โรงพยาบาลตำรวจผ่าตัดนิ่วในถุงน้ำดีแบบไร้แผล แห่งแรกในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้

ข่าวทั่วไป Tuesday July 5, 2016 09:47 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--5 ก.ค.--โรงพยาบาลตำรวจ ทีมศัลแพทย์โรงพยาบาลตำรวจผ่าตัดนิ่วในถุงน้ำดีแบบไร้แผลสำเร็จเป็นแห่งแรกในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ มุ่งสู่การเป็นศูนย์ผ่าตัดผ่านกล้องแบบไร้แผลชั้นนำแห่งเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ในอนาคต ทีมศัลยแพทย์ผ่าตัดส่องกล้องของโรงพยาบาลตำรวจ นำโดย พ.ต.ต.นพ.อังกูร อนุวงศ์, พ.ต.ท.นพ. อัครพร ดีประเสริฐวิทย์, พ.ต.ท.นพ.สรวิชญ์ วิจิตรพรกุล และ นพ.พรพีระ จิตต์ประทุม จากหน่วยผ่าตัดผ่านกล้องศัลยกรรม กลุ่มงานศัลยกรรม โรงพยาบาลตำรวจ ประสบความสำเร็จและสร้างชื่อเสียงให้กับประเทศไทยอีกครั้ง ในการผ่าตัดนิ่วในถุงน้ำดีผ่านกล้องแบบไร้แผล (Transvaginal Hybrid Cholecystectomy)เป็นแห่งแรกของเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ โดยใช้วิธีนี้ในการผ่าตัดผู้ป่วยตั้งแต่เดือนมีนาคม 2559 จนถึงปัจจุบัน รวม 15 ราย ทุกรายประสบความสำเร็จในการผ่าตัดด้วยดีโดยไม่พบภาวะแทรกซ้อนใดๆ ความสำเร็จนี้ได้สร้างชื่อเสียงในระดับนานาชาติให้แก่โรงพยาบาลตำรวจและประเทศไทย ซึ่งสอดคล้องกับวิสัยทัศน์ของโรงพยาบาลตำรวจ ในการมุ่งสู่การเป็นศูนย์ผ่าตัดผ่านกล้องแบบไร้แผลชั้นนำ (Minimally Invasive and NOTES Surgery Excellent Center)แห่งภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ในอนาคต พ.ต.ต.นพ.อังกูร อนุวงศ์ จากหน่วยผ่าตัดผ่านกล้องศัลยกรรม กลุ่มงานศัลยกรรม โรงพยาบาลตำรวจ กล่าวว่า "โรงพยาบาลตำรวจ เป็นโรงพยาบาลแห่งแรกในประเทศไทยและภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ที่ประสบความสำเร็จในการผ่าตัดถุงน้ำดีผ่านกล้องทางช่องคลอดแบบไร้แผล ซึ่งนับเป็นความสำเร็จอีกขั้นของวงการศัลยแพทย์ไทย ซึ่งช่วยให้ผู้ป่วยมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นมาก เพราะผู้ป่วยแทบไม่มีอาการเจ็บปวดหลังการผ่าตัดเลย ทั้งยังช่วยเพิ่มความมั่นใจในการใช้ชีวิต เนื่องจากไม่สร้างรอยแผลเป็นหลังผ่าตัด " โรคนิ่วในถุงน้ำดีพบได้บ่อยในผู้ใหญ่วัยกลางคน โดยเฉพาะเพศหญิงที่มีอายุ 40 ปีขึ้นไปและมีรูปร่างท้วม โดยพบประมาณ 20% ของประชากรทั้งหมด ซึ่งในอดีต หากโรคมีอาการรุนแรงจะต้องรักษาด้วยการผ่าตัดถุงน้ำดีแบบเปิด (Open cholecystectomy) โดยเปิดแผลใต้ชายโครงขวาประมาณ 15 ซม. ทำให้ผู้ป่วยเจ็บปวดมากและต้องนอนพักฟื้นที่โรงพยาบาลราว 1 อาทิตย์ และจะมีแผลเป็นที่ชายโครงขวาอย่างชัดเจน ต่อมามีการผ่าตัดแบบผ่านกล้อง (Laparoscopic Cholecystectomy) โดยใช้วิธีเจาะรูขนาดเล็กขนาด 0.5 – 1 ซม. จำนวน 3 – 4 รู ที่หน้าท้อง แล้วใช้กล้องส่องเข้าไปในช่องท้องพร้อมสอดเครื่องมือเพื่อตัดถุงน้ำดีออกมา แม้วิธีนี้จะเป็นที่นิยมมากขึ้นเรื่อยๆ เพราะคนไข้พักฟื้นที่โรงพยาบาลเพียง 2-3 วันก็สามารถกลับไปใช้ชีวิตปกติได้ แต่ก็ยังคงมีอาการเจ็บแผลผ่าตัดมากในวันแรกๆ ซึ่งต้องให้ยาระงับปวดแบบฉีด และหลังจากนั้นจะยังคงมีแผลเป็นบนหน้าท้องค่อนข้างชัดเจน เมื่อประมาณ 10 ปีที่ผ่านมา ศัลยแพทย์ประเทศเยอรมนีได้คิดค้นเทคนิคการผ่าตัดถุงน้ำดีแบบไร้แผลผ่านช่องธรรมชาติ (Natural orifice translumenal endoscopic surgery : NOTES) ซึ่งเราเรียกการผ่าตัดแบบนี้ว่า การผ่าตัดถุงน้ำดีผ่านทางช่องคลอด (Transvaginal cholecystectomy) และได้มีการพัฒนาเครื่องมือและเทคนิคมาอย่างต่อเนื่องจนเริ่มเป็นที่สนใจของวงการผ่าตัดในปัจจุบัน โดยเมื่อต้นปี 2559 ที่ผ่านมา ทีมศัลยแพทย์ของโรงพยาบาลตำรวจได้เข้าร่วมโครงการความร่วมมือและแลกเปลี่ยนความรู้เพื่อพัฒนาศักยภาพด้านการผ่าตัดผ่านกล้อง โดยเฉพาะการผ่าตัดถุงน้ำดีผ่านกล้องทางช่องคลอดแบบไร้แผล จากศัลยแพทย์ของประเทศเยอรมนีผู้ริเริ่มและประเทศสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ที่มีความเชี่ยวชาญด้านการผ่าตัดแบบนี้มากที่สุดในโลก โดย พ.ต.ต.นพ.อังกูร อนุวงศ์ เคยได้รับการแต่งตั้งให้เป็นศาสตราจารย์ศาสตราจารย์รับเชิญ (Visiting Professor) จากมหาวิทยาลัยเยล ประเทศสหรัฐอเมริกา (Yale University School of Medicine) เพื่อสอนบรรยายและผ่าตัดไทรอยด์ผ่านกล้องแบบไร้แผล (Transoral Endoscopic Thyroidectomy) ในฐานะผู้บุกเบิกและทำการผ่าตัดด้วยวิธีนี้มากที่สุดในโลกให้แก่ศัลยแพทย์ที่มหาวิทยาลัยเยล โดย พ.ต.ต.นพ.อังกูร ได้เรียนรู้และสังเกตุการณ์การผ่าตัดถุงน้ำดีผ่านทางช่องคลอดในมหาวิทยาลัยเยล ถือเป็นสถานพยาบาลที่ทำการผ่าตัดวิธีนี้มากที่สุดในสหรัฐอเมริกา สำหรับการผ่าตัดนิ่วในถุงน้ำดีผ่านกล้องแบบไร้แผลที่โรงพยาบาลตำรวจ ดำเนินการโดยทีมศัลยแพทย์ทั้ง 4 ท่าน ได้แก่ พ.ต.ต.นพ.อังกูร อนุวงศ์,พ.ต.ท.นพ.สรวิชญ์ วิจิตรพรกุล และ นพ.