เรื่องย่อ รายการสำรวจโลกกับ เนชั่นแนล จีโอกราฟฟิค ประจำวันที่17-21 ก.ค.43 เวลา21:00-21:30 น. ช่อง 9 อ.ส.ม.ท.

ข่าวทั่วไป Wednesday July 12, 2000 17:19 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--12 ก.ค.--เนกซ์สเตป
จันทร์ที่ 17 และอังคารที่ 18 กรกฎาคม 2543
ช่อง 9 อ.ส.ม.ท. 21:00 น.
"Don't Say Goodbye" การจากไปที่ไม่มีวันหวนคืน
ติดตามช่างภาพหนุ่มสาวสองคนที่ตั้งใจจะสร้างภาพถ่ายของสิ่งมีชีวิตที่หายากที่สุดและกำลงัจะสูญพันธืไปในอเมริกา เพื่อบันทึกภาพที่ของพืชและสัตว์มากมายที่ใกล้จะสูญพันธุ์ จากดินแดนที่ชื้นแฉะในฟลอริด้าไปถึงทุ่งหญ้าแห่งแคนซัส จากรังนกอินทรีที่อยู่สูงขึ้นไปบนเทือกเขาในแคลิฟอร์เนียไปจนถึงถ้ำค้างคาวในเวอร์จิเนีย การทำงานของสองช่างภาพ ซูซาน มิดเดิ้ลตั้น และ เดวิด ลิตชเวเกอร์ มักตกอยู่ในอันตรายเสมอ เมื่อยามที่พวกเขาต้องเผชิญหน้ากับเขี้ยวเล็บของเสือแพนเธอร์และหมีกริซลี่ รวมทั้งพิษที่ร้ายแรงของงูและแมงมุม แต่พวกเขาก็ได้รับการช่วยเหลือที่ไม่ได้คาดฝันจากตำรวจ ช่างยนต์ คาวบอย แม่บ้าน นักธรรมชาติวิทยา และคนทั่วไปทั่วประเทศอยู่เสมอ เพราะทุกคนต่างก็ต่อสู้เพื่อปกป้องชีวิตของสัตว์ป่าเหล่านี้ด้วยจิตสำนึกของการอนุรักษ์
ด้วยอำนาจและกล้องถ่ายภาพนิ่งผสานกับความเร้าใจและความลื่นไหลของภาพยนตร์ สำรวจโลกกับ เนชั่นแนล จีโอกราฟฟิค จะพาท่านผู้ชมไปพบกับการเดินทางที่น่าตื่นใจ จากเทือกเขาสูงแห่งแคลิฟอร์เนียไปสู่ทางใต้ บริเวณป่าของรัฐนอร์ธ แคโรไลน่า จนถึงริมฝั่งมหาสมุทรแปซิฟิค สารคดีตอน "Don't Say Goodbye" จะนำท่านผู้ชมติดตามช่างภาพ ซูซาน มิดเดิ้ลตั้น และ เดวิด ลิตชเวเกอร์ ในการเดินทางข้ามสหรัฐอเมริกาในรถตู้คันหนึ่ง ผสมผสานประสบการณ์ในฐานะช่างภาพมืออาชีพรวมกับความหลงใหลในระบบนิเวศน์เพื่อส่งสาส์นให้ผู้คนทั่วไปได้รู้ว่า ควรจะอนุรักษ์ที่อยู่อาศัยของสัตว์และพืชที่ใกล้สูญพันธุ์ ก่อนที่จะสูญเสียพวกมันไปตลอดกาล
