กรุงเทพฯ--1 ก.ค.--อาซิแอม เบอร์สัน-มาร์สเตลเลอร์
โฉมหน้า 6 ตัวแทนเด็กไทย ซึ่งชนะเลิศการแข่งขันโครงการ"ฮอนด้า ซูเปอร์ ไอเดีย คอนเทสต์ 2015" ภายใต้แนวคิด คิด(ส์) กระหึ่มโลก โดย บริษัท ฮอนด้า ออโตโมบิล (ประเทศไทย) จำกัด ซึ่งเป็นโครงการที่จัดต่อเนื่องเป็นปีที่ 11 ได้เดินทางไปประเทศญี่ปุ่น เพื่อเข้าค่ายเยาวชนไทย-ญี่ปุ่น "ฮอนด้า ซูเปอร์ ไอเดีย คิดส์" นำผลงานสิ่งประดิษฐ์จากไอเดียสุดสร้างสรรค์ล้ำจินตนาการที่มีเป้าหมายยิ่งใหญ่เพื่อยกระดับคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น ไปแลกเปลี่ยนไอเดียกับสุดยอดตัวแทนเด็กนักเรียนระดับประถมศึกษาชาวญี่ปุ่น พร้อมได้กระทบไหล่กับอาซิโม หุ่นยนต์ที่คล้ายมนุษย์ที่สุด ขวัญใจเด็ก ๆ ทั่วโลก และเข้าเยี่ยมชมอาณาจักรฮอนด้า ทวินริง โมเตกิ ณ จังหวัดโตชิกิ ประเทศญี่ปุ่น
เชื่อว่ายังมีคนจำนวนไม่น้อยเลือกที่จะเสี่ยงข้ามถนนแทนการขึ้นบันไดสะพานลอยที่สูงและชัน โดยเฉพาะผู้สูงอายุและผู้ที่มีข้อจำกัดด้านสุขภาพ ซึ่งจำเป็นที่จะต้องหลีกเลี่ยงการใช้สะพานลอย ทำให้เกิดอุบัติเหตุบนท้องถนนอยู่บ่อยครั้ง "ชิงช้าสวรรค์สะพานลอย" จึงถือกำเนิดขึ้นจากไอเดียของ
น้องเคนโด้ หรือ เด็กชายภานุวัฒน์ วีระวัฒนพงศ์ นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 โรงเรียนประสานมิตร เจ้าของรางวัลชนะเลิศโล่รางวัลพระราชทานสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ โครงการ "ฮอนด้า ซูเปอร์ ไอเดีย คอนเทสต์ 2015" คนล่าสุด
น้องเคนโด้บอกว่า "ผมอยากช่วยอำนวยความสะดวกในการขึ้นสะพานลอยให้ง่าย รวดเร็ว และปลอดภัยสำหรับเด็กและคุณตาคุณยายที่มีอายุมากๆ โดยวิธีการทำงานของชิงช้าสวรรค์สะพานลอยซึ่งมีรูปร่างลักษณะเป็นชิงช้าสวรรค์ขนาดใหญ่เหนือถนนและอีกครึ่งหนึ่งอยู่ใต้ดิน มีจุดขึ้น-ลงสะพานลอยทั้ง 2 ฝั่งถนน พอต้องการจะข้ามถนนไปอีกฝั่งก็แค่ขึ้นไปยืนบนกระเช้าแล้วชิงช้าก็จะค่อยๆ หมุนข้ามไปอีกฝั่ง ซึ่งหลังคาของกระเช้าแต่ละตัวจะมีแผงโซลาร์เซลล์ใช้รับแสงอาทิตย์แล้วแปลงมาเป็นพลังงานไฟฟ้าทำให้ชิงช้าหมุนต่อไป"
ด้านเยาวชนญี่ปุ่นผู้ชนะเลิศจากโครงการฯ เด็กชายอิโต โทะโมะยะ ได้เล่าถึงแรงบันดาลใจในการคิดผลงาน "ทีมชินะเซ 9" ว่าที่ประเทศญี่ปุ่น ผมมักจะเห็นข่าวเด็กๆ ฆ่าตัวตายอยู่บ่อยๆ เพราะมีความเครียดสูงจากการเรียน จึงคิดว่าเราน่าจะมีวิธีป้องกันได้ทำอย่างไรให้เด็กรู้สึกไม่อยากตาย
ผมจึงคิดตั้งทีมเบสบอลซึ่งทำหน้าที่ร่วมกันปกป้องและเตือนภัยหากพบว่ามีเด็กจะทำร้ายตัวเอง
