โรงงานชิ้นส่วนรถยนต์มูลค่า 510 ล้านบาทของเดลฟายเดินเครื่องผลิตกันยายนนี้

ข่าวทั่วไป Tuesday March 27, 2001 16:49 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--27 มี.ค.--บางกอก พับบลิค รีเลชั่นส์
- ชี้โรงงานใหม่มีบทบาทสำคัญในกลยุทธ์สร้างฐานการผลิตของเดลฟาย รองรับผู้ผลิตรถยนต์ทั้งในประเทศไทยและเอเชีย
- โรงงานแห่งแรกในไทยและอาเซียนของเดลฟายที่จะผลิตคาลิเปอร์เบรกและระบบจัดการเชื้อเพลิง
เดลฟาย ประเทศไทย บริษัทในเครือของเดลฟาย ออโตโมทีฟ ซิสเต็มส์ คอร์ปอเรชั่นแห่งสหรัฐอเมริกา ผู้นำเทคโนโลยีระบบและชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์เคลื่อนที่และการขนส่งของโลก เปิดเผยวันนี้ (27 มีนาคม 2544) ว่า โรงงานผลิตมูลค่า 510 ล้านบาท (12.1 ล้านเหรียญสหรัฐ) ของบริษัทฯ จะเปิดเดินเครื่องผลิตในเดือนกันยายน ศกนี้
โรงงานขนาดพื้นที่ 3,000 ตารางเมตรดังกล่าว เป็นโรงงานผลิตแห่งแรกในประเทศไทย และเป็นโรงงานแห่งแรกของเดลฟายในอาเซียนที่สร้างขึ้นเพื่อผลิตคาลิเปอร์เบรกและระบบจัดการเชื้อเพลิง โดยผลิตภัณฑ์ดังกล่าวจะป้อนให้กับผู้ประกอบรถยนต์ในประเทศไทยทั้งที่มีอยู่แล้วและที่จะเข้ามาตั้งโรงงานในอนาคต โรงงานแห่งนี้ตั้งอยู่ที่นิคมอุตสาหกรรมอีสเทิร์นซีบอร์ด จ. ระยอง โดยได้รับการส่งเสริมจากคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน
กลยุทธ์พื้นฐานในการดำเนินธุรกิจของเดลฟาย คือการติดตามลูกค้าไปทุกแห่งที่ลูกค้ามีโรงงานผลิตอยู่ เดลฟายได้รับการยอมรับและเชื่อถือจากผู้ผลิตรถยนต์ทั่วโลกในฐานะบริษัทที่มีความเชี่ยวชาญในการประสานระบบและชิ้นส่วนยานยนต์ ตลอดจนความเป็นผู้นำด้านเทคโนโลยี คุณภาพ ต้นทุน การตอบสนองต่อลูกค้าและทัศนคติ
คาลิเปอร์เบรกและระบบจัดการเชื้อเพลิงของเดลฟายเป็นเทคโนโลยีรุ่นล่าสุดที่ได้รับการตอบรับอย่างกว้างขวางจากลูกค้าทั่วโลก ผลิตภัณฑ์ดังกล่าวได้รับการออกแบบเพื่อตอบสนองความคาดหวังของ ลูกค้า รวมทั้งรองรับสภาพแวดล้อมที่หลากหลาย เช่น น้ำมันเชื้อเพลิงคุณภาพต่ำในประเทศกำลังพัฒนา
นายจักรมณฑ์ ผาสุกวนิช รองเลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (บีโอไอ) กล่าว ในคำแถลงที่บีโอไอออกร่วมกับเดลฟาย ว่า "เดลฟายเป็นผู้นำของโลกในด้านระบบและชิ้นส่วน ยานยนต์ การตัดสินใจเข้ามาลงทุนตั้งโรงงานของเดลฟาย เป็นเครื่องแสดงถึงความเชื่อมั่นในศักยภาพการเติบโตในระยะยาวของอุตสาหกรรมยานยนต์ในประเทศไทย การเข้ามาตั้งฐานผลิตของเดลฟายจะช่วยตอกย้ำสถานภาพของเมืองไทยในฐานะ ดีทรอยต์แห่งตะวันออก"
มร. สตีฟ บาวเออร์ ผู้อำนวยการธุรกิจกลุ่มพลวัตและการขับเคลื่อน (Dynamics & Propulsion Sector) ของเดลฟายภาคพื้นเอเชีย-แปซิฟิก กล่าวว่า "เดลฟายเข้ามาลงทุนในประเทศไทยเพื่อ ตอบสนองวิสัยทัศน์ของเดลฟายที่จะเป็นซัพพลายเออร์ซึ่งเป็นตัวเลือกอันดับต้นๆ ของผู้ผลิตรถยนต์ทั้งในประเทศไทยและในภูมิภาค พร้อมกับสนับสนุนเป้าหมายของประเทศไทยที่จะก้าวขึ้นขึ้นมาเป็น ศูนย์กลางของอุตสาหกรรมรถยนตร์ในภูมิภาค"
"การตั้งโรงงานในประเทศไทยเพื่อสนับสนุนกลุ่มธุรกิจที่ใหญ่ที่สุดของเดลฟาย คือ กลุ่มพลวัตและการขับเคลื่อน แสดงให้เห็นถึงความตั้งใจที่จะลงทุนระยะยาวและความเชื่อมั่นที่เดลฟายมีต่อประเทศไทย นอกจากนี้ เดลฟายยังเชื่อมั่นในความมุ่งมั่นของรัฐบาลไทยที่มีต่อระบบเศรษฐกิจเสรี" มร. สตีฟ บาวเออร์ กล่าว
