กรุงเทพฯ--6 มิ.ย.--พีอาร์ดีดี
สภาวะตลาดวันที่ 06 มิถุนายน 2559 ราคาทองคำแกว่งตัวในกรอบที่ระดับ 1,240.45-1,248.40 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ขณะที่ราคาทองคำแท่ง 96.5% ภายในประเทศขายออกอยู่ที่ 20,800 บาทต่อบาททองคำ โดยราคาปรับตัวเพิ่มขึ้น 350 บาท จากวันก่อนหน้าที่ระดับ 20,450 บาทต่อบาททองคำ ขณะที่โกลด์ฟิวเจอร์ส GFM16 อยู่ที่ 20,840 บาท โดยราคาปรับตัวเพิ่มขึ้น 280 บาท จากวันก่อนหน้าที่ระดับ 20,5600 บาท
(หมายเหตุ: ข้อมูลนี้จัดทำขึ้น ณ เวลา 16.00 น.ของวันที่ 06/06/16)
แนวโน้มวันที่ 07 มิถุนายน 2559
กระทรวงแรงงานสหรัฐรายงานว่า ตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรเดือนพฤษภาคมเพิ่มขึ้นเพียง 38,000 ตำแหน่งงาน ซึ่งต่ำกว่าตัวเลขคาดการณ์ 164,000 ตำแหน่ง ถือเป็นการเพิ่มขึ้นที่น้อยที่สุดในรอบกว่า 5 ปี รายงานการจ้างงานที่น่าผิดหวังทำให้เกิดความกังวลเกี่ยวกับภาวะเศรษฐกิจของสหรัฐ และความสามารถของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ในการขึ้นอัตราดอกเบี้ยในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้า ประเด็นดังกล่าว กดดันดัชนีดอลลาร์สหรัฐเมื่อเทียบกับตะกร้าสกุลเงินเคลื่อนตัวใกล้จุดต่ำสุดในรอบ 3 สัปดาห์ ซึ่งราคาทองคำเคลื่อนไหวใกล้ระดับสูงสุดในรอบ 2 สัปดาห์ ในต้นสัปดาห์นี้ ซึ่งทำให้นักลงทุนคาดการณ์ว่า เฟดไม่มีโอกาสจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในเดือนนี้ โดยเฟดจะตรึงอัตราดอกเบี้ยที่ 0.25-0.50% ในเดือนมิถุนายน ซึ่งสอดคล้องกับ แบบสำรวจของรอยเตอร์ บ่งชี้คาดการณ์บริษัทดีลเลอร์ชั้นนำทั้ง 19 แห่งระบุว่า มีความเป็นไปได้ 5% ที่เฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในเดือนมิถุนายน และมีความเป็นไปได้ 34% ที่เฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในการประชุมวันที่ 26-27 กรกฎาคม การคาดการณ์นี้สอดคล้องกับการคาดการณ์ของบริษัทซีเอ็มอี กรุ๊ประบุว่า นักลงทุนในตลาดคาดว่ามีโอกาส 6% ที่เฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในเดือนนี้ และมีโอกาส 33% ที่เฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในเดือนกรกฎาคม อย่างไรก็ตาม ราคาทองคำภายในประเทศปรับตัวขึ้นในสัดส่วนที่น้อยกว่าทองคำต่างประเทศ เพราะค่าเงินบาทต่อดอลลาร์แข็งค่าสุดมากที่สุดในรอบกว่า 3 สัปดาห์ ผกผันกับดอลลาร์สหรัฐที่อ่อนค่าลง ซึ่งนักลงทุนควรคำนึงการเคลื่อนไหวของค่าเงินบาทเพื่อประกอบการตัดสินใจลงทุน ทั้งนี้ระยะสั้นหากราคาทองคำอ่อนตัวลงและสามารถยืนเหนือแนวรับได้อย่างแข็งแกร่ง คาดว่าราคาน่ากลับขึ้นไปทดสอบแนวต้านอีกครั้ง สำหรับผู้ที่ไม่มีทองคำในมือรอดูบริเวณ 1,233 ดอลลาร์ต่อออนซ์ แนะนำให้เข้าซื้อเพื่อทำกำไรระยะสั้น แต่หากหลุดจะมีแนวรับถัดไปอยู่ที่ 1,227 ดอลลาร์ต่อออนซ์
กลยุทธ์การลงทุน วายแอลจีแนะนำ แนะนำรอจังหวะเข้าซื้อเมื่อราคาย่อตัวลงมาบริเวณ 1,233 ดอลลาร์ต่อออนซ์ สำหรับผู้ที่รับความเสี่ยงได้น้อยแนะนำให้รอดูบริเวณแนวรับ 1,227 ดอลลาร์ต่อออนซ์ และรอขายทำกำไรบางส่วนบริเวณแนวต้านแรกที่ 1,255 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ส่วนที่เหลือให้รอไปปิดสถานะทำกำไรบริเวณแนวต้านถัดไปที่ 1,263 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ทั้งนี้ หากราคาทองคำยังไม่สามารถผ่านแนวต้านโซน 1,263 ดอลลาร์ต่อออนซ์ได้อาจเกิดแรงขายกดดันราคาปรับตัวลดลงเข้าใกล้บริเวณ 1,227 ดอลลาร์ต่อออนซ์ เบื้องต้นคาดว่าราคาจะวิ่งในกรอบ 1,227-1,263 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ก่อนเพื่อเตรียมรอทดสอบแนวต้านถัดไป อย่างไรก็ตามราคาทองคำมีการแกว่งตัวมากขึ้นนักลงทุนควรตั้งจุดตัดขาดทุนหากราคาไม่เป็นไปตามที่คาดการณ์ เพื่อลดความเสี่ยงพอร์ตการลงทุน
ทองคำแท่ง (96.50%)
แนวรับ 1,233 (20,580บาท) 1,227 (20,480บาท) 1,217 (20,310บาท)
แนวต้าน 1,255 (20,950บาท) 1,263 (21,080บาท) 1,274 (21,270บาท)
GOLD FUTURES (GFM16)
แนวรับ 1,233 (20,700บาท) 1,227 (20,600บาท) 1,217 (20,440บาท)
แนวต้าน 1,255 (21,070บาท) 1,263 (21,210บาท) 1,274 (21,390บาท)
หากต้องการทราบทิศทางราคาทองคำและแนวทางลงทุนทองคำ ขอคำปรึกษาเพิ่มเติมจากทีมที่ปรึกษาการลงทุนด้านโกล์ดฟิวเจอร์ส โทร.02-687-9999