาริมทรัพย์ควรให้ความสำคัญและมุ่งเน้นในการพัฒนาโครงการอสังหาริมทรัพย์ให้มีคุณภาพจะทำให้ได้รับความสนใจและตอบรับที่ดีจากกลุ่มลูกค้า" นายสงกรานต์ กล่าวสรุป

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