รมว.พม. เร่งกำชับเจ้าหน้าที่ช่วยเหลือชายพิการตาบอดวัย ๕๕ ปี ป่วยเป็นอัมพฤกษ์ช่วยเหลือตัวเองไม่ได้ ไม่มีบัตรประชาชนและเอกสารยืนยันตัวตนใดๆที่จ.ฉะเชิงเทรา พร้อมชื่นชมชายชราอายุยืน ๑๐๙ ปีมีสุขภาพแข็งแรง เดินได้คล่องแคล่ว และสามารถปั่นจักรยานได้ ที่ จ.ราชบุรี

ข่าวทั่วไป Thursday May 12, 2016 12:08 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--12 พ.ค.--กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ที่กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ สะพานขาว กรุงเทพฯ พลตำรวจเอก อดุลย์ แสงสิงแก้ว รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (รมว.พม.) เปิดเผยหลังการประชุมศูนย์ปฏิบัติการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (ศปก.พม.) ครั้งที่ ๓๙๐/๒๕๕๗-๒๕๕๙ เพื่อรับทราบปัญหาทางสังคมต่างๆ ที่เกิดขึ้นในแต่ละวัน และร่วมหาแนวทางการแก้ไขปัญหาและการป้องกันปัญหาดังกล่าว โดยมีผู้บริหารและผู้แทนจากหน่วยงานในกระทรวงฯ เข้าร่วมประชุม ว่า จากกรณีชายพิการตาบอดตั้งแต่กำเนิด วัย ๕๕ ปี พ่อ-แม่ ไม่ได้ไปแจ้งเกิดให้ จึงไม่มีบัตรประชาชนและหลักฐานยืนยันตัวตนใดๆ แต่ไม่ย่อท้อในชีวิต ออกตระเวนร้องเพลงหาเลี้ยงชีพ อาศัยนอนตามข้างทาง แต่ซ้ำร้ายมาป่วยเป็นอัมพฤกษ์ ช่วยเหลือตัวเองไม่ได้ แต่โชคยังดีมีชายเพื่อนบ้านใจบุญวัย ๕๔ ปี รับภาระดูแลมากว่า ๓๐ ปี และให้อาศัยอยู่ด้วย ที่จังหวัดฉะเชิงเทรา ตนได้กำชับให้พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดฉะเชิงเทรา (พมจ.ฉะเชิงเทรา) ลงพื้นที่เยี่ยมบ้านเพื่อตรวจสอบข้อเท็จจริงและให้การช่วยเหลือ ในเบื้องต้นตามภารกิจของกระทรวงการพัฒนาสังคมฯ พร้อมมอบของใช้ที่จำเป็น และประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องดูเรื่องการรักษาพยาบาลอย่างต่อเนื่องต่อไป พลตำรวจเอก อดุลย์ กล่าวเพิ่มเติมว่า สำหรับกรณีที่อำเภอบ้านโป่ง จังหวัดราชบุรี พบชายชราอายุยืนวัย ๑๐๙ ปี มีสุขภาพแข็งแรง เดินได้คล่องแคล่ว และสามารถปั่นจักรยานได้ อาศัยอยู่กับลูกชายวัย ๗๐ ปีและลูกสาววัย ๖๔ ปี ด้านลูกสาวเผยเคล็ดลับอายุยืนของชายชราว่าผู้เป็นพ่อจะชอบทานน้ำพริก ผักลวก ปลา และผลไม้เป็นอย่างมาก รวมถึงทำจิตใจให้ผ่องใส และหมั่นออกกำลังกายอยู่เสมอ ตนขอชื่นชมชายชราคนดังกล่าว ที่รู้จักดูแลรักษาสุขภาพตัวเองอยู่เสมอ ถึงแม้จะชราภาพแล้ว ยังหมั่นออกกำลังกาย รับประทานอาหารที่เป็นประโยชน์ ทำจิตใจผ่องใส มีสุขภาพจิตดี น่ายกย่องเป็นตัวอย่างที่ดีแก่ผู้สูงอายุในการดูแลตัวเอง และกำชับให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง โดยเฉพาะกรมกิจการผู้สูงอายุ (ผส.) เก็บสติไว้เป็นตัวอย่างของการส่งเสริมสุขภาพของผู้สูงอายุ โดยให้คำนึงถึงหลัก ๓ อ. คือ "อาหาร อารมณ์ ออกกำลังกาย"

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