เฟดเอ็กซ์ เปิดศูนย์โลจิสติกส์ในเมืองเมมฟิส สำหรับสินค้าควบคุมความเย็นโดยเฉพาะ เสริมประสิทธิภาพการจัดส่งยาและสินค้าด้านสุขภาพระหว่างสหรัฐอเมริกาและเอเชียแปซิฟิก รวมทั้งจุดหมายปลายทางทั่วโลก

ข่าวทั่วไป Monday June 13, 2016 15:44 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--13 มิ.ย.--เวเบอร์ แชนวิค เฟดเอ็กซ์ เอ็กซ์เพรส บริษัทในเครือของเฟดเอ็กซ์ คอร์ปอเรชั่น (ตัวย่อในตลาดหลักทรัพย์นิวยอร์ค FDX) และเป็นผู้ให้บริการจัดส่งพัสดุรายใหญ่ที่สุดของโลก ประกาศเปิดศูนย์โล จิสติกส์สำหรับสินค้าควบคุมความเย็นหรือ เฟดเอ็กซ์ โคลเชน เซ็นเตอร์ (FedEx Cold Chain Center) ขึ้นที่ศูนย์กลางขนส่งทั่วโลกของเฟดเอ็กซ์ ในเมืองเมมฟิส มลรัฐเทนเนสซี ประเทศสหรัฐอเมริกา โดยศูนย์ดังกล่าวมีขนาด 7,710 ตารางเมตร และออกแบบมาสำหรับการจัดส่งยาและสินค้าสุขภาพ รวมถึงสินค้าที่เน่าเสียง่ายโดยเฉพาะ ซึ่งต้องควบคุมอุณหภูมิให้เหมาะสมตลอดการจัดส่งเพื่อรักษาความสมบูรณ์ของผลิตภัณฑ์ การเปิดศูนย์ FedEx Cold Chain Center จะช่วยเสริมประสิทธิภาพให้บริการจัดส่งยาและสินค้าด้านสุขภาพของเฟดเอ็กซ์ หรือ FedExฎ Healthcare Solutions รวมทั้งขยายเครือข่ายการจัดส่งพัสดุควบคุมความเย็นให้ครอบคลุมทั่วโลกมากยิ่งขึ้น ลูกค้าจึงมีทางเลือกในการจัดส่งพัสดุที่ต้องการการดูแลแบบพิเศษ ไปยังเอเชียแปซิฟิก และสหรัฐอเมริกา รวมถึงประเทศอื่นๆ ทั่วโลก ได้มากขึ้น ในแต่ละปี การจัดส่งเวชภัณฑ์และผลิตภัณฑ์เพื่อสุขภาพที่ต้องควบคุมอุณหภูมิมีมูลค่าสูงถึง 1.3 แสนล้านเหรียญสหรัฐ หรือราว 4.5 ล้านล้านบาท โดยผลิตภัณฑ์เหล่านี้นับว่ามีความสำคัญอย่างมากเพราะจำเป็นต่อการดูแลรักษาผู้ป่วย จึงต้องมั่นใจว่าสินค้าต้องคงความสมบูรณ์เมื่อถึงมือผู้รับทั่วโลก โดยมูลค่าการจัดส่งยาและสินค้าด้านสุขภาพมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นทุกปี สำหรับภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกคาดว่าการจัดส่งผลิตภัณฑ์ที่ต้องควบคุมความเย็นจะมีอัตราเติบโตในระดับเลขสองหลักภายในปี 2563 คาเรน เรดดิงตัน ประธานเฟดเอ็กซ์ เอ็กซ์เพรส ประจำภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก กล่าวว่า "ประสิทธิภาพในการจัดส่งสินค้าแบบควบคุมความเย็นที่ทันสมัย จะช่วยให้อุตสาหกรรมยาและสุขภาพในเอเชียแปซิฟิกสามารถก้าวข้ามอุปสรรคด้านการจัดส่ง และเปิดกว้างในการนำเสนอสิ่งใหม่ๆ ให้กับผู้บริโภคทั่วโลกได้ โดยในช่วง 2-3 ปีก่อนนั้น สินค้าที่เปราะบางที่สุดอย่างชีวเวชภัณฑ์ ไม่สามารถขนส่งข้ามโลกหรือทำได้แต่ยากลำบากมาก แต่ปัจจุบันกลับกลายเป็นเรื่องง่าย