เป้าหมายของพวกเขาอาจเป็นสัตว์ที่องอาจเช่น นกอินทรีหัวล้าน หรือสิ่งมีชีวิตขนาดจิ๋วเช่น ด้วงเสือ ที่เราจะมองเห็นลายสีรุ้งบนหลังของมันได้ก็ต่อเมื่อเราใช้กล้องขยายขนาดใหญ่เท่านั้น การถ่ายภาพของพวกเขาเกิดขึ้นในเวลาเพียงเสี้ยววินาที แต่การแสวงหาสถานที่จำเป็นต้องอาศัยการเตรียมการและการวางแผนที่ยาวนาน ภาพทุกภาพบอกเล่าเรื่องราว และ สำรวจโลกกับ เนชั่นแนล จีโอกราฟฟิค ตอน "Don't Say Goodbye" แสดงให้เห็นถึงภาพที่ยิ่งใหญ่กว่านั้น
สำหรับเจ้าเฟอเร้ตเท้าดำ ที่เคยหลงเหลืออยู่เพียง 18 ตัวเท่านั้น เราได้ไปเยือนสถานเพาะพันธุ์ในท้องทุ่ง รัฐไวโอมมิ่ง สำหรับพืชสายพันธุ์ เพรสซิดิโอ แมนซานิต้า ที่มีเหลืออยู่ตามธรรมชาติเพียงต้นสุดท้าย มีการเดินทางที่เป็นความลับสุดยอดไปสู่ใจกลาง ซาน ฟรานซิสโก การเผชิญหน้ากับสิ่งมีชีวิตแต่ละสายพันธุ์ เช่นสุนัขป่าสีแดง นกอินทรีหัวล้าน พะยูนแห่งฟลอริด้า และอื่นๆ ทำให้เราได้มองเห็นภาพที่แสดงถึงความจริง และความสวยงามในรายละเอียด
สิ่งที่ถือได้ว่าเป็นสิ่งพิเศษมากพอๆ กับที่สัตว์ใกล้จะสูญพันธุ์เหล่านี้ คือผู้คนที่อยู่เบื้องหลัง ทำงานอุทิศชีวิตให้กับการสร้างให้เกิดความแตกต่าง นักชีววิทยาผู้บุกเบิก ทอม ไอสเนอร์ ทำการทดลองทางเคมีในฟลอริด้าเพื่อหาตัวยาที่ได้มาจากธรรมชาติ อาร์เธอร์ บอนเนอร์ อดีตสมาชิกแก็งกวนเมืองทุ่มเทเวลาให้กับการช่วยเหลือผีเสื้อสีฟ้า พาโลส เวอร์เดส และที่จะไม่กล่าวถึงไม่ได้ ซูซาน มิดเดิ้ลตั้น และ เดวิด ลิตชเวเกอร์ ที่พากเพียรและอุตสาหะในการสร้างสรรค์ภาพบันทึกของสัตว์ที่ใกล้สูญพันธุ์ของอเมริกาสำหรับคนรุ่นต่อไปได้รับรู้การมีอยู่ของสิ่งมีชีวิตเหล่านั้น
ไม่ว่าจะด้วยการกระทำตามจิตสำนึกหรือด้วยผลของการกระทำที่ไม่ได้ตั้งใจ มนุษย์ก็ได้เริ่มเห็นผลของความหายนะที่เกิดขึ้นกับสิ่งมีชีวิตหลากหลายสายพันธุ์ การเดินทางไปกับ สำรวจโลกกับ เนชั่นแนล จีโอกราฟฟิคจะพาท่านผู้ชมไปพบกับการทำงานแข่งขันกับเวลาเพื่อช่วยเหลือสิ่งที่ยังคงมีชีวิตรอด
พุธที่ 19 กรกฎาคม 2543
ช่อง 9 อ.ส.ม.ท. 21:00 น.
