(ต่อ2) อเมริกา'ส์ สวีทฮาร์ทส์…คู่รักอลวน มายาอลเวง 19 ตุลาคม 2544

ข่าวทั่วไป Tuesday September 4, 2001 13:44 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--1 ส.ค.--บัวนา วิสต้า อินเตอร์เนชั่นแนล
อลัน อาร์กิ้น (Alan Arkin) รับบทเป็นผู้ชี้ทางสว่าง และคอยช่วยเหลือเยียวยาจิตใจเอ๊ดดี้ ทำให้เขาสามารถกลับฟื้นคืนมามีชีวิตชีวาอีกครั้งหนึ่ง
อาร์กิ้นเคยร่วมงานกับคูแซ็คมาก่อนหน้านี้แล้วใน Grosse Pointe Blank เขาเป็นที่รู้จักในฐานะนักแสดงผู้มากความสามารถทั้งทางละครเวที ภาพยนตร์ และโทรทัศน์ อาร์กิ้นเกิดที่นิว ยอร์ค และเริ่มต้นอาชีพในวงการจากการแสดงละครเสียดสีเรื่อง Second City ที่ชิคาโก้ ซึ่งทำให้เขามีโอกาสก้าวเข้ามาร่วมงานละครบรอดเวย์ โดยรับบทนำในละคร Enter Laughing จากบทประพันธ์ของคาร์ล ไรเนอร์ และผลงานเรื่องนี้เองที่ทำให้เขาได้รับรางวัล Tony Award ในปี 1998 เขากำกับ แสดง และร่วมเขียนบทกับอีเลียน เมย์ (Elaine May) ในผลงานเรื่อง Power Plays ซึ่งจัดการแสดงที่ Promenade Theatre จากนั้น อาร์กิ้นก็เริ่มกำกับละครเวทีโดยมีผลงานชิ้นแรกคือ Eh? นำแสดงโดยดัสติน ฮ็อฟแมนน์ (Dustin Hoffman) จัดแสดงที่ Circle in the Square เขาได้รับรางวัล Obie Award จากการกำกับ Little Murders ของผู้กำกับจูลส์ ไฟฟ์เฟอร์ (Jules Feiffer)
ผลงานภาพยนตร์เรื่องแรกสุดของอาร์กิ้นคือ The Russians Are Coming, The Russians Are Coming ทำให้เขาได้รับรางวัลลูกโลกทองคำสาขานักแสดงนำชายยอดเยี่ยม และยังได้รับการเสนอชื่อเข้าชิงรางวัลออสการ์สาขาเดียวกัน เขาถูกเสนอชื่อเข้าชิงออสการ์เป็นครั้งที่สอง และได้รับรางวัล New York Film Critics Award จากการแสดงใน The Heart Is a Lonely Hunter และเขาได้รับรางวัล New York Film Critics Award ครั้งที่สองจาก Hearts of the West ผลงานการแสดงเรื่องอื่นๆ ของเขาก็เช่น Catch 22, Little Murders (ซึ่งเขาเป็นผู้กำกับด้วย), Joshua, Then and Now, The In-Laws, Edward Scissorhands, Havana, Glengarry Glen Ross, Four Days in September, Mother Night, Slums of Beverly Hills, Gattaca, Steal Big, Steal Little, Jakob the Liar, Grosse Pointe Blank และ Thirteen Conversations About One Thing ที่กำลังจะออกฉายเร็วๆ นี้ เขาเคยเขียนบทและกำกับหนังสั้นสองเรื่องคือ T.G.I.F. และ People Soup เรื่องแรกนั้นออกฉายในงานเทศกาลภาพยนตร์นิวยอร์ค ส่วนเรื่องหลังได้รับการเสนอชื่อเข้าชิงรางวัลออสการ์สาขาภาพยนตร์ขนาดสั้นยอดเยี่ยม