ด้วยเทคโนโลยีการจัดส่งแบบควบคุมความเย็นที่ล้ำสมัย เรามั่นใจว่าการเปิดศูนย์โลจิสติกส์สำหรับสินค้าควบคุมความเย็นขึ้นที่เมมฟิส จะสร้างความได้เปรียบในด้านบริการ และช่วยให้เฟดเอ็กซ์สามารถตอบรับความต้องการในการจัดส่งยาและสินค้าสุขภาพทั่วโลกได้อย่างรวดเร็ว" ศูนย์โลจิสติกส์สำหรับสินค้าควบคุมความเย็นในเมมฟิสของเฟดเอ็กซ์ นำเสนอบริการจัดส่งสินค้าที่ก้าวล้ำโดยสามารถควบคุมอุณหภูมิให้ความเหมาะสมได้อยู่เสมอ แม้ในสถานการณ์ที่อาจก่อให้เกิดความล่าช้าในการจัดส่งอย่างคาดไม่ถึง เช่น การตรวจสินค้าผ่านศุลกากร หรือเมื่อเกิดสภาพอากาศแปรปรวน โดยมีจุดเด่นของบริการ ได้แก่ การแบ่งพื้นที่ควบคุมอุณหภูมิให้เหมาะสมกับผลิตภัณฑ์แต่ละประเภท ได้แก่ โซนสินค้าแช่แข็งที่อุณหภูมิ -25°C ถึง -10°C โซนสินค้าแช่เย็นที่ 2°C ถึง 8°C และโซนสินค้าที่อุณหภูมิห้อง 15°C ถึง 25°C การแยกพื้นที่จัดเก็บสำหรับผลิตภัณฑ์ยาและสุขภาพ และสินค้าที่เน่าเสียง่ายอื่นๆ ที่ต้องแช่เย็นอย่างเป็นสัดส่วน เช่น อาหารพิเศษ ดอกไม้ และอาหารทะเล มีการตรวจวัดระดับก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ ความชื้น และอุณหภูมิ ในแบบเรียลไทม์ มีสถานีเอกสารคลังสินค้าระหว่างประเทศ หรือ International Document Agent ประจำศูนย์ ซึ่งเปิดตลอด 24 ชั่วโมงโดยไม่มีวันหยุด และมีเจ้าหน้าที่คอยติดตามดูแลด้านนี้โดยเฉพาะ การวางสินค้าบนแท่น การจัดเรียง และการคัดแยกสินค้า จะใช้ผ้าคลุมควบคุมอุณหภูมิ หรือ FedEx Thermal Blanket ในทุกขั้นตอน ซึ่งเป็นโซลูชั่นของเฟดเอ็กซ์ที่ออกแบบมาโดยเฉพาะเพื่อรักษาอุณหภูมิในระหว่างการขนส่งสินค้า อุปกรณ์จัดเก็บออกแบบมาให้สามารถเติมน้ำแข็งแห้ง และเปลี่ยนเจลรักษาความเย็นได้ในระหว่างขนส่ง สถานีเปลี่ยนถ่ายสินค้าสามารถเชื่อมกับรถพ่วงได้โดยตรง และรักษาอุณหภูมิความเย็นไว้ที่ 2°C ถึง 8°C ระบบประตูล็อคเย็นสองชั้นเพื่อการควบคุมอุณหภูมิที่แม่นยำ ศูนย์โลจิสติกส์สำหรับสินค้าควบคุมความเย็นในเมมฟิส ถือเป็นศูนย์ต้นแบบแห่งแรกในเครือข่ายของเฟดเอ็กซ์ นอกจากนี้เฟดเอ็กซ์ยังมีศูนย์โลจิสติกส์ควบคุมความเย็นที่มีขนาดย่อมกว่า และเปิดบริการมาแล้วก่อนหน้านี้อีก 3 แห่ง ที่ท่าอากาศยานชาร์ล เดอ โกล ประเทศฝรั่งเศส และท่าอากาศยานโคโลญบอนน์ ประเทศเยอรมนี รวมทั้งท่าอากาศยานนานาชาติคันไซ ประเทศญี่ปุ่น ท่านสามารถศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับโซลูชั่นการจัดส่งแบบควบคุมอุณหภูมิของเฟดเอ็กซ์ ได้ที่http://www.fedex.com/th/healthcare/

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