GCAP มั่นใจครึ่งปีหลังดีขึ้นเข้าไฮซีซันฤดูทำนา-ผลิตภัณฑ์ใหม่หนุน แจ้งผลงาน Q1/59 มีกำไรสุทธิ 10.98 ลบ. รับได้รับผลกระทบภัยแล้ง

ข่าวหุ้น-การเงิน Wednesday May 18, 2016 15:52 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--18 พ.ค.--IR PLUS GCAP ประกาศผลประกอบการไตรมาส1/59 มีกำไรสุทธิ 10.98 ล้านบาท เมื่อเปรียบเทียบกับไตรมาสเดียวกันของปีก่อน ที่มีกำไรสุทธิ 17.65 ล้านบาท ลดลง 6.67 ล้านบาท คิดเป็นร้อยละ 37.79 สาเหตุหลักมาจาก ผลกระทบของภาวะภัยแล้ง ในปี 2558 ที่ลากยาวต่อเนื่องมาถึงปี 2559 ทำให้ยอดการปล่อยสินเชื่อ เครื่องจักรกลการเกษตรลดลง ส่งผลให้รายได้จากการปล่อยสินเชื่อเครื่องจักรกลการเกษตรลดลงตามไปด้วย "สันติ หอกิตติกุล" เอ็มดี คาดว่าแนวโน้มผลประกอบการครึ่งปีหลังของ GCAP จะเติบโตดีกว่าในช่วงครึ่งปีแรก เนื่องจากเป็นช่วงไฮซีซันของฤดูทำนา ลูกค้าสินเชื่อเครื่องจักรกลทางการเกษตรจะเข้ามาขอทำสินเชื่อมากขึ้น ประกอบกับบริษัทให้บริการปล่อยสินเชื่อส่วนบุคคลและสินเชื่อนาโนไฟแนนซ์เพิ่มเข้ามา คาดผลิตภัณฑ์ใหม่ช่วยหนุนให้ผลงานของบริษัทฯปรับตัวดีขึ้น นายสันติ หอกิตติกุล กรรมการผู้จัดการ บริษัท จีแคปปิตอล จำกัด (มหาชน) หรือ GCAP เปิดเผยถึง ภาวะภัยแล้งตั้งแต่ปี 2558 ที่ผ่านมา ยังคงส่งผลกระทบสะสมต่อเนื่องมาถึงปี 2559 ซึ่งคาดว่า ภาวะภัยแล้งจะสิ้นสุดประมาณ เดือนกรกฏาคมปีนี้ ประกอบกับสินเชื่อเครื่องจักรกลการเกษตรเป็นสินเชื่อตามฤดูกาล ในช่วงครึ่งปีแรกจะมีความต้องการใช้สินเชื่อไม่มาก และจะเพิ่มมากขึ้นในช่วงครึ่งปีหลัง เพื่อเป็นการกระจายความเสี่ยงในการดำเนินธุรกิจ บริษัทฯได้ขยายธุรกิจ ด้านสินเชื่อเงินกู้เพิ่มมากขึ้น โดยในไตรมาส 1/2559 มียอดการปล่อยสินเชื่อใหม่รวม จำนวน 32.12 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 14 จากไตรมาส 1/2558 สัดส่วนการปล่อยสินเชื่อใหม่แบ่งเป็นสินเชื่อเช่าซื้อเครื่องจักรกลการเกษตรร้อยละ 64 และสินเชื่อเงินกู้ยืมร้อยละ 36 ขณะที่ไตรมาส 1/2558 มีสัดส่วนการปล่อยสินเชื่อเช่าซื้อเครื่องจักรกลการเกษตรร้อยละ 89 และสินเชื่อเงินกู้ยืมร้อยละ 11 บริษัทฯมีรายได้รวมในไตรมาส 1/2559 จำนวน 37.95 ล้านบาท ขณะที่ไตรมาส 1/2558 มีรายได้รวม 46.46 ล้านบาท ลดลง 8.51 ล้านบาทคิดเป็นร้อยละ 18 อย่างไรก็ตาม บริษัทฯมั่นใจว่าความต้องการสินเชื่อ เครื่องจักรกลการเกษตร