"Looters !" โจรกรรมสมบัติของผู้ล่วงลับ
หลุมฝังศพของชนพื้นเมืองอเมริกันทั่วทั้งสหรัฐอเมริกาถูกทำลาย โดยหัวขโมยที่ขุดสุสานเหล่านั้นเพื่อมองหาสมบัติที่ฝังอยู่ภายใน โจรเหล่านี้ขโมยและนำวัตถุโบราณไปขายโดยเฉพาะเครื่องประดับที่ถูกฝังไว้กับผู้ตาย การกระทำเช่นนี้เกิดขึ้นเนื่องจากโบราณวัตถุของชาวพื้นเมืองอเมริกันที่ถูกมองว่าเป็นงานศิลปะสูงค่า แต่ จอน โดเวอร์ จะไม่ยอมให้เจ้าหัวขโมยหนีหายไปพร้อมกับอดีตอันแสนล้ำค่าของผู้คนที่เขามีความผูกพัน ในฐานะผู้พิทักษ์อุทยานชาวอเมริกันพื้นเมือง เขาได้ปกป้องประวัติศาสตร์ทางโบราณคดีของประเทศนี้ สำรวจโลกกับ เนชั่นแนล จีโอกราฟฟิค พาท่านผู้ชมเดินทางไปสู่ดินแดนทางตะวันตกเฉียงใต้ และพบกับหัวขโมยที่มีความหลงใหลในอาชีพของตน รวมถึงเจ้าหน้าที่ของทางการที่พยายามจะขจัดการทำลายแผ่นดินและอดีตอันแสนล้ำค่าให้หมดไป
สำรวจโลกกับ เนชั่นแนล จีโอกราฟฟิค พาท่านผู้ชมร่วมเดินทางไปกับเจ้าหน้าที่ผู้พิทักษ์กฎหมาย จอน โดเวอร์ และ ชาร์ลส เชีย อาชญากรที่ชายทั้งสองกำลังตามล่านั้น เต็มไปด้วยอันตรายและมีอาวุธครบครัน และก็ไม่ใช่อาชญากรระดับธรรมดา โดเวอร์และเชียเป็นหน่วยพิทักษ์ของชนเผ่านาวาโฮที่ต้องออกลาดตระเวนตรวจตราพื้นที่ขนาด 17 ล้านเอเคอร์ ของเผ่านาวาโฮที่อยู่บนที่ราบสูง ตั้งอยู่ระหว่างรัฐยูท่าห์ โคโลราโด้ อริโซน่า และนิว เม็กซิโก หน้าที่ของพวกเขาคือจะต้องหยุดยั้งหัวขโมยจากการรุกล้ำเข้าไปในอนุสรณ์แห่งอดีต และเพื่อปกป้องสิ่งที่หลงเหลืออยู่เพียงน้อยนิดจากอารยธรรมและวัฒนธรรมประเพณีของชาวอเมริกันรุ่นเก่า
กว่า 1,000 ปีก่อน ชาวอนาซาซี่ได้สร้างความเจริญรุ่งเรืองขึ้นในบริเวณทะเลทรายที่มีสภาพอากาศรุนแรง อารยธรรมของพวกเขาประกอบด้วยบ้านหลายชั้นและตึกที่สร้างขึ้นจากอิฐที่นำไปตากแดดไว้จนแห้ง นอกจากนี้ พวกเขายังได้สร้างสรรค์ผลงานศิลปะและสถาปัตยกรรมที่งดงาม รวมทั้งข้าวของที่ใช้ประกอบพิธีกรรมและข้าวของเครื่องใช้ประจำวันซึ่งได้รับการยกย่องในด้านของความสวยงามและความคิดสร้างสรรค์ ต่อมาในศตวรรษที่ 13 ชาวอนาซาซี่ได้ละทิ้งบ้านเรือน ตึกรามบ้านช่อง ข้าวของ และผู้ตายไว้ในสุสานอันศักดิ์สิทธิ์ เมืองของพวกเขาเสื่อมสลายลงและหลงเหลือไว้แต่เพียงความทรงจำสู่คนรุ่นหลัง ผู้ที่ยังคงดูแลตำนานและเกียรติภูมิของพวกเขาได้แก่ พวกนาวาโฮ
