กรุงเทพฯ--13 มิ.ย.--กลุ่มประชาสัมพันธ์ กระทรวงวัฒนธรรม
พลเอก ธนะศักดิ์ ปฏิมาประกร รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะประธานคณะกรรมการภาพยนตร์และวีดิทัศน์แห่งชาติ เปิดเผยภายหลังการประชุมคณะกรรมการภาพยนตร์และวีดิทัศน์แห่งชาติ ครั้งที่ 4/2559 ที่กระทรวงวัฒนธรรม ว่า ที่ประชุมได้พิจารณาการขอยกเว้นการตรวจพิจารณาภาพยนตร์ระหว่างประเทศที่จะฉายในประเทศไทย ตาม พ.ร.บ.ภาพยนตร์และวีดิทัศน์แห่งชาติ พ.ศ.2551เนื่องจากปัจจุบันประกาศรายชื่อเทศกาลภาพยนตร์ระหว่างประเทศที่นำภาพยนตร์ออกฉายได้โดยไม่ต้องตรวจพิจารณายังไม่เป็นปัจจุบัน มีเทศกาลภาพยนตร์ระหว่างประเทศที่สนใจฉายภาพยนตร์ในประเทศไทยเพิ่มขึ้น อีกทั้งเทศกาลภาพยนตร์ระหว่างประเทศที่ได้รับการประกาศฯแล้วบางส่วนไม่ได้มีการจัดเทศกาลอย่างต่อเนื่อง จึงควรจะต้องมีการทบทวนประกาศรายชื่อเทศกาลภาพยนตร์ระหว่างประเทศที่นำภาพยนตร์ออกฉายได้โดยไม่ต้องตรวจพิจารณา โดยที่ประชุมมีมติให้กระทรวงวัฒนธรรม แต่งตั้งคณะอนุกรรมการฯ เพื่อพิจารณาทบทวนประกาศรายชื่อเทศกาลภาพยนตร์ระหว่างเทศฯ และกำหนดผู้รับผิดชอบที่ทำหน้าที่พิจารณายกเว้นการตรวจพิจารณาภาพยนตร์ในเทศกาลภาพยนตร์ระหว่างประเทศตามประกาศฯ รวมถึงพิจารณาทบทวนเนื้อหา พ.ร.บ. ภาพยนตร์และวีดิทัศน์แห่งชาติ พ.ศ.2551 ที่เกี่ยวข้องกับภาพยนตร์ที่ฉายในเทศกาลภาพยนตร์ระหว่างประเทศ อันจะนำไปสู่การแก้ไขปรับปรุงเนื้อหาใน พ.ร.บ.ดังกล่าวให้เป็นปัจจุบันต่อไปทั้งนี้ จะต้องดำเนินการให้แล้วเสร็จภายใน 1 เดือน
พลเอก ธนะศักดิ์ กล่าวต่อว่า นอกจากนี้ ที่ประชุมได้มีมติเห็นชอบให้ยกเว้นการตรวจพิจารณาภาพยนตร์ในเทศกาลภาพยนตร์ระหว่างประเทศที่จะฉายในประเทศไทย จำนวน 3 เทศกาล ได้แก่ 1.ภาพยนตร์ที่จะฉายในงานเทศกาลภาพยนตร์สิงคโปร์ 2016 จำนวน 5 เรื่อง ระหว่างวันที่ 15- 19 มิถุนายน 2559ณ โรงภาพยนตร์เอสเอฟ เวิลด์ ซีเนม่า ห้างสรรพสินค้าเซ็นทรัลเวิลด์ 2.ภาพยนตร์ที่จะฉายในงานเทศกาลภาพยนตร์เงียบ ครั้งที่ 3 จำนวน 9 เรื่อง จาก 4 ประเทศระหว่างวันที่ 17 - 22 มิถุนายน 2559ณ โรงภาพยนตร์ลิโด กรุงเทพมหานคร และ3.ภาพยนตร์ที่จะฉายในงานเทศกาลภาพยนตร์ต่างประเทศที่ถ่ายทำในประเทศไทยจำนวน 13 เรื่อง จาก 9 ประเทศระหว่างวันที่ 6 - 12 กรกฎาคม 2559 ณ โรงภาพยนตร์พารากอน ซีนิเพล็กซ์ ศูนย์การค้าสยามพารากอนส่วนการผลักดันมาตรการส่งเสริมการถ่ายทำภาพยนตร์ต่างประเทศในประเทศไทย Incentive Measures ที่ประชุมมีมติให้เร่งดำเนินการร่างหลักเกณฑ์ เงื่อนไขการช่วยเหลือทั้งภาพยนตร์ไทยและต่างประเทศ รวมทั้งแก้กฎหมายที่เกี่ยวข้องกับภาพยนตร์ เพื่อเสนอคณะรัฐมนตรีพิจารณาเห็นชอบต่อไป ทั้งนี้ ที่ประชุมได้รับรายงานความคืบหน้าการเข้าร่วมส่งเสริมและเผยแพร่ภาพยนตร์ไทย ณ เทศกาลภาพยนตร์เมืองคานส์ ครั้งที่ 69 ซึ่งได้มีข้อเสนอแนะให้ขยายพื้นที่คูหาประเทศไทย และปรับเปลี่ยนพื้นที่ให้อยู่ในบริเวณต่อเนื่องกับคูหาของประเทศในอาเซียน รวมถึงเพิ่มกิจกรรมเสริม เพื่อดึงดูดนักลงทุนและผู้เข้าชมงาน