และสินเชื่อเงินกู้ยืม จะเพิ่มมากขึ้น และเห็นผลอย่างชัดเจนในครึ่งปีหลัง "ในครึ่งปีแรกซึ่งเป็นช่วงโลว์ชีซั่น ประกอบกับปัญหาภัยแล้ง ทำให้สินเชื่อเครื่องจักรกลทางการเกษตรชะลอตัวกว่าที่คาด อย่างไรก็ดีบริษัทฯได้ปรับกลยุทธ์การให้บริการสินเชื่อใหม่ๆเพิ่มขึ้น เป็นสินเชื่อเงินกู้ยืมมีหลักประกันและสินเชื่อเสริมสภาพคล่อง โดยเน้นกลุ่มลูกค้าเดิมที่มีฐานข้อมูลอยู่แล้วและมีประวัติการชำระเงินดี ซึ่งช่วยให้ลูกค้ามีสภาพคล่องสามารถทำงานได้ต่อเนื่องอีกทั้งยังเป็นการเพิ่มบริการทางการเงินของบริษัทฯอีกด้วย และคาดว่าตลาดเครื่องจักรกลทางการเกษตรจะฟื้นตัวได้ดีในครึ่งปีหลัง" นายสันติ กล่าว นายสันติ กล่าวเพิ่มเติมว่า คาดว่าแนวโน้มผลประกอบการครึ่งปีหลังของ GCAP จะเติบโตได้ดีกว่าในช่วงครึ่งปีแรก เนื่องจากเป็นช่วงไฮซีซันของฤดูทำนา ลูกค้าสินเชื่อเครื่องจักรกลทางการเกษตรจะเข้ามาขอทำสินเชื่อมากขึ้น นอกจากนี้ GCAP ได้เริ่มให้บริการปล่อยสินเชื่อส่วนบุคคลและสินเชื่อนาโนไฟแนนซ์เพิ่มเข้ามา ซึ่งแนวโน้มความต้องการสินเชื่อมีความต้องการสูงมาก คาดว่าผลิตภัณฑ์ใหม่น่าจะช่วยทำให้ผลงานของบริษัทฯปรับตัวดีขึ้น ทั้งนี้ เมื่อวันที่ 7 เมษายน 2559 บริษัทได้ออกหุ้นกู้ อายุ 3 ปี จำนวน 200 ล้านบาท เพื่อเป็นเงินทุนหมุนเวียน และชำระหนี้ที่ครบกำหนด ซึ่งได้รับการตอบรับจากนักลงทุนจองซื้อครบเต็มจำนวน ต้องขอขอบพระคุณผู้ลงทุนที่ให้การสนับสนุน GCAP เป็นอย่างดีมา ณ โอกาสนี้ นอกจากนี้ในไตรมาสแรกของปี 2559 บริษัทฯ ได้เข้าร่วมโครงการส่งเสริมความสามารถทางนวัตกรรม ของสำนักงานนวัตกรรมแห่งชาติ (องค์การมหาชน) เพื่อสร้างนวัตกรรมการบริการทางการเงินใหม่ๆ และเข้าร่วมโครงการส่งเสริมการเป็นองค์กรสุขภาวะในอุตสาหกรรมแฟชั่น โดยมูลนิธิอุตสาหกรรมเครื่องนุ่งห่มไทย ซึ่งได้รับการสนับสนุนจาก สสส. เพื่อเป็นองค์กรต้นแบบสำหรับธุรกิจบริการทางการเงิน ในการสร้างสุข โดยคาดว่าทั้งสองโครงการจะสร้างแรงบันดาลใจให้กับพนักงานและองค์กร ในการสร้างกลยุทธ์และเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานของบริษัทฯได้เป็นอย่างดี หลังจากบริษัทฯเคยร่วมโครงการนำร่ององค์กรต้นแบบ CSR ของตลาดหลักทรัพย์ mai ในปี 2558 ที่ผ่านมา ซึ่งได้รับความรู้และประโยชน์จากการเข้าร่วมโครงการเป็นอย่างมาก

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