พรพีระ จิตต์ประทุม ซึ่งจบการศึกษาต่อยอดด้านการผ่าตัดส่องกล้อง (Minimally Invasive Surgery) มีความเชี่ยวชาญด้านการผ่าตัดส่องกล้องโดยตรง และ พ.ต.ท.นพ. อัครพร ดีประเสริฐวิทย์ ซึ่งสำเร็จการศึกษาด้านตับ ตับอ่อน ทางเดินน้ำดี (Hepato-Pancreato-Biliary Surgery) โดยทำการผ่าตัดร่วมกัน ซึ่งทีมศัลยแพทย์จะปรึกษากับสูติแพทย์ในการวางแผนทั้งก่อนและระหว่างการผ่าตัดอย่างรัดกุม เพื่อความปลอดภัยและผลลัพธ์ที่ดีที่สุดสำหรับผู้ป่วย ขั้นตอนการผ่าตัด ผู้ป่วยจะได้รับการดมยาสลบพร้อมใส่ท่อช่วยหายใจ จากนั้นทีมศัลยแพทย์จะเจาะรูขนาด 5 มิลลิเมตรที่สะดือเพื่อใส่ก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์เข้าไปในท้อง จากนั้นจะสอดกล้องขนาดเส้นผ่าศูนย์กลาง 1 ซม. และเครื่องมือขนาดเล็กผ่านทางช่องคลอดเข้าสู่บริเวณช่องท้อง เพื่อทำการตัดเลาะถุงน้ำดีและดึงออกทางช่องคลอด และเย็บแผลภายในช่องคลอดที่มีขนาดเพียง 1 ซม. ด้วยไหมละลาย ซึ่งทั้งหมดใช้เวลาเพียง 30 นาที – 1 ชั่วโมง โดยผู้ป่วยแทบจะไม่เสียเลือดเลย หลังผ่าตัดผู้ป่วยพักฟื้นที่โรงพยาบาลเพียง 1 คืนและสามารถกลับบ้านได้ในเช้าวันรุ่งขึ้น ข้อดีของการผ่าตัดถุงน้ำดีผ่านช่องคลอดแบบไร้แผล ผู้ป่วยมีอาการเจ็บปวดน้อยมากเมื่อเปรียบเทียบกับการผ่าตัดด้วยวิธีอื่น เนื่องจากช่องที่เจาะเข้าไปในช่องท้องคือช่องที่อยู่ใต้ปากมดลูก ซึ่งบริเวณนั้นไม่มีเส้นประสาทรับความรู้สึก ส่วนแผลในช่องสะดือมีขนาดแค่ 5 มิลลิเมตรเท่านั้น คนไข้ผู้ป่วยจึงแทบไม่มีความรู้สึกเจ็บเลย หลังการผ่าตัดผู้ป่วยยังฟื้นตัวได้เร็วมากและสามารถกลับไปใช้ชีวิตได้ตามปกติ ราวกับไม่เคยผ่านการผ่าตัดมาก่อน "การผ่าตัดถุงน้ำดีผ่านกล้องทางช่องคลอดแบบไร้แผลนี้ถือเป็นอีกหนึ่งความสำเร็จของโรงพยาบาลตำรวจ ต่อจากการผ่าตัดไทรอยด์ไร้แผลผ่านทางช่องปาก (Transoral Endoscopic Thyroidectomy) ที่โรงพยาบาลตำรวจได้ริเริ่มขึ้นเป็นแห่งแรกเมื่อสองปีก่อน ก่อให้เกิดปรากฏการณ์ใหม่ของการผ่าตัดแบบไร้แผลในประเทศไทย และสร้างชื่อเสียงในระดับนานาชาติให้แก่ประเทศ โดยโรงพยาบาลตำรวจได้วางวิสัยทัศน์สู่การเป็นศูนย์ผ่าตัดผ่านกล้องแบบไร้แผลของเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ในอนาคตอันใกล้นี้" นพ.อังกูรกล่าว สนใจสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมและติดต่อขอรับการตรวจได้ที่ ห้องตรวจโรคศัลยกรรม ตึกอำนวยการชั้น 3 โรงพยาบาลตำรวจ โทร 02-207-6000

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