"แสนสิริ" ส่งสัญญาณชี้ตลาดบ้านเริ่มฟื้นตัว

ข่าวทั่วไป Friday June 30, 2000 08:32 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--30 มิ.ย.--อาซิแอม เบอร์สัน-มาร์สเตลเลอร์
"แสนสิริ รีเสิร์ช" ชี้ผู้บริโภคมีความเชื่อมั่นในเศรษฐกิจไทยมากขึ้น ส่งผลให้ความต้องการที่อยู่อาศัยขยายตัวเพิ่ม 15% เมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมา ขณะที่โครงการใหม่เตรียมจ่อคิวเข้าตลาดอีกกว่า 8,000 หน่วย
ฝ่ายวิจัยบริษัท แสนสิริ จำกัด (มหาชน) เปิดเผยถึงผลการวิจัยตลาดที่อยู่อาศัยโดยเน้นเฉพาะ บ้านเดี่ยวและทาวน์เฮาส์ในเขตกรุงเทพฯ และปริมณฑลรวม 5 จังหวัด ได้แก่ ปทุมธานี นนทบุรี สมุทรปราการ สมุทรสาครและนครปฐม พบว่า ในช่วงครึ่งปีแรกของปี 2543 ตลาดบ้านเดี่ยวและทาวน์เฮาส์มีการขยายตัวขึ้นเปรียบเทียบกับช่วงครึ่งปีหลังของปีที่ผ่านมา ทั้งนี้เนื่องจากผู้บริโภคเริ่ม เกิดความเชื่อมั่นต่อเศรษฐกิจไทย ตลอดจนกลยุทธ์การส่งเสริมการตลาดของผู้ประกอบการอสังหาริมทรัพย์ รวมถึงการที่สถาบันการเงินมีการแข่งขันในการปล่อยสินเชื่อแก่ผู้ซื้อบ้านได้กระตุ้นให้ผู้บริโภคเกิดความต้องการและสนใจในการซื้อบ้านเพิ่มมากขึ้น ในการศึกษาครั้งนี้ "แสนสิริ รีเสิร์ช" มุ่งเน้นการสำรวจโครงการบ้านเดี่ยวและทาวน์เฮาส์ของ ผู้ประกอบการที่มีโครงการในกรุงเทพฯ หรือปริมณฑลมากกว่าหนึ่งโครงการ และมีแผนการตลาดที่เข้มแข็ง ซึ่งผลการวิจัยพบว่า มีจำนวนบ้านเหลือขายจำนวนทั้งสิ้น 12,919 หน่วย จาก 137 โครงการทั้งในเขตกรุงเทพฯ และปริมณฑล แบ่งเป็นในกรุงเทพฯ 72 โครงการ จำนวน 6,133 หน่วย หรือเฉลี่ย 85 หน่วยต่อหนึ่งโครงการ และเขตปริมณฑล 65 โครงการ จำนวน 6,786 หน่วย หรือเฉลี่ย 104 หน่วยต่อหนึ่งโครงการ ทั้งนี้ โครงการส่วนใหญ่ตั้งอยู่ในทิศตะวันออกเฉียงเหนือของกรุงเทพฯ และในจังหวัดปทุมธานี คือ 3,558 หน่วยและ 2,846 หน่วยตามลำดับ ขณะที่ด้าน ทิศเหนือของกรุงเทพ จังหวัดสมุทรปราการและจังหวัดนครปฐมมีจำนวนบ้านเหลือขายน้อยที่สุด คือ ต่ำกว่า 200 หน่วยในแต่ละพื้นที่
รูปแบบบ้านของโครงการในกรุงเทพฯ และปริมณฑลส่วนใหญ่จะสร้างเป็นแบบบ้านเดี่ยว ซึ่งนับเป็นแบบที่ได้รับความนิยมสูงสุดจากการสำรวจโดย แสนสิริ รีเสิร์ช ในปีที่ผ่านมา และคาดว่าจะยังคงเป็นแบบที่ได้รับความนิยมในปีนี้และปีหน้า ขณะที่แบบทาวน์เฮาส์จะได้รับความนิยมรองลงมา
ยอดขายเพิ่มขึ้น 15%