โจรคนแรกที่ได้ล่วงละเมิดสมบัติของชาวอนาซาซี่คือ นักโบราณคดีและนักแสวงหาวัตถุโบราณในช่วงการเปลี่ยนศตวรรษ ที่มักจะให้ความใส่ใจต่อแง่มุมประเพณีและวัฒนธรรมของคนในหลุมน้อยมาก บรรดาหัวขโมยในปัจจุบันได้ใช้เทคโนโลยีเข้ามาช่วย อาทิเช่น รถตักดินและเครื่องจักรกลทันสมัยในการขุดซากปรักหักพัง แม้แต่ที่อยู่อาศัยภายในถ้ำที่สูงขึ้นไปบนหน้าผาก็ยังไม่ปลอดภัยจากหัวขโมยเหล่านี้
ในปี 1979 รัฐสภาได้ผ่านร่างกฏหมายปกป้องทรัพยากรทางโบราณคดี การนำวัตถุโบราณออกจากดินแดนของรัฐหรือของชาวอินเดียน การซื้อขายโดยผิดกฏหมายจะผิดต่อกฏหมายอาญา อย่างไรก็ตาม กฏหมายมิได้ครอบคลุมการนำวัตถุโบราณออกจากพื้นที่ส่วนบุคคล รวมถึงสิ่งของที่ถูกขโมยมาขายในท้องตลาดโดยอ้างว่ามาจากพื้นที่ส่วนบุคคล ในความพยายามครั้งนี้ ผู้พิทักษ์มรดกจากอดีตมีจำนวนน้อยกว่าผู้ที่ละเมิดและบุกรุก อีกทั้งความสูญเสียก็เกิดขึ้นมากมายเหลือเกิน อย่างไรก็ตาม จอน โดเวอร์ได้พยายามแสดงให้เห็นถึงความสำคัญของการต่อสู้ เขาเปรียบการขโมยเหมือนกับการเข้าไปในสุสานวีรชนและขุดหลุมทหารหาญขึ้นมาเพื่อขโมยเหรียญตราของพวกเขา อารยธรรมสมัยใหม่จะมีความปรารถนาที่จะปกป้องประวัติศาสตร์ของบรรพชนหรือไม่ ?
พฤหัสบดีที่ 20 และศุกร์ที่ 21 กรกฎาคม 2543
ช่อง 9 อ.ส.ม.ท. 21:00 น.
"Wings Over The Serengeti" ผู้เก็บกวาดตามธรรมชาติ
ด้วยเทคนิคการถ่ายภาพทางอากาศและการถ่ายภาพประวัติศาสตร์ธรรมชาติที่น่าตื่นใจ สำรวจโลกกับ เนชั่นแนล จีโอกราฟฟิค ในตอน "Wings Over The Serengeti" คือการพาท่านผู้ชมบินไปพร้อมกับนกแร้งแอฟริกา ติดตามชีวิตของพวกมันผ่านฤดูกาล และการติดตามชีวิตของสัตว์ประเภทอื่นที่เข้ามาข้องเกี่ยวกับปฎิบัติการทำความสะอาดครั้งมโหฬาร เปิดให้เห็นความสัมพันธ์เบื้องลึกของสัตว์ที่มีต่อกัน และความผูกพันที่มีต่อบ้านอันแสนกว้างใหญ่ นอกจากนี้ "Wings Over The Serengeti" ยังได้แสดงถึงความสามารถของธรรมชาติด้วยวิธีการที่น่าสนใจและนำเสนอข้อมูลพร้อมภาพถ่ายในลักษณะของ สำรวจโลกกับ เนชั่นแนล จีโอกราฟฟิค
