OTOP MIDYEAR 2016 เพิ่มศักยภาพศก.ฐานราก

ข่าวทั่วไป Wednesday June 8, 2016 17:17 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--8 มิ.ย.--เอเอสวี อินเตอร์ กรุ๊ป กระทรวงมหาดไทยได้จัดงาน "OTOP Midyear 2016"โดยในครั้งนี้ เป็นครั้งที่ 8 มีวัตถุประสงค์เพื่อขานรับนโยบายสร้างความเข้มแข็งเศรษฐกิจฐานราก โดยส่งเสริมให้กลุ่มผู้ผลิต ผู้ประกอบการสินค้า OTOP ที่มีคุณภาพและมีศักยภาพ ได้นำเสนอผลงาน ที่มีคุณภาพไปสู่ตลาดสากล เพื่อเพิ่มช่องทางการตลาด และเพิ่มรายได้ให้กับผู้ผลิต ผู้ประกอบการ OTOP และเสริมสร้างการมีส่วนร่วมของทุกภาคส่วน ตามแนวทางพระราชดำริอันมีที่มาจากโครงการส่งเสริมศิลปาชีพของสมเด็จพระนางเจ้าพระบรมราชินีนาถ ในการดำเนินงานส่งเสริมและพัฒนาผลิตภัณฑ์ OTOP และสำหรับงานในครั้งนี้คาดว่าประชาชนทั้งชาวไทยและต่างชาติชมงานไม่ต่ำกว่า 7 แสนคน และมียอดการจำหน่ายสินค้าตลอดงานไม่ต่ำกว่า 800 ล้านบาท "สุธี มากบุญ" รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย เปิดเผยว่า ในปี 2559กระทรวงมหาดไทย ได้เตรียมจัดงาน "OTOP Midyear 2016" ขึ้น ในระหว่างวันที่ 6–13 มิถุนายน 2559 ณ อาคารชาเลนเจอร์ 1-3 อิมแพค เมืองทองธานี ภายใต้แนวคิด "ความหลากหลายทั่วไทย หาได้ในที่เดียว" ซึ่งเป็นการรวบรวมผลิตภัณฑ์ที่เป็นของดีของเด่นจากทุกพื้นที่ทั่วประเทศซึ่งมีอยู่หลากหลาย มารวมไว้ในงานนี้ที่เดียว เรียกว่า "มางานนี้ที่เดียว เหมือนได้เที่ยวไปในทุกที่" โดยจะมีสุดยอด OTOP Classic 4 - 5 ดาวทั้ง 5 ประเภท มาจัดแสดง ด้าน "อภิชาติ โตดิลกเวชช์" อธิบดีกรมการพัฒนาชุมชน กล่าวว่า OTOP Midyear 2016 ปีนี้มาในแนวคิด "ความหลากหลายทั่วไทย หาได้ในที่เดียว" ซึ่งเป็นมหกรรมที่รวบรวมมรดกอันล้ำค่าเป็นเครื่องหมายแสดงอารยธรรม อันสูงส่งของชาติไทย ควรค่าแก่การภาคภูมิใจ พร้อมแสดงศักยภาพของบุคลากรในชุมชน รวมทั้งส่งเสริมการอนุรักษ์ และสืบสานมรดกทางวัฒนธรรมของท้องถิ่น โดยมุ่งเน้นการแลกเปลี่ยนเรียนรู้และการมีส่วนร่วมของท้องถิ่น และเปิดพื้นที่ทางวัฒนธรรม เพื่อเป็นการยกระดับคุณภาพชีวิต และกระตุ้นเศรษฐกิจของประเทศ อีกทั้งยังเป็นการผลักดันให้เกิดการพัฒนาสินค้าสู่ตลาดสากล และสร้างโอกาสขยายตลาดส่งออกสินค้า ทั้งนี้ภายในงานได้จัดแบ่งออกเป็น 8 โซน ประกอบด้วย 1. โซนนิทรรศการเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสมหามงคลเสด็จเถลิงถวัลยราชสมบัติครบ 70 ปี 9 มิถุนายน 2559 และสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ เนื่องในโอกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 