ส่วนทางโทรทัศน์ เขากำกับผลงานซึ่งดัดแปลงจากละครบรอดเวย์เรื่อง Twigs กับแคโรล เบอร์เน็ทท์ (Carol Burnett) และ The Visitor กับเจฟฟ์ แดเนี่ยลส์ (Jeff Daniels) ซึ่งชนะรางวัลในระดับนานาชาติหลายรางวัลด้วยกัน งานแสดงทางโทรทัศน์ของเขารวมถึงการแสดงที่ได้รับการเสนอชื่อเข้าชิง Emmy Award ใน Escape From Sobibor และเป็นดารารับเชิญในบทพ่อให้กับอดัม อาร์กิ้น (Adam Arkin) ลูกชายแท้ๆ ของเขา ใน Chicago Hope ซึ่งทำให้เขาถูกเสนอชื่อเข้าชิง Emmy Award อีกครั้งหนึ่ง ล่าสุด เขาปรากฏตัวใน Varian's War ของ Showtime และเมื่อหลายปีก่อน อาร์กิ้นคือผู้ร่วมแสดงในซีรี่ส์อันโด่งดังของ A&E ชุด 100 Centre Street ซึ่งเขียนบทและกำกับโดยซิดนี่ย์ ลูเม็ท (Sidney Lumet)
เซธ กรีน (Seth Green) เล่นเป็นแดนนี่ แว๊กซ์ (Danny Wax) ผู้ประสานงานสื่อมวลชนฝึกหัดที่มีความทะเยอทะยานอยากข้ามหน้าข้ามตารุ่นพี่
ผลงานเรื่องต่อไปของกรีนคือ Rat Race ของผู้กำกับเจอร์รี่ ซัคเกอร์ (Jerry Zucker) และ Knockaround Guys คู่กับจอห์น มัลโควิช (John Malkovich) และเดนนิส ฮ็อปเปอร์ (Dennis Hopper) ขณะนี้เขากำลังอยู่ในระหว่างการทำงานเรื่อง Scorned ของ Disney ซึ่งกรีนรับหน้าที่ทั้งแสดง อำนวยการสร้าง และยังเป็นผู้ร่วมแต่งเรื่องอีกด้วย และเขาเพิ่งเซ็นสัญญารับบทเป็นเจมส์ เซนท์ เจมส์ (James St. James) ใน Party Monster ซึ่งสร้างจากเรื่องจริงของไมเคิล อัลลิก (Michael Alig) ราชาเซนท์ เจมส์ และนิวยอร์คคลับที่กลายเป็นฆาตกร กรีนยังจะแสดงในซีรี่ส์เรื่องใหม่ของ Fox ชุด Greg the Bunny คู่กับยูจีน เลวี่ (Eugene Levy) และกำลังจะเริ่มซีรี่ส์ของ Fox เรื่อง Family Guy เป็นปีที่สี่
ในชีวิตการแสดงของกรีน เขาผ่านมาหมดแล้วทั้งภาพยนตร์ โทรทัศน์ และละครเวที หนังเรื่องแรกสุดของเขาคือ Hotel New Hampshire ตามด้วยผลงานของวู้ดดี้ อัลเลน (Woody Allen) ในเรื่อง Radio Days ในอีกสี่ปีต่อมา และจากซีรี่ส์ชุด Buffy the Vampire Slayer ทำให้นิตยสาร Entertainment Weekly โวตให้กรีนเป็น 'นักแสดงโทรทัศน์ยอดเยี่ยม' ในปี 1999 เมื่อเขาลาจอไป
กรีนรับบทเป็นสก๊อตต์ เอวิล (Scott Evil) ลูกชายจอมบ้าบิ่นของไมค์ ไมเยอร์ส (Mike Myers) ในบทดร. เอวิล (Dr. Evil) ในหนัง Austin Powers: The Spy Who Shagged Me และ Austin Power: International Man of Mystery นอกจากนั้น เขายังแสดงใน Can't Hardly Wait ในปี 1999 โพลของสำนัก E! เทคะแนนให้กรีนเป็นนักแสดงหนุ่มที่ร้อนที่สุดในยุคปัจจุบัน
เกี่ยวกับทีมงานสร้าง
โจ ร็อธ (Joe Roth) กลับมานั่งเก้าอี้ผู้กำกับอีกครั้งใน America's Sweethearts หลังจากประสบความสำเร็จในงานบริหารสตูดิโอ โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับ 20th Century Fox และ Walt Disney