พวกมันขึ้นบินจากทุกทิศทาง ปีกกระพืออยู่ทุกหนแห่ง ความวุ่นวายที่เกิดขึ้นเบื้องล่างห่างลงไปถึงสองกิโลเมตรไม่เคยถูกมองเลยผ่านไป เพียงอึดใจหลังจากฝูงไฮยีนาเลิกทะเลาะกัน แร้งกว่า 60 ตัวเริ่มการรวมฝูง ความทะนงตนของสิงโตได้ก่อให้เกิดความเคลื่อนไหวหลังจากที่แร้งร่อนลงมาและเริ่มตรวจตรา สุนัขจิ้งจอกดมกลิ่นเข้ามาใกล้ สิงโตพยายามที่จะไล่ฝูงสัตว์เหล่านี้ออกไปให้พ้นจากเหยื่อที่ล่ามาได้ แต่ภายหลัง ไฮยีนา สุนัขจิ้งจอก และแร้งจะขโมยเท่าที่ทำได้ จิกทึ้งซากศพและกระจายความดุร้ายของพวกมันให้กับสัตว์อื่นๆ
20 นาทีต่อมา ทุกอย่างพลันสงบนิ่ง สิ่งที่เคยถูกฟัน, อุ้งเท้า และจงอยปากฉีกทึ้ง เหลือแต่เพียงหัวกระโหลกเท่านั้น สิงโต ที่ได้รับบาดแผลจากการขโมยครั้งนี้ นอนอยู่อย่างเกียจคร้านที่จะเข้าไปใกล้ ข้อแตกต่างระหว่างนักล่าและสัตว์ที่กินซากศพนั้นไม่ชัดเจน ในขณะที่ดวงอาทิตย์คล้อยต่ำลงที่ขอบฟ้า แร้งรอคอยอย่างกระตือรือร้นเพื่อให้สายลมสุดท้ายยกตัวพวกมันขึ้น พวกมันลอยสูงขึ้นเหนือเซเรนเกติที่กว้างใหญ่ ใต้ปีกของมันคือที่ราบกว้างประมาณ 13,000 ตารางกิโลเมตร ทอดยาวจากริมป่าแห่งปล่องภูเขาไฟ โรรองโกโร่ ไปสู่ลำธารและจากป่าไม้ไปสู่แม่น้ำหลายเส้น แร้งได้ค้นพบส่วนหนึ่งของผืนดินแอฟริกา ที่ซึ่งอาจจะเป็นแหล่งที่เต็มไปด้วยชีวิตมากที่สุดบนโลก
ชีวิตที่หลากหลายของสัตว์ต่างๆ ขึ้นอยู่กับการทำให้ภูมิประเทศแห่งนี้สะอาด ไม่ว่าจะเป็นแบคทีเรียไปจนกระทั่งเสือ จากด้วงมูลสัตว์จนถึงเม่น สัตว์เหล่านี้ต่างก็มีบทบาทที่สำคัญในการนำพลังงานและแร่ธาตุจากขยะกลับมาใช้ใหม่ให้เป็นประโยชน์แก่การดำรงชีวิต เซเรนเกติเป็นวงจรของระบบนิเวศวิทยาภายในตนเองที่สมบูรณ์แบบครบถ้วน
ด้วยเทคนิคการถ่ายภาพทางอากาศและการถ่ายภาพประวัติศาสตร์ธรรมชาติที่น่าตื่นตาตื่นใจ สำรวจโลกกับ เนชั่นแนล จีโอกราฟฟิค ตอน "Wings Over The Serengeti" จะออกบินไปพร้อมกับนกแร้งแอฟริกา ติดตามการดำรงชีวิตของพวกมันผ่านฤดูกาลต่างๆ และการติดตามชีวิตประจำวันของสัตว์ประเภทอื่นที่มีความข้องเกี่ยวกับปฎิบัติการทำความสะอาดครั้งมโหฬาร เปิดเผยให้เห็นความสัมพันธ์ของสัตว์ต่างๆ ที่มีต่อกัน และความผูกพันของบรรดาสัตว์น้อยใหญ่ที่มีต่อบ้านอันแสนกว้างใหญ่ นอกจากนี้ "Wings Over The Serengeti" ยังได้แสดงถึงความสามารถที่ธรรมชาติบันดาลขึ้นมา ด้วยวิธีการที่น่าสนใจ และนำเสนอข้อมูลพร้อมภาพถ่ายในแบบของ สำรวจโลกกับ เนชั่นแนล จีโอกราฟฟิค--จบ--
-นศ-

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