กรุงเทพฯ--13 ก.ค.--สำนักเลขานายกรัฐมนตรีฯ ผลการตรวจปรอทในหูฉลาม กองอาหาร กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ วันที่ 10 กรกฎาคม 2544 ชนิดตัวอย่าง ปริมาณปรอททั้งหมด มาตรฐานตามประกาศกระทรวงฯ ฉบับที่ 98 (พ.ศ.2529) (มก./กก.) (มก./กก.)ตัวอย่างที่ 1 หูฉลามพร้อมปรุงเป็นอาหาร ไม่พบ 0.5ตัวอย่างที่ 2 หูฉลามพร้อมปรุงเป็นอาหาร 0.012 0.5ตัวอย่างที่ 3 หูฉลามพร้อมปรุงเป็นอาหาร ไม่พบ 0.5ตัวอย่างที่ 4 หูฉลามพร้อมปรุงเป็นอาหาร ไม่พบ 0.5ตัวอย่างที่ 5 หูฉลามแห้ง 0.137ตัวอย่างที่ 6 หูฉลามแห้ง 0.284 ตัวอย่างที่ 7 หูฉลามแห้ง 0.152ตัวอย่างที่ 8 หูฉลามแห้ง 0.230 จากการตรวจวิเคราะห์หูฉลาม 8 ตัวอย่าง เป็นชนิดพร้อมปรุงเป็นอาหาร 4 ตัวอย่าง ตรวจไม่พบสารปรอท 3 ตัวอย่าง ตรวจพบ 0.012 มก./กก. 1 ตัวอย่าง และเป็นชนิดหูฉลามแห้ง 4 ตัวอย่าง พบสารปรอทตั้งแต่ 0.137-0.284 มก./กก. ซึ่งยังไม่เกินมาตรฐานของกระทรวงสาธารณสุขที่กำหนดให้มีปรอทในอาหารได้สูงสุด 0.5 มก./กก. และไม่เกินมาตรฐานอาหารระหว่างประเทศ (codex) ที่กำหนดให้มีปรอทในอาหารได้ไม่เกิน 1 มก./กก. องค์การอนามัยโลกกำหนดค่าความปลอดภัยของปรอทในอาหารที่บริโภค (ADI) ไว้เท่ากับ 43 ไมโครกรัม/คน/วัน คิดที่ น.น. ตัว 60 ก.ก (PTWI 5ไมโครกรัม/น.น.ตัว1ก.ก/สัปดาห์) จากการตรวจพบปรอทในหูฉลามพร้อมปรุงเป็นอาหารสูงสุด = 0.012 มก./กก. คิดเป็นปริมาณหูฉลามที่คนจะบริโภคได้อย่างปลอดภัยจากสารปรอท = 43 0.012 = 3583.33 กรัม/คน/วัน = 3.58 ก.ก./คน/วัน จากการสำรวจหูฉลามปรุงสำเร็จพร้อมบริโภคที่บรรจุกระป๋องหรือซองปิดสนิท จะมีน้ำหนักเนื้อหูฉลาม 36-55 กรัม/ถ้วย (200 กรัม) ดังนั้นจะบริโภคซุปหูฉลามได้ประมาณ 72 ถ้วย/คน/วัน--จบ---สส-