ร็อธก่อตั้ง Revolution Studios ในเดือนมกราคม ปี 2000 เป็นสตูดิโออิสระที่สร้าง และเป็นแหล่งทุนของหนัง ร่วมหุ้นกับสามบริษัทสื่อยักษ์ใหญ่ ได้แก่ Sony Picture, Starz Encore Group และ Fox Entertainment Group นอกจากนั้น Revolution Studios ยังมีหุ้นส่วนเป็นดารายอดนิยมแห่งยุคอย่างจูเลีย โรเบิร์ตส์ (Julia Roberts), บรูซ วิลลิส (Bruce Willis) และอดัม แซนด์เลอร์ (Adam Sandler) เป็นผู้สร้าง และผู้แสดงในหนังของ Revolution Studios นอกจาก America's Sweethearts แล้ว Revolution Studios ยังผลิตหนังทำเงินอย่าง The Animal นำแสดงโดยร็อบ ชไนเดอร์ (Rob Schneider) โดยมีอดัม แซนด์เลอร์เป็นผู้อำนวยการสร้างฝ่ายบริหาร, Black Hawk Down อำนวยการสร้างโดยเจอร์รี่ บรั๊คไฮเมอร์ (Jerry Bruckheimer) และกำกับโดยริดลี่ย์ สก๊อตต์ (Ridley Scott), The One นำแสดงโดยเจ็ท ลี (Jet Li), Man of War นำแสดงโดยบรูซ วิลลิส และ X-4 ของผู้กำกับพอล โธมัส แอนเดอร์สัน (Paul Thomas Anderson) นำแสดงโดยอดัม แซนด์เลอร์ และเอมิลี่ วัทสัน (Emily Watson)
ร็อธทำงานที่ Walt Disney Studios ตั้งแต่เดือนสิงหาคม 1994 จนถึงเดือนมกราคม ปี 2000 เขาเริ่มต้นจากการเป็นประธาน Disney Motion Picture Group จนถึงเดือนเมษายน 1996 จึงได้เลื่อนขึ้นเป็นประธาน Walt Disney Studios จนกระทั่งลาออก เขาขยายตลาดของสตูดิโอออกไปทั่วโลกในช่วงเวลาห้าปีที่อยู่ในตำแหน่ง หนังที่ผลิต 18 เรื่องทำรายได้จากการออกฉายในประเทศกว่า 100 ล้านเหรียญฯ โดยสามเรื่อง (ได้แก่ The Sixth Sense, Toy Story 2 และ Armageddon) สามารถทำรายได้ในสหรัฐเรื่องละกว่า 200 ล้านเหรียญฯ เขายังมีส่วนร่วมในการก่อตั้ง Buena Vista International ให้เป็นผู้นำในตลาด โดยสามารถสร้างรายได้มากกว่าเดิมถึงห้าเท่าในช่วงเวลาหกปี และเป็นบริษัทภาพยนตร์แห่งเดียวที่สามารถทำรายได้สุทธิมากกว่าหนึ่งพันล้านเหรียญฯ ต่อปีในระยะเวลาห้าปีที่ผ่านมา ในปี 1999 หนังเรื่อง The Insider และ The Sixth Sense ถูกเสนอชื่อเข้าชิงรางวัลออสการ์สาขาภาพยนตร์ยอดเยี่ยม ทำให้ Disney สร้างสถิติเข้าชิงออสการ์สูงถึง 17รายการด้วยกัน
จากปี1992-1994 ร็อธร่วมกับโรเจอร์ เบิร์นบูม (Roger Birnbaum) ก่อตั้ง Caravan Pictures ซึ่งสร้างหนังอย่าง While You Were Sleeping, Angels in the Outfield และ The Three Musketeers ให้กับ Disney ก่อนที่จะตั้ง Caravan Pictures ร็อธเคยเป็นประธาน 20th Century Fox จากเดือนกรกฎาคม 1989 จนถึงเดือนพฤศจิกายน 1992 และสามารถผลิตหนังที่ประสบความสำเร็จสูงอย่าง Home Alone, Home Alone 2: Lost in New York, Die Hard 2, Sleeping with the Enemy, Mrs. Doubtfire, My Cousin Vinny, White Men Can't Jump, Edward Scissorhands, The Commitments และ Last of the Mohicans
ก่อนจะเข้ามาคุม Fox ร็อธเคยเป็นผู้อำนวยการสร้างและผู้กำกับอิสระ และเป็นผู้ร่วมก่อตั้ง Mogan Creek Pictures ในยุคนั้น เขาสร้างหนังอย่าง Young Guns, Dead Ringers, Major League และ Bachelor Party และกำกับหนัง Streets of Gold และ Revenge for the Nerds 2 ให้กับ Fox และ Coupe de Ville ของ Universal
