CHOW เยี่ยม! โค้งแรกปี 59 กำไรพุ่งกว่า 380% ธุรกิจเหล็กฟื้น/รับรู้รายได้จากธุรกิจพลังงานเพิ่ม

ข่าวหุ้น-การเงิน Monday May 16, 2016 14:14 —ThaiPR.net

Bangkok--16 May--เค พลัส พีอาร์ CHOW กลับมาโชว์ผลงานเยี่ยม โค้งแรกปี 59 กำไรพุ่ง 381.60% หลังธุรกิจเหล็กฟื้นตัว ราคาเหล็กปรับขึ้น/ออเดอร์เพิ่ม ในขณะที่ธุรกิจพลังงานโรงไฟฟ้าในญี่ปุ่นรับรู้รายได้อย่างมีนัยสำคัญ "อนาวิล จิรธรรมศิริ" มั่นใจปี 59 CHOW กลับมาโชว์ฟอร์มสวย หลังพบออเดอร์เหล็กพุ่งต่อเนื่อง ส่วนธุรกิจพลังงานเตรียมขายไฟเพิ่มอีกหลายโครงการ กำลังการผลิตรวมกว่า 80 เมกะวัตต์ จากปี 58 ขายไฟได้เพียง 8.92 เมกะวัตต์ นายอนาวิล จิรธรรมศิริ ประธานกรรมการบริหาร บริษัท เชาว์ สตีล อินดัสทรี้ จำกัด (มหาชน) หรือ CHOW ผู้ประกอบธุรกิจผลิตและจำหน่ายผลิตภัณฑ์เหล็กแท่งยาว (Steel Billet) รายใหญ่ของประเทศที่มีคุณภาพเป็นที่ยอมรับในระดับสากล และธุรกิจพลังงาน ประเภทโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ ทั้งในและต่างประเทศ เปิดเผยถึงผลประกอบการงวด 3 เดือนประจำไตรมาส 1 สิ้นสุดวันที่ 31 มีนาคม 2559 ว่า บริษัทฯ และบริษัทย่อยมีกำไรสุทธิ จำนวน 48.83 ล้านบาท หรือหุ้นละ 0.06 บาท เพิ่มขึ้น 66.16 ล้านบาท หรือหุ้นละ 0.08 บาท คิดเป็นร้อยละ 381.60 เมื่อเทียบกับปี 2558 ที่มีขาดทุนสุทธิรวม 17.34 ล้านบาท หรือหุ้นละ 0.02 บาท สำหรับผลประกอบการที่เพิ่มขึ้นมาจากบริษัทฯ และบริษัทย่อยมีรายได้รวมสำหรับงวด 3 เดือนสิ้นสุดวันที่ 31 มีนาคม 2559 จำนวน 1,292.52 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 629.17 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้นร้อยละ 94.85 เมื่อเทียบกับปี 2558 ที่มีรายได้รวมจำนวน 663.35 ล้านบาท เนื่องจากรายได้จากการจำหน่ายเหล็กเพิ่มขึ้น 112.95 ล้านบาท คิดเป็นร้อยละ 20.66 สาเหตุเนื่องจากมีการนำเข้าเหล็กลดลงตามมาตรฐการของรัฐบาล ทำให้ราคาสินค้าเริ่มปรับตัวสูงขึ้น และบริษัทสามารถขายสินค้าได้ในปริมาณที่เพิ่มขึ้น ส่วนบริษัทย่อยได้รับรู้รายได้จำนวน 581.57 ล้านบาท ซึ่งประกอบด้วยรายได้จากการจำหน่ายไฟฟ้าในต่างประเทศจำนวน 4โครงการและในประเทศ 1 โครงการ ขนาดกำลังการผลิต 15.64 เมกะวัตต์ และรายได้จากการพัฒนาโครงการจำนวน 1 โครงการ ขนาดกำลังการผลิต 12 เมกะวัตต์ และรายได้จากการก่อสร้างโครงการตามอัตราส่วนงานที่ทำเสร็จจำนวน 1 โครงการ ขนาดกำลังการผลิต 27.22 เมกะวัตต์ นายอนาวิลกล่าวอีกว่า การปรับเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญของรายได้และกำไรในไตรมาสแรกปี 2559 เชื่อว่าจะส่งผลต่อเนื่องให้ผลประกอบการในปี 2559 มีแนวโน้มเติบโตจากปี 2558 อย่างชัดเจน จากการฟื้นตัวของธุรกิจเหล็กต้นน้ำ และจากการรับรู้รายได้เพิ่มในธุรกิจพลังงาน ที่ได้ลงทุนไปแล้วในปี 2558 ที่ผ่านมา โดยพบว่าในปี 2559 ความต้องการใช้เหล็กในประเทศได้ปรับตัวดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง หลังจากที่ภาครัฐใช้มาตรฐานอุตสาหกรรม (มอก.) เข้ามาควบคุมคุณภาพเหล็กนำเข้าจากต่างประเทศ ทำให้เหล็กคุณภาพต่ำจากต่างประเทศไม่สามารถเข้ามาจำหน่ายในประเทศได้ ส่งผลให้ราคาเหล็กในประเทศปรับตัวดีขึ้น และผู้ประกอบการเหล็กปลายน้ำหันมาสั่งซื้อเหล็กต้นน้ำที่ผลิตในประเทศเพิ่มมากขึ้นในทิศทางเดียวกันด้วย "ปีนี้อุตสาหกรรมเหล็กแท่งยาว หรือ Steel Billet ดีขึ้นตั้งแต่เดือนแรกของปี จากการใช้มาตรฐาน มอก.เข้ามาควบคุมคุณภาพเหล็กนำเข้าจากต่างประเทศ ทำให้เหล็กคุณภาพต่ำเข้ามาในตลาดไทยได้ยากขึ้น โดยพบว่า CHOW เริ่มมีคำสั่งซื้อสินค้าเหล็กต้นน้ำเข้ามาหนาแน่นขึ้น เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีคำสั่งซื้อเข้ามาน้อยมาก ซึ่งจะสนับสนุนให้ธุรกิจเหล็กฟื้นตัวขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ ประกอบกับในปีนี้จะรับรู้รายได้จากธุรกิจพลังงานเข้ามาเพิ่มจากโครงการที่พร้อมขายไฟในปี 2558 และจากโครงการใหม่ที่จะสร้างเสร็จและพร้อมขายไปในปีนี้ ซึ่งคาดว่าไม่ต่ำกว่า 80 เมกะวัตต์ ดังนั้นจะสะท้อนให้ผลประกอบการของ CHOW ในปีนี้กลับมาเติบโตโดเด่นได้อีกครั้ง ตามแผนงานที่ได้วางไว้" นายอนาวิล กล่าว

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