โดยการใช้อุปกรณ์เตือนภัยต่าง ๆ ร่วมกับหน่วยงานของรัฐ มีการให้คำปรึกษากับเด็ก ช่วยปลอบประโลมให้เขามีความสุขมากขึ้น"
มร. มิสึอากิ มิยาซากิ ผู้จัดการ สำนักกิจกรรมเพื่อมนุษยธรรม บริษัท ฮอนด้า มอเตอร์ จำกัด ประเทศญี่ปุ่น กล่าวว่า "ค่ายเยาวชนฮอนด้า ซูเปอร์ไอเดีย คิดส์ เป็นกิจกรรมที่เราตั้งใจทำอย่างต่อเนื่องเพี่อพัฒนาศักยภาพของเด็กในเรื่องจินตนาการและความคิดสร้างสรรค์ ซึ่งเป็นจุดกำเนิดของผลงานต่างๆ มากมาย เด็กๆจะได้เรียนรู้จากความคิดของเพื่อนๆ มีพัฒนาการทางความคิดและเป็นบุคลากรที่มีคุณภาพของสังคมในที่สุด สำหรับผลงานสิ่งประดิษฐ์ในปีนี้ เยาวชนทั้ง 12 คนมีแนวคิดในการแก้ปัญหาต่างๆ ที่เกิดขึ้นในชีวิตประจำวัน เช่น อุบัติเหตุบนท้องถนน จึงเป็นที่มาของสะพานลอยชิงช้าสวรรค์ หรือไอเดียที่ต้องการช่วยบรรเทาโรคภัยที่ตนเองได้ประสบอยู่และสามารถเป็นประโยชน์ต่อผู้อื่นด้วย อย่างชุดเพื่อผู้ป่วย SLE ซึ่งทำให้เราเห็นถึงพลังแห่งความฝันที่มีความสำคัญกับการพัฒนาสิ่งต่าง ๆ เป็นอย่างมาก "ทุกฝันเป็นจริงได้ หากเรามุ่งมั่นและไม่ท้อถอย" นี่คือจุดเริ่มต้นจากพลังแห่งความฝันที่กลายเป็นพลังขับเคลื่อนอันยิ่งใหญ่สำหรับ บริษัท ฮอนด้า มอเตอร์ จำกัด ของ มร.โซอิจิโร่ ฮอนด้า"
สำหรับกิจกรรมค่ายเยาวชนไทย-ญี่ปุ่น "ฮอนด้า ซูเปอร์ ไอเดีย คิดส์ นี้จัดขึ้นที่อาณาจักรฮอนด้า
ทวินริง โมเตกิ ณ เมืองโมเตกิ ในมณฑลโตชิกิ บนเทือกเขาฮักโกะ มีพื้นที่รวมจำนวน 640 เฮกเตอร์ โดยพื้นที่ร้อยละ 35 เป็นสนามแข่งรถ 2 สนาม ได้แก่ Super Speedway สนามแข่งวงรีสไตล์อเมริกัน และ Road Course แบบยุโรป ซึ่งถูกใช้เป็นสนามแข่งขันรถยนต์ระดับโลกอย่าง Moto GP ซึ่งน้อง ๆ ตัวแทนประเทศไทยและญี่ปุ่นทั้ง 12 คน ก็ได้ร่วมสัมผัสประสบการณ์ความเร็วบนสนามทดสอบกับรถมอเตอร์ไซค์ฮอนด้ารุ่นจิ๋ว โดยมีครูฝึกขับขี่ปลอดภัยชาวญี่ปุ่นคอยให้คำแนะนำอย่างใกล้ชิด ทั้งนี้ อาณาจักรฮอนด้าถูกสร้างสรรค์ขึ้นให้อยู่อย่างกลมกลืนกับธรรมชาติบนเทือกเขาและป่าโปร่ง โดยฮอนด้ามีแนวความคิดการอยู่ร่วมกับธรรมชาติ ไม่ว่าการกระทำใด ๆ ก็ตามในพื้นที่แห่งนี้จะต้องไม่ทำให้เกิดผลกระทบกับสภาพแวดล้อมโดยรอบ
อีกหนึ่งไฮไลท์ของกิจกรรมที่เด็ก ๆ ทุกคนรอคอย คือการได้กระทบไหล่กับ "อาซิโม"ASIMO (Advanced Step in Innovative Mobility) หุ่นยนต์คล้ายมนุษย์ที่สุดในโลกของบริษัทฮอนด้าประเทศญี่ปุ่น ที่ถูกสร้างขึ้นในปี 2543 และได้ถูกพัฒนาขีดความสามารถด้านต่างๆ ขึ้นอย่างต่อเนื่อง จนทำให้อาซิโมรุ่นปัจจุบัน มีขนาดที่เล็กลงและมีน้ำหนักเบาขึ้นกว่าเดิม สามารถเดินและวิ่งได้อย่างอิสระเสรี วิ่งซิกแซก มีเซนเซอร์ตรวจจับและหลบหลีกสิ่งกีดขวางได้ ขึ้นบันได หรือเต้นรำได้ รับรู้ลักษณะกิริยาท่าทางของมนุษย์ สามารถจดจำใบหน้าและเรียกชื่อของคนได้มากกว่า 200 คน และความสามารถอื่น ๆ อีกมากมาย