กรุณาดูประวัติของบิลลี่ คริสตัล (Billy Crystal) ผู้อำนวยการสร้าง/ผู้เขียนบท ได้ในส่วนเนื้อหา 'เกี่ยวกับนักแสดง'
ผู้อำนวยการสร้าง ซูซาน อาร์โนลด์ (Susan Arnold) และดอนน่า อาร์คอฟฟ์ ร็อธ (Donna Arkoff Roth) มีผลงานการสร้างหนังที่ผ่านมาไม่นานอย่าง The Haunting และ Forces of Nature หนังแนวตลกโรแมนติก นำแสดงโดยเบน แอ็ฟเฟล็ค (Ben Affleck) และแซนดร้า บูลล็อค (Sandra Bullock)
ภายใต้ชื่อของ Roth/Arnold Productions พวกเขาสร้างหนังตลกที่ได้รับความสำเร็จอย่าง Grosse Pointe Blank นำแสดงโดยจอห์น คูแซ็ค (John Cusack) และมินนี่ ไดรเวอร์ (Minnie Driver) และสร้างหนังถูกใจนักวิจารณ์อย่าง Unstrung Heroes กำกับโดยไดแอน คีตัน (Diane Keaton) นำแสดงโดยแอนดี้ แม็คโดเวลล์ (Andie MacDowell), จอห์น เทอร์เทอร์โร่ (John Turturro) และไมเคิล ริชาร์ด (Michael Richards) โดยผลงานการสร้างชิ้นแรกของทั้งสองเป็นหนังแนวตลกโรแมนติกเรื่อง Benny & Joon นำแสดงโดยจอห์นนี่ เดปป์ (Johnny Depp), แมรี่ สจ๊วต มาสเตอร์สัน (Mary Stuart Masterson) และไอแดน ควินน์ (Aidan Quinn)
ซูซาน อาร์โนลด์ก้าวขึ้นมาเป็นผู้อำนวยการสร้างหลังจากประสบความสำเร็จด้วยดีในฐานะผู้กำกับการคัดเลือกนักแสดง
ก่อนจะมาเป็นผู้อำนวยการสร้างภาพยนตร์ ดอนน่า อาร์คอฟฟ์ ร็อธเคยเป็นผู้อ่านสคริปท์ของ American International Pictures จากนั้นเธอจึงหันมาทำงานสร้างภาพยนตร์ โดยเริ่มทำงานกับนักทำหนังอิสระมือดีอย่างโรเจอร์ และจูลี่ คอร์แมน (Roger and Julie Corman) และลอว์เรนซ์ กอร์ดอน (Lawrence Gordon)
ชาร์ลส์ นีเวิร์ธ (Charles Newirth) - ผู้อำนวยการสร้างฝ่ายบริหาร - เข้าร่วมงานกับ Revolution Studios ในเดือนพฤษภาคมปี 2000 โดยมีหน้าที่รับผิดชอบงานสร้างภาพยนตร์ทั้งหมดของ Revolution Studios
ที่ผ่านมาเมื่อไม่นานนี้ นีเวิร์ธสร้างหนังฮิตเรื่อง Galaxy Quest ของ Dream Works Pictures โดยก่อนหน้านี้ เขาอำนวยการสร้างหนัง Patch Adam นำโดยโรบิน วิลเลี่ยมส์ (Robin Williams) และ Home Fires นำโดยดรูว์ แบร์รี่มอร์ (Drew Barrymore)
งานในฐานะผู้อำนวยการสร้างฝ่ายบริการนั้น รวมถึง City of Angels ของผู้กำกับเบรด ซิลเบอร์ลิ่ง (Brad Silberling) นำโดยนิโคลัส เคจ (Nicolas Cage) และเม็ก ไรอัน (Meg Ryan), Ghosts of Mississippi ของผู้กำกับร็อบ ไรเนอร์ (Rob Reiner) นำแสดงโดยอเล็ค บาล์ดวิน (Alec Baldwin), วู้ปปี้ โกลด์เบิร์ก (Whoopi Goldberg) และเจมส์ วู้ดส์ (James Woods), The American President ของร็อบ ไรเนอร์ นำโดยไมเคิล ดั๊กลาส (Michael Douglas) และแอนเน็ตต์ เบนิ่ง (Annette Bening) และ Phenomenon ของจอน เทอร์เทิลทับ (Jon Turtletaub) นำโดยจอห์น ทราโวลต้า (John Travolta)
นอกจากที่กล่าวมาแล้ว นีเวิร์ธยังร่วมอำนวยการสร้างหนังออสการ์เรื่อง Forrest Gump ของโรเบิร์ต เซเมคิส (Robert Zemeckis) รวมทั้ง Toys, Bugsy และ Avalon ของแบร์รี่ เลวินสัน (Barry Levinson)
