กรุงเทพฯ--11 พ.ค.--พีอาร์ดีดี
สภาวะตลาดวันที่ 11 พฤษภาคม 2559 ราคาทองคำแกว่งตัวในกรอบที่ระดับ 1,265.28.-1,274.40 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ขณะที่ราคาทองคำแท่ง 96.5% ภายในประเทศขายออกอยู่ที่ 21,250 บาทต่อบาททองคำ โดยราคาปรับตัวเพิ่มขึ้น 100 บาท จากวันก่อนหน้าที่ระดับ 21,150 บาทต่อบาททองคำ ขณะที่โกลด์ฟิวเจอร์ส GFM16 อยู่ที่ 21,340 บาท โดยราคาปรับตัวเพิ่มขึ้น 80 บาท จากวันก่อนหน้าที่ระดับ 21,260 บาท
(หมายเหตุ: ข้อมูลนี้จัดทำขึ้น ณ เวลา 15.46 น.ของวันที่ 11/05/16)
แนวโน้มวันที่ 12 พฤษภาคม 2559
ราคาทองคำพุ่งทะลุระดับ 1,200 ดอลลาร์ต่อออนซ์ในช่วงต้นเดือนกุมภาพันธ์เป็นครั้งแรกนับตั้งแต่กลางปี 2015 โดยปรับตัวขึ้นเมื่อดอลลาร์อ่อนค่าลง เนื่องจากการคาดการณ์ที่ว่าธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ยังไม่ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในระยะเวลาอันใกล้ ขณะที่ราคาทองคำทรงตัวเหนือระดับ 1,250 ดอลลาร์เกือบตลอดช่วง 3 สัปดาห์ที่ผ่านมาได้ เหตุผลดังกล่าว โกลด์แมน แซคส์ จึงปรับทบทวนคาดการณ์ราคาทองคำขึ้นโดยราคาระยะ 3 เดือนปรับขึ้นสู่ระดับ 1,200 ดอลลาร์ต่อออนซ์ จากระดับ 1,100 ดอลลาร์ต่อออนซ์, 6 เดือนปรับขึ้นสู่ระดับ 1,180 ดอลลาร์ต่อออนซ์จากระดับ 1,050 ดอลลาร์ต่อออนซ์ และ 12 เดือนปรับขึ้นสู่ระดับ 1,150 ดอลลาร์ต่อออนซ์จากระดับ 1,100 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ประเด็นดังกล่าว สร้างมุมมองเชิงบวกต่อทิศทางราคาทองคำเพิ่มมากขึ้น ระยะสั้นเห็นแรงช้อนซื้อเก็งกำไรเข้ามายังตลาดทองคำ หลังราคาทองอ่อนตัวลงเข้าใกล้ระดับต่ำสุดในรอบ 2 สัปดาห์ ประกอบกับ ราคาทองคำในประเทศยังคงได้รับแรงหนุนจากค่าเงินบาทที่มีโอกาสจะอ่อนค่าได้บ้าง หลังจากคณะกรรมการนโยบายการเงิน(กนง.) ธนาคารแห่งประเทศไทย(ธปท.) มีมติด้วยเสียงเอกฉันท์ให้คงอัตราดอกเบี้ยนโยบายที่ 1.50% เป็นครั้งที่ 8 ติดต่อกันตามคาดไว้ โดย กนง. ประเมินถึงความเสี่ยงเพิ่มมากขึ้น จากการบริโภคและการลงทุนภาคเอกชนที่อ่อนแรงลง และความเสี่ยงจากภาวะเศรษฐกิจโลกในระดับสูง ขณะที่การแข็งค่าของเงินบาทในช่วงก่อนหน้านี้ไม่เอื้อต่อการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ แต่ยืนยันว่ามีเครื่องมือพร้อมดูแลความผันผวนของเงินบาท อย่างไรก็ตาม วายแอลจีเชื่อว่าราคาทองคำมีแนวโน้มที่จะเคลื่อนไหวในกรอบ ซึ่งบริเวณ 1,255 ดอลลาร์ต่อออนซ์เป็นแนวรับหากราคาทองคำสามารถยืนเหนือโซนดังกล่าวได้มีโอกาสที่ราคาจะขึ้นทดสอบแนวต้านด้านบนบริเวณ 1,280-1,287 ดอลลาร์ต่อออนซ์
กลยุทธ์การลงทุน วายแอลจีแนะนำ สำหรับผู้ที่ไม่มีทองคำในมือ แนะนำให้ลงทุนระยะสั้นโดยรอซื้อเมื่อราคาย่อตัวลงไปบริเวณแนวรับที่ 1,257-1,255 ดอลลาร์ต่อออนซ์ และให้ขายทำกำไรเมื่อราคาดีดตัวขึ้น โดยราคาทองคำมีลักษณะการแกว่งตัวในระยะสั้นเพื่อสะสมกำลัง โดยมีการทรงตัวรักษาระดับไว้ น่าจะพอทำให้ในระยะสั้นนี้ราคาจะเคลื่อนไหวในกรอบแบบ Sideway โดยหากราคาทองคำไม่สามารถยืนเหนือแนวต้านได้อย่างแข็งแกร่ง นักลงทุนยังต้องระมัดระวังแรงขายทางเทคนิคและนักลงทุนควรตั้งจุดตัดขาดทุนหากราคาหลุดบริเวณแนวรับ เพื่อลดความเสียหายของพอร์ทการลงทุน ในขณะที่นักลงทุนที่มีทองคำในมือ ให้ขายทำกำไรเมื่อราคาดีดตัวหรือไม่ผ่านบริเวณแนวต้าน 1,280 หรือ 1,287 ดอลลาร์ต่อออนซ์ แล้วรอไปซื้อคืนบริเวณแนวรับสำคัญ
ทองคำแท่ง (96.50%)
แนวรับ 1,255 (20,940บาท) 1,246 (20,790บาท) 1,239 (20,670บาท)
แนวต้าน 1,280 (21,360บาท) 1,287 (21,480บาท) 1,296 (21,630บาท)
GOLD FUTURES (GFM16)
แนวรับ 1,255 (21,070บาท) 1,246 (20,920บาท) 1,239 (20,800บาท)
แนวต้าน 1,280 (21,490บาท) 1,287 (21,610บาท) 1,296 (21,760บาท)
หากต้องการทราบทิศทางราคาทองคำและแนวทางลงทุนทองคำ ขอคำปรึกษาเพิ่มเติมจากทีมที่ปรึกษาการลงทุนด้านโกล์ดฟิวเจอร์ส โทร.02-687-9999