สำหรับยอดขายนั้น จากการสำรวจในเดือนมีนาคม 2543 พบว่า ยอดขายบ้านมีการปรับตัวขึ้น ร้อยละ 15 เปรียบเทียบกับเดือนกันยายนของปีที่ผ่านมา คือจากจำนวน 428 หน่วย เป็น 490 หน่วยหรือยอดขายเฉลี่ย 4 หน่วยต่อหนึ่งโครงการในเวลาหนึ่งเดือน โดยแบ่งเป็นยอดขายในกรุงเทพฯ จำนวน 234 หน่วยจาก 72 โครงการ ซึ่งเป็นการเพิ่มขึ้นร้อยละ 3 และยอดขายในปริมณฑลจำนวน 256 หน่วยจาก 65 โครงการ เพิ่มขึ้นร้อยละ 26 ทั้งนี้ โครงการซึ่งมีที่ตั้งอยู่ในด้านตะวันออกเฉียง-เหนือของกรุงเทพฯ มียอดขายสูงสุด คือ 125 หน่วย จาก 32 โครงการ คิดเป็นร้อยละ 25 ของจำนวนบ้านที่ขายได้ในกรุงเทพฯ ขณะที่ยอดขายในปริมณฑลนั้น จังหวัดนนทบุรีมียอดขายมากที่สุด คือ 98 หน่วย จาก 21 โครงการ โดยปทุมธานี สมุทรปราการ สมุทรสาคร และนครปฐม มียอดขายบ้านรองลงมาตามลำดับ
ผลการวิจัยยังบ่งชี้ว่า การลดราคายังคงเป็นกลยุทธ์ที่ยังใช้ได้อยู่เสมอในการกระตุ้นความต้องการ โดยอัตราการลดราคาที่เคยพบในช่วงเดือนกันยายนปีที่แล้วประมาณร้อยละ 30-50 นั้นเริ่มมีให้เห็นน้อยลงในปีนี้ ซึ่งส่วนลดที่พบโดยทั่วไปจะอยู่ที่ประมาณร้อยละ 10-15 โดยโครงการในกรุงเทพฯ จะเสนอขายบ้านขนาด 50 ตารางวาในราคาเฉลี่ยประมาณ 2.26 - 3.9 ล้านบาท ซึ่งสูงกว่า โครงการในปริมณฑลที่เสนอขายราคาประมาณ 1.97-2.91 ล้านบาท ส่วนราคาเริ่มต้นสำหรับบ้านในกรุงเทพฯ ขนาด 50 ตารางวาจะอยู่ที่ 1.5 ล้านบาทเปรียบเทียบกับราคาเริ่มต้นที่ 1.4 ล้านบาทซึ่งพบในจังหวัดสมุทรปราการ
ราคาที่ดินในเขตกรุงเทพฯ ตั้งแต่ช่วงเดือนมีนาคมที่ผ่านมาเริ่มมีเสถียรภาพมากขึ้นกว่าเมื่อเดือนกันยายน 2542 โดยเฉพาะด้านทิศเหนือและตะวันออกของกรุงเทพฯ ซึ่งราคาที่ดินส่วนใหญ่ไม่มีการเปลี่ยนแปลง ขณะที่ราคาที่ดินในโครงการในจังหวัดปทุมธานีและจังหวัดนนทบุรีเริ่มมีการปรับตัวลงเฉลี่ยประมาณร้อยละ 10 - 20 และบางโครงการมีระดับราคาลดลงถึงร้อยละ 40
สำหรับที่ดินในกรุงเทพฯ ที่มีราคาสูงที่สุดอยู่ที่บริเวณทิศเหนือ โดยมีราคาประมาณ 83,000 บาทต่อตารางวา ขณะที่ราคาที่ดินที่ต่ำที่สุดมีราคาประมาณ 9,400 บาทต่อตารางวา ซึ่งพบในแถบ ตะวันออกเฉียงเหนือ ส่วนในเขตปริมณฑลพบว่าราคาที่ดินที่สูงที่สุดและต่ำที่สุดอยู่ในจังหวัดนนทบุรี โดยระดับราคาที่สูงสุดอยู่ที่ 60,000 บาทต่อตารางวาในเขตปากเกร็ด และต่ำสุดอยู่ที่ 5,700 บาทในเขตบางบัวทอง
"บ้านพร้อมอยู่" ถูกใจผู้บริโภค