เด็กๆ ยังได้มีโอกาสท่องโลกแห่งเทคโนโลยีประดิษฐกรรมยานยนต์ของฮอนด้าในพิพิธภัณฑ์
ประวัติศาสตร์ที่เก็บรวบรวมยนตรกรรมของฮอนด้าทุกชิ้นกว่า 60 ปีใน "ฮอนด้า คอลเลคชั่น ฮอลล์" ที่ภายในมีการจัดแสดงผลิตภัณฑ์ของฮอนด้ากว่า 300 คัน ตั้งแต่ยุคแรก ๆ ในประวัติศาสตร์ของฮอนด้า ไปจนถึงยนตรกรรมเพื่อสิ่งแวดล้อม ทั้งรถยนต์ไฮบริด รถยนต์พลังงานไฟฟ้า รถ Fuel Cell (FCX) รวมไปถึงรถจักรยานติดเครื่องยนต์ รถแข่งต่าง ๆ มากมาย
นอกจากนี้ ยังได้ร่วมกิจกรรมเรียนรู้กับธรรมชาติในบริเวณ ป่าเฮลโล วูดส์ ซึ่งเป็นป่าต้นสนและโอ๊คภายในอาณาจักรฮอนด้า ที่ได้รับการฟื้นฟู อนุรักษ์จากเจ้าหน้าที่อนุรักษ์ป่าของฮอนด้า โดยมุ่งหวังให้เป็นผืนป่าเพื่อการอยู่อาศัยอย่างพึ่งพาของคนในชุมชน สัตว์ป่าและพรรณพืชอย่างกลมกลืน จัดให้มีการสร้างบ้านนกโดยทีมวิศวกรฮอนด้า ร่วมออกแบบบ้านนกให้เหมาะกับขนาดและประเภทของนกแต่ละชนิดและการออกแบบรถเตาอเนกประสงค์ "The Stove Wagon" รถเข็นที่พัฒนาโดยทีมวิศวกรโครงการพัฒนาเฮลโลวูดส์และสร้างขึ้นจากเศษวัสดุและไม้จากต้นไม้ในป่าเฮลโล วูดส์ โดยสามารถใช้เป็นเตาผิง ก่อไฟ และสร้างกระแสไฟฟ้าได้ โดยไม่กระทบต่อสิ่งแวดล้อม และเด็ก ๆ ทุกคนได้เข้าร่วมกิจกรรมในห้องฝึกปฏิบัติทางหัตถกรรมที่ใช้วัสดุที่ได้จากป่าเฮลโล วูดส์ เพื่อปลูกจิตสำนึกของเยาวชนให้ตระหนักถึงคุณค่าของป่าและเข้าใจในการดำรงชีวิตอย่างกลมกลืนระหว่างมนุษย์ สิ่งมีชีวิตและธรรมชาติในโลกแห่งเทคโนโลยีล้ำหน้า และปิดท้ายทริปด้วยการสัมผัสประสบการณ์ความสนุกกันที่สวนสนุกโตเกียว ดิสนีย์แลนด์
เกี่ยวกับโครงการ ฮอนด้า ซูเปอร์ไอเดีย คอนเทสต์
โครงการ "ฮอนด้า ซูเปอร์ไอเดีย คอนเทสต์" จัดขึ้นเป็นครั้งแรกในประเทศไทยเมื่อปี 2548 มีต้นกำเนิดจากโครงการ ฮอนด้า คิดส์ไอเดีย คอนเทสต์ ของบริษัท ฮอนด้า มอเตอร์ ประเทศญี่ปุ่น
เพื่อปลูกฝังให้เยาวชนรู้จักใช้ความคิดสร้างสรรค์และจินตนาการ รักความท้าทาย กล้าที่จะทำความฝันให้เป็นจริง โดยเปิดรับไอเดียสิ่งประดิษฐ์แห่งอนาคตที่สนุก สร้างสรรค์ และมีประโยชน์ต่อสังคมของเยาวชนระดับประถมศึกษาจากทั่วประเทศ ชิงโล่พระราชทานสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี และรางวัลทัศนศึกษาประเทศญี่ปุ่น ปัจจุบันฮอนด้าได้ดำเนินโครงการฯ อย่างต่อเนื่องเป็นปีที่ 11