มร. ราวิ คานนา ประธาน บริษัทเดลฟาย ออโตโมทีฟ ซิสเต็มส์ (ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผยว่า ชิ้น-ส่วนรถยนต์ที่ผลิตจากโรงงานเดลฟาย ประเทศไทย ในเบื้องต้นจะป้อนให้กับลูกค้าผู้ประกอบรถยนต์ภายในประเทศ ทั้งนี้ โรงงานในเมืองไทยจะถูกรวมเข้าเป็นหนึ่งเดียวกับฐานผลิตเบรกและระบบจัดการเชื้อเพลิงทั่วโลกของบริษัทฯ และจะแสวงหาลู่ทางขยายการส่งออกอย่างเข้มแข็งจริงจัง
"ปัจจัยสำคัญประการหนึ่งในการเข้ามาตั้งโรงงานผลิตที่นี่ก็คือประเทศไทยได้กลายเป็นฐานของผู้ผลิตรถยนต์ชั้นนำจากญี่ปุ่น ยุโรปและอเมริกา อนาคตทางธุรกิจของเดลฟายในประเทศไทยถือว่าสดใสมาก เพราะเรามีการวิเคราะห์และตอบสนองความต้องการทางการผลิตของลูกค้าอย่างต่อเนื่อง" มร. ราวิ คานนา กล่าว
ในปี 2540 เดลฟายได้ตั้งสำนักงานตัวแทนขึ้นในกรุงเทพฯ เพื่อสร้างเครือข่ายสนับสนุนอุตสาหกรรมยานยนต์ของไทย สำหรับในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ได้เข้าไปลงทุนในโรงงานผลิตทั้งที่ลงทุนเองทั้งหมด และที่ร่วมลงทุนกับพันธมิตรในประเทศมาเลเซีย ไทย อินโดนีเซีย และสิงคโปร์
ในเอเชีย-แปซิฟิก เดลฟายมีพนักงานอยู่มากกว่า 18,000 คน มีโรงงานผลิตอยู่ 14 แห่ง* กิจการ- ร่วมทุน 20 กิจการ และศูนย์บริการทางเทคนิคอีก 4 แห่งในสิบประเทศ ในปี 2543 เดลฟายมียอดขายจากกิจการในเอเชีย-แปซิฟิกมากกว่า 2.18 พันล้านเหรียญสหรัฐ (กว่า 91,560 ล้านบาท)
เดลฟาย ออโตโมทีฟ ซิสเต็มส์ มีสำนักงานใหญ่ตั้งอยู่ที่เมืองทรอย มลรัฐมิชิแกน สหรัฐอเมริกา กรุงปารีส โตเกียว และเซาเปาโล (ประเทศบราซิล) ฐานะปัจจุบันของบริษัทจัดเป็นหนึ่งในผู้นำด้านเทคโนโลยีชิ้นส่วน และระบบยานยนต์ของโลก กลุ่มธุรกิจหลักสามกลุ่มของเดลฟาย คือ พลวัตและการขับเคลื่อน (Dynamics & Propulsion) สถาปัตยกรรมนิรภัย ปรับอากาศและไฟฟ้า (Safety, Thermal & Electrical Architecture) และ อิเล็กทรอนิกส์และการสื่อสารเคลื่อนที่ (Electronics & Mobile Communication) ผลิตสินค้าชิ้นส่วนและระบบยานยนต์ทุกชนิดป้อนลูกค้าในอุตสาหกรรม ประกอบรถยนต์ เดลฟายมีพนักงานประมาณ 211,000 คน และเป็นเจ้าของโรงงานผลิต 190 แห่ง* กิจการร่วมทุน 44 แห่ง และศูนย์บริการลูกค้าและสำนักงานขาย 53 แห่ง และศูนย์บริการทางเทคนิค 31 แห่งใน 42 ประเทศ
หมายเหตุ:
1. ลูกค้าที่เดลฟายมีอยู่ทั่วโลก ได้แก่ ออดี้ บีเอ็มดับเบิลยู แดวู เดมเลอร์ไครสเลอร์ เฟียต ฟอร์ด จีเอ็ม ฮอนด้า ฮุนได อีซูซุ มาสด้า มิตซูบิชิ นิสสัน โอเปิล เปอโยต์ ซีตรอง โปรตอน เรโนลต์ โรเวอร์ ซาบ ซูซูกิ โตโยต้า วีเอแซด วอกซ์ฮอล วอลโว่ และโฟล์กสวาเกน
2. ในปี 2543 เดลฟายมียอดขาย 29.1 พันล้านเหรียญสหรัฐ (กว่า 1,222,200 ล้านบาท) ยอดขายสินค้าให้กับลูกค้าอื่น นอกจากบริษัท เจเนอรัล มอเตอร์ส คอร์ปมีสัดส่วนคิดเป็น 29% ของยอดขายทั้งหมด หรือเท่ากับ 8.47 พันล้านเหรียญสหรัฐ (355,740 ล้านบาท)
3. ในปีที่แล้ว เดลฟายใช้งบวิจัยและพัฒนาไปทั้งสิ้นกว่า 1.8 พันล้านเหรียญสหรัฐ (กว่า 75,600 ล้านบาท) เฉลี่ยเท่ากับวันละ 5 ล้านเหรียญสหรัฐ (210 ล้านบาท)
* ตัวเลขนี้ยังไม่รวมโรงงานผลิตในประเทศไทย ที่จะเริ่มการผลิตในเดือนกันยายน 2544
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม กรุณาติดต่อ บริษัท บางกอก พับบลิค รีเลชั่นส์ จำกัด คริส คู (ต่อ 104) หรือฉัตรสวลี คล้ายวงศ์ (ต่อ 108) โทรศัพท์ 664 9500 โทรสาร 664 9515--จบ--
-นห-

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