จากผลการวิจัยพบว่า กลยุทธ์หลักที่ผู้ประกอบการส่วนใหญ่ใช้เพื่อกระตุ้นยอดขายในช่วงต้นปี ที่ผ่านมา คือการเปลี่ยนจากการสร้างบ้านตามคำสั่งซื้อมาเป็นการสร้างบ้านเสร็จก่อนขายหรือบ้านพร้อมอยู่ได้ทันที ซึ่งเป็นการสนองตอบความต้องการของผู้ซื้อบ้านที่กังวลเกี่ยวกับคุณภาพของบ้านตามแบบการสร้างและจำหน่ายบ้านในลักษณะดั้งเดิม รวมทั้งเกรงว่าบ้านอาจจะสร้างไม่เสร็จตามที่ได้ตกลงไว้ ดังนั้นผู้ประกอบการรายใหญ่จำนวนมากจึงแก้ปัญหาโดยการสร้างบ้านให้เสร็จก่อนที่จะขายให้แก่ผู้ซื้อบ้าน ซึ่งกลยุทธ์นี้ประสบความสำเร็จอย่างมากในช่วงที่ผ่านมาและมีส่วนทำให้ ปริมาณการก่อสร้างบ้านในกรุงเทพฯ มีอัตราเพิ่มสูงขึ้นกว่าเท่าตัวเมื่อเทียบกับปี 2542 กล่าวคือ มีการก่อสร้างจำนวนรวม 1,059 หน่วยจาก 72 โครงการในกรุงเทพฯ หรือเฉลี่ย 15 หน่วยต่อหนึ่งโครงการในเวลาหนึ่งเดือน คิดเป็นการเพิ่มขึ้นร้อยละ 54 เมื่อเปรียบเทียบกับเดือนกันยายนปีที่ ผ่านมาซึ่งมีการก่อสร้างทั้งสิ้น จำนวน 687 หน่วยหรือเฉลี่ย 10 หน่วยต่อหนึ่งโครงการ ขณะที่ในเขตปริมณฑลนั้น มีการก่อสร้างรวม 1,039 หน่วย จาก 62 โครงการ หรือเฉลี่ย 16 หน่วยต่อหนึ่งโครงการในหนึ่งเดือน โดยนนทบุรีเป็นจังหวัดที่มีการก่อสร้างบ้านมากที่สุด คือ 412 หน่วยหรือเฉลี่ยประมาณ 20 หน่วยหลังต่อหนึ่งโครงการ ซึ่งเป็นการเพิ่มขึ้นร้อยละ 85 จากจำนวน 222 หลังในเดือนกันยายนของปีที่ผ่านมา
บ้านใหม่เตรียมจ่อคิวสร้างเพิ่มอีก 8,000 หน่วย
ผลการศึกษาชี้ว่า โครงการส่วนใหญ่ทั้งในกรุงเทพฯ และปริมณฑล ยังคงมีพื้นที่เหลืออยู่เพื่อ ก่อสร้างบ้านในอนาคต คิดเป็นจำนวนรวมประมาณ 8,018 หน่วย แบ่งเป็นในกรุงเทพฯ 4,175 หน่วย และปริมณฑล 3,843 หน่วย โดยจะเป็นแบบบ้านเดี่ยว 6,556 หน่วย และแบบทาวน์เฮาส์ 1,462 หน่วย อย่างไรก็ตาม คาดว่าผู้ประกอบการส่วนใหญ่จะยังคงไม่เร่งสร้างบ้านจำนวนดังกล่าวฯ ทั้งนี้การก่อสร้างจะเริ่มก็ต่อเมื่อจำนวนบ้านเหลือขายในปัจจุบันมีปริมาณลดลงอย่างชัดเจนแล้ว เท่านั้น
ในทางตรงข้ามกับปริมาณการก่อสร้างบ้าน จำนวนบ้านที่หยุดก่อสร้างเนื่องจากขาดแคลน เงินทุนหมุนเวียนในการก่อสร้างได้ลดลงเป็นอย่างมาก โดยจำนวนบ้านที่หยุดก่อสร้างในเขตกรุงเทพฯ และปริมณฑลมีทั้งหมด 899 หน่วย ทั้งนี้ในเขตกรุงเทพฯ มีจำนวนบ้านที่หยุดก่อสร้างเฉลี่ย 7 หน่วยต่อหนึ่งโครงการในหนึ่งเดือน และเฉลี่ย 6 หน่วยต่อหนึ่งโครงการในหนึ่งเดือนในเขตปริมณฑล โดยในกรุงเทพฯ จะพบมากที่สุดในแถบตะวันออกเฉียงเหนือ จำนวนรวม 365 หน่วย ขณะที่ในเขตปริมณฑลพบมากในจังหวัดปทุมธานี โดยมีจำนวน 187 หน่วย
ต้องการข้อมูลเพิ่มเติม กรุณาติดต่อ:บริษัท อาซิแอม เบอร์สัน-มาร์สเตลเลอร์ จำกัด บริษัทแสนสิริ จำกัด (มหาชน)วราพร หรือ สาธิดา วิภาวริศ เกตุปมาโทร. 252-9871 -7 โทร. 201-3328--จบ--
-ยก-

แท็ก แสนสิริ  

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