7 รอบ 84 พรรษา 2. โซน OTOP Classic คัดสรรสินค้า OTOP คุณภาพดี ระดับพรีเมียม มาจัดจำหน่าย มากกว่า 15,000 รายการ 3. โซน OTOP ชวนชิมอาหารและเครื่องดื่ม สุดยอดความอร่อยของทุกจังหวัดทั่วประเทศ 180 ราย 4. โซน OTOP ดาวรุ่ง (OTOP Trader) สินค้า OTOP 1-3 ดาว ที่มีแววในการพัฒนาต่อยอดต่อไป จากจังหวัดสระบุรี กาญจนบุรี ประจวบคีรีขันธ์ เชียงใหม่ กาฬสินธุ์ และพัทลุง 5. OTOP Next แสดงผลงานการพัฒนา OTOP เข้าสู่อนาคต เน้นการบูรณาการทั้งภาครัฐและเอกชน และสำหรับโซนที่ 6 เป็นโซนนิทรรศการหน่วยงานภาคี ซึ่งนำเสนอนวัตกรรมในการพัฒนาสินค้า OTOP และกิจกรรมในการส่งเสริมการดำเนินงานโครงการหนึ่งตำบล หนึ่งผลิตภัณฑ์ จาก 6 หน่วยงาน มาร่วมจัดกิจกรรมให้ความรู้ และเผยแพร่ผลงานด้านการพัฒนาผลิตภัณฑ์ที่จะทำให้ประชาชนที่มาชมงาน ได้เห็นโอกาสและมีแรงบันดาลใจในการต่อยอดสู่การสร้างผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ เพื่อเข้าสู่ระบบของ OTOP ต่อไป สำหรับไฮไลท์ปีนี้อยู่ที่โซนที่ 7 ซึ่งเป็นโซนสุดยอดศิลปิน OTOP แสดงผลงานและการสาธิตภูมิปัญญาท้องถิ่นของ OTOP เป็นที่ยอมรับต่อสาธารณชน เพื่อเป็นการยกย่องและเชิดชูเกียรติ เผยแพร่ผลงานของบุคคล ที่ได้อนุรักษ์สืบทอดภูมิปัญญาท้องถิ่น จำนวน 25 ราย ที่สามารถถ่ายทอดองค์ความรู้ภูมิปัญญาท้องถิ่นให้กับเยาวชน และผู้สนใจทั่วไป ซึ่งมีผลงานเป็นที่ประจักษ์ และโซน 8 OTOP Premium ซึ่งประกอบไปด้วย OTOP ขึ้นเครื่อง จัดแสดงสินค้า 128 รายการ OTOP go Inter จัดแสดงสินค้า ระดับ Premium ที่จำหน่ายต่างประเทศ 100 รายการ OTOP แบรนด์เนม จัดแสดงสินค้า อาทิ กระเป๋า ซึ่งอยู่ระหว่างพัฒนาเป็นสินค้าแบรนด์เนม โดย TCDC (ศูนย์พัฒนาและออกแบบกรุงเทพ) และสินค้าที่มีชื่อเสียง (แบรนด์เนม) 25 รายการ นอกจากนี้ ภายในงานยังมีกิจกรรมที่สร้างสีสันให้กับงานอีกมากมาย อาทิ กิจกรรมบนเวทีที่สลับสับเปลี่ยนหมุนเวียนทุกวันตลอดการจัดงาน ทั้งการแสดงดนตรีจากศิลปินดารา และการแสดงศิลปวัฒนธรรมภาคต่างๆ "นาทีทอง" ชั่วโมงแห่งการนำพาเหรดสินค้า OTOP คุณภาพดี มาจำหน่ายในราคาพิเศษทุกวัน วันละ 2 รอบ และเพื่อเป็นการขอบคุณลูกค้าที่ให้การสนับสนุนผลิตภัณฑ์ OTOP มาโดยตลอด กรมการพัฒนาชุมชนจึงจัดโปรโมชั่นพิเศษ ลด แลก แจก แถม และลุ้นรับของรางวัลต่างๆ มากมาย อาทิ ทีวี เครื่องซักผ้า ตู้เย็น และสร้อยคอทองคำหนัก 1 สลึง ทุกวัน ๆ ละ 8 เส้น พิเศษสุดกับวันสุดท้ายของการจัดงาน ร่วมลุ้นรับรางวัลใหญ่รถยนต์ 2 คัน มูลค่ามากกว่า 800,000 บาท

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