กทม.จะปรับปรุงภูมิทัศน์บริเวณรอบพระบรมราชานุสาวรีย์สมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช

ข่าวทั่วไป Wednesday April 25, 2001 09:04 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--25 เม.ย.--กทม.
ที่ศาลาว่าการกรุงเทพมหานคร เมื่อวานนี้ (24 เม.ย.44) เวลา 11.45 น. นายสมัคร สุนทรเวช ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร เปิดเผยภายหลังการประชุมคณะผู้บริหารกรุงเทพมหานครว่า กทม.จะปรับปรุงภูมิทัศน์บริเวณโดยรอบพระบรมราชานุสาวรีย์สมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช (วงเวียนใหญ่)โดยทำเป็นอุโมงค์ทางลอดใต้ถนนความยาวประมาณ 18 เมตร กว้าง 4 เมตร ช่วงบริเวณทางเท้าด้านใกล้ถนนอินทรพิทักษ์ รวมทั้งจะปรับปรุงภายในบริเวณพระบรมราชานุสาวรีย์ฯเพื่อให้มีความสวยงามด้วยการปลูกต้นไม้เพิ่มเติมให้มีระดับแตกต่างกัน กล่าวคือ บริเวณด้านหน้าของพระบรมราชานุสาวรีย์ฯ ด้านถนนลาดหญ้าจะเป็นต้นไม้เตี้ย ๆ ส่วนบริเวณด้านหลังอนุสาวรีย์ด้านถนนอินทรพิทักษ์ต้นไม้จะมีระดับสูง อย่างไรก็ดีได้มีการเสนอโครงการดังกล่าวในช่วงเวลาที่กทม.ประสบปัญหาสถานการณ์การเงิน ดังนั้นในชั้นแรก กทม.จึงจะดำเนินการปรับปรุงต้นไม้ก่อน ส่วนการดำเนินการด้านสาธารณูปโภค การก่อสร้างอุโมงค์ทางลอดและอื่นๆ ซึ่งใช้งบประมาณ 30 ล้านบาทจะดำเนินการภายหลัง
นายสมัคร กล่าวต่อว่า ในส่วนของการปรับปรุงภูมิทัศน์ฯนั้น กรุงเทพมหานครจะได้แจ้งกรมศิลปากรซึ่งดูแลในเรื่องนี้ รวมทั้งแจ้งให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องกวดขันเรื่องป้ายโฆษณาที่ติดตั้งตามอาคารที่อยู่โดยรอบพระบรมราชานุสาวรีย์ฯ นอกจากนี้ทางเจ้าหน้าที่ได้แจ้งว่า พระบรมราชานุสาวรีย์สมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช ทางกรมศิลปากรยังไม่ได้ขึ้นทะเบียนเป็นโบราณสถาน ประกอบกับมีผู้กล่าวว่าการขึ้นทะเบียนเป็นโบราณสถานจะต้องก่อสร้างมาแล้ว 50 ปี อย่างไรก็ดีกทม.จะได้สอบถามถึงเหตุผลที่ยังไม่ได้ขึ้นทะเบียนเป็นโบราณสถานด้วย
ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร กล่าวอีกว่า ในปีงบประมาณ 2544 นี้ กรุงเทพมหานครจะต้องได้รับเงินภาษีมูลค่าเพิ่ม (VAT) คืนจากรัฐบาล จำนวน 8,200 ล้านบาท โดยกระบวนการจ่ายคืน รัฐบาลได้แบ่งเป็น 2 รอบ ๆ แรก จำนวน 3,900 ล้านบาท รอบที่ 2 จ่ายคืนอีก 4,300 ล้านบาท ทั้งนี้เงินภาษีที่จะจ่ายคืนรอบแรกยังมีการแบ่งการจ่ายออกเป็นอีก 3 งวด ๆ ละ 1,300 ล้านบาท ด้วยกระบวนการดังกล่าว ทำให้กรุงเทพมหานครประสบปัญหาสถานการณ์ทางการเงิน เพราะการจ่ายเงินยังต้องจ่ายตามปกติ แต่รายรับที่จะได้รับเข้ามานั้นมีกระบวนการหลายขั้นตอน จึงจำเป็นต้องใช้เงินอย่างระมัดระวัง และมีผลกระทบต่อโครงการพัฒนาและการเบิกจ่ายเงินเดือนข้าราชการ ตนจึงเตรียมจะนำเรื่องนี้เข้าหารือกับนายกรัฐมนตรี ภายในสัปดาห์นี้--จบ--
-นห-

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