นีเวิร์ธเป็นชาวนิวยอร์คโดยกำเนิด ก้าวเข้าสู่อุตสาหกรรมภาพยนตร์จากการเป็นผู้จัดการสถานที่ถ่ายทำในหนังอย่าง Flashdance, Pretty in Pink, Ferris Bueller's Day Off, Throw Momma from the Train และ RoboCop ก่อนจะเริ่มเป็นผู้ช่วยผู้อำนวยการสร้างในหนัง The Package ของแอนดรูว์ เดวิส (Andrew Davis)
นอกจาก America's Sweethearts แล้ว ปีเตอร์ โทแลน (Peter Tolan) - ผู้อำนวยการสร้างฝ่ายบริหารและผู้เขียนบทภาพยนตร์ - เป็นผู้เขียนบทละคร Stealing U. ที่กำลังจะเปิดแสดงเร็วๆ นี้ และร่วมเขียนบทหนัง Analyze This, My Fellow Americans, What Planet Are You From? และ Bedazzled ส่วนงานเขียนบททางโทรทัศน์นั้นรวมถึง Murphy Brown, Sessions ซีรี่ส์ทาง HBO ของบิลลี่ คริสตัล, Style and Substance, The Larry Sanders Show และ The Job ซึ่งออกอากาศทางสถานี ABC เขาได้รับรางวัล Emmy Award ครั้งแรกจาก Murphy Brown ครั้งที่สองจากการเขียนบทในชุดสุดท้ายของ The Larry Sanders Show ร่วมกับแกร์รี่ แชนด์ลิ่ง (Garry Shandling) ซึ่งเป็นตอนที่ได้รับรางวัล Peabody Award อีกด้วย
เขาอาศัยอยู่ในพาซาเดน่ากับภรรยาและลูกๆ อีกสามคน รวมทั้งรางวัล Peabody Award อันทรงเกียรติ
ผู้กำกับภาพ เฟดอน ปาปาไมเคิล (Phedon Papamichael) ผ่านงานกำกับภาพในหนัง 27 เรื่อง รวมทั้ง Patch Adam, Phenomenon, While You Were Sleeping และ Cool Runnings ผลงานอื่นๆ ก็เช่น Baby's in Black ของแบรด ซิลเบอร์ลิง นำแสดงโดยดัสติน ฮ็อฟฟ์แมน, The Million Dollar Hotel กำกับโดยวิม เวนเดอร์ส (Wim Wenders) นำแสดงโดยเมล กิ๊บสัน, Unstrung Heroes กำกับโดยไดแอน คีตัน และอำนวยการสร้างโดยซูซาน อาร์โนลด์ และดอนน่า อาร์คอฟฟ์ ร็อธ, Unhook the Stars นำแสดงโดยจีน่า โรว์แลนด์ส (Gena Rowlands) กำกับโดยนิค คาสซาเวทส์ (Nick Cassavetes), Mouse Hunt, The Locusts และ Poison Ivy
ผู้ออกแบบงานสร้าง การ์เร็ธ สโตเวอร์ (Garreth Stover) เคยร่วมงานกับผู้อำนวยการสร้างซูซาน อาร์โนลด์ และดอนน่า อาร์คอฟฟ์ ร็อธ ใน Unstrung Heroes เร็วๆ นี้ สโตเวอร์ออกแบบงานสร้างหนังเรื่องล่าสุดของผู้กำกับแบร์รี่ ซอนเนนเฟลด์ (Barry Sonnenfeld) ใน Big Trouble ผลงานอื่นๆ ของเขาก็เช่น Lost Souls, The Kid, Instinct, Phenomenon, Where's Marlowe?, A Smile Like You และ While You Were Sleeping
นอกจากนั้น สโตเวอร์ยังออกแบบงานสร้างให้กับภาพยนตร์ทางโทรทัศน์อีกหลายเรื่อง รวมทั้ง Indecency, Deconstructing Sarah, Deep Red และ Sudden Fury ซึ่งทั้งหมดนี้เป็นผลงานของผู้กำกับเคิร์ก แบ็กซ์เล่ย์ (Craig Baxley) เขาร่วมงานกับผู้กำกับมิมี่ เลเดอร์ ใน Stolen Hearts, There Was a Little Boy และซีรี่ส์ China Beach ตอนที่เธอกำกับ ผลงานทางโทรทัศน์อื่นๆ ของเขา ได้แก่ Murder of Innocence, The Late Shift, Inner Sanctum และ Extreme Close-Up และซีรี่ส์ Parenthood ของรอน โฮเวิร์ด (Ron Howard) ซึ่งดัดแปลงจากหนังชื่อเรื่องเดียวกันของเขาเอง
ผู้ออกแบบเครื่องแต่งกาย เอลเลน มิโรจนิค (Ellen Mirojnick) มีผลงานล่าสุดคือ What Woman Want ส่วนผลงานในอนาคตของเธอคือ Don't Say a Word ของแกรี่ เฟลเดอร์ (Gary Fleder), Unfaithful ของเอเดรียน ไลน์ (Adrian Lyne) นำแสดงโดยริชาร์ด เกียร์ (Richard Gere) และ Rat Race ของเจอร์รี่ ซัคเกอร์ (Jerry Zucker)
เธอได้รับการเสนอชื่อเข้าชิงรางวัล Emmy Award จากการออกแบบเครื่องแต่งกายหนังเพลงทางโทรทัศน์เรื่อง Cinderella นำแสดงโดยวิทนี่ย์ ฮูสตัน (Whitney Houston) และแบรนดี้ (Brandy) เธอได้รับรางวัล Saturn Award สาขาออกแบบเครื่องแต่งกายยอดเยี่ยมจาก Starship Troopers และได้รับการเสนอชื่อเข้าชิงรางวัล British Academy Award จากหนังชีวประวัติเรื่อง Chaplin ผลงานอื่นๆ ของเธอก็เช่น The Haunting, A Perfect Murder, Face/Off, Twister, Speed, The Ghost and the Darkness, Mulholland Falls, Strange Days, Chiffhanger, Basic Instinct, Jacob's Ladder, Always, Black Rain, Talk Radio, Cocktail, Wall Street, Fatal Attraction และ The Flamingo Kid
มิโรจนิคเกิดที่นิวยอร์ค และเข้าศึกษาที่ Parsons School of Design และ School of Visual Arts เธอเป็นผู้ออกแบบเครื่องแต่งกายนักกีฬา ก่อนจะหันมาทำงานด้านภาพยนตร์ในปี 1978 โดยมีผลงานเรื่องแรกคือ French Quarter
ผู้ลำดับภาพ สตีเฟ่น เอ. ร็อตเตอร์ (Stephen A. Rotter) เคยได้รับรางวัลออสการ์จากการทำงานในหนัง The Right Stuff และยังได้รับรางวัล Emmy Award จากการตัดต่อตอนหนึ่งของมินิซีรี่ส์ชุด Holocaust ผลงานการลำดับภาพเรื่องล่าสุดของร็อตเตอร์คือ What Woman Want ผลงานสำคัญเรื่องอื่นๆ ของเขาก็เช่น Father of the Bride Part II, The Parent Trap, The Preacher's Wife, Dirty Rotten Scoundrels, The World According to Garp, The Unbearable Lightness of Being และ Rising Sun
เจฟฟรี่ย์ เคอร์แลนด์ (Jeffrey Kurland) เป็นผู้ออกแบบเครื่องแต่งกายให้กับจูเลีย โรเบิร์ตส์ มีผลงานที่เพิ่งถ่ายทำเสร็จสิ้นคือ What's the Worst That Could Happen?
ผลงานอื่นๆ ของเขานั้นรวมถึง Erin Brockovich, Man on the Moon, In Dreams, Living Out Loud, My Best Friend's Wedding, Everyone Says I Love You, Mighty Aphrodite, Mixed Nuts, Bullets Over Broadway, Manhattan Murder Mystery, Husbands and Wives, This Is My Life, Shadows and Fog, Alice, New York Stories, Hannah and Her Sisters และ The Purple Rose of Cairo-- จบ--
-อน-

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