กรุงเทพฯ--11 ก.ค.--กทม.
เมื่อวานนี้ (10 ก.ค.44) เวลา 10.00 น. ที่ศูนย์บัญชาการกรุงเทพมหานคร ศาลาว่าการกทม. (เสาชิงช้า) ร.ต.ต.เกรียงศักดิ์ โลหะชาละ ปลัดกรุงเทพมหานคร เป็นประธานการประชุมเพื่อหาแนวทางการแก้ไขปัญหาโครงการฝังกลบขยะที่ ต.ราชาเทวะ จ.สมุทรปราการ โดยมีผู้มีส่วนเกี่ยวข้องร่วมประชุม ประกอบด้วย รองผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรปราการ นายอำเภอบางพลี ผู้แทนอบต.ราชาเทวะ ผู้แทนสาธารณสุขจังหวัดสมุทรปราการ นายสุวิทย์ โตปาน ผู้แทนสมาชิกวุฒิสภา ผู้แทนจากกรมควบคุมมลพิษ ผู้แทนประชาชน และข้าราชการสังกัดกรุงเทพมหานคร
รองผู้ว่าราชการจ.สมุทรปราการ กล่าวว่า สืบเนื่องจาก จ.สมุทรปราการมีปัญหาในการกำจัดขยะและวิธีการที่ไม่ถูกสุขลักษณะ ประกอบทางกทม.ต้องการให้บ่อขยะที่ ต.ราชาเทวะ จ.สมุทรปราการ เป็นตัวอย่างนำร่องในการจัดการที่ได้มาตรฐานและถูกสุขลักษณะเพื่อขยายผลไปยังบ่อขยะอื่นๆ โดยการนำเทคโนโลยีและประสบการณ์ที่มีมาจัดการกับปัญหาขยะใน จ.สมุทรปราการ จึงเห็นชอบให้กทม. นำขยะจากสถานีขนถ่ายอ่อนนุชซึ่งเป็นขยะเก่าไปฝังกลบ แต่ปัจจุบันขยะที่นำมาทิ้งเป็นขยะสดซึ่งยังไม่ได้มีการคัดแยกประเภท ก่อให้เกิดกลิ่นเหม็นและปัญหามลภาวะตามมา ทำให้ประชาชนในพื้นที่ได้รับความเดือดร้อนเป็นอย่างมาก นอกจากนี้วิธีการดำเนินการของบริษัทผู้รับเหมาไม่เป็นไปตามที่กำหนด จึงควรให้มีการเข้มงวดกับบริษัทผู้รับเหมา และที่สำคัญควรมีการคัดแยกขยะก่อนนำไปทิ้งให้เรียบร้อย
ปลัดกรุงเทพมหานคร กล่าวว่า กทม.ได้เชิญผู้ที่เกี่ยวข้องกับโครงการฝังกลบขยะที่ ตำบลราชาเทวะ มาร่วมรับฟังปัญหาที่เกิดขึ้นเกี่ยวกับกรณีปัญหามาตรฐานในการดำเนินการฝังกลบขยะเพื่อป้องกันมลภาวะที่เกิดจากน้ำเสีย และกลิ่นเหม็นจากกองขยะ ซึ่งปัจจุบันส่งผลกระทบต่อประชาชนที่พักอาศัยอยู่รอบบริเวณดังกล่าวขั้นรุนแรง
สำหรับสัญญาการดำเนินงานฝังกลบขยะที่ ต.ราชาเทวะนั้น ได้ลงนามในวันที่ 7 ก.ค.43 เพื่อเป็นการแก้ไขปัญหาระบบการกำจัดขยะของกรุงเทพมหานคร ที่ปัจจุบันสถานีขยะอ่อนนุชไม่สามารถรองรับกับปริมาณขยะของกทม.ที่เพิ่มสูงถึง 3,000-3,500 ตัน/วัน ได้ จึงได้มีการขนถ่ายขยะจากสถานีอ่อนนุช ไปยังบ่อขยะแห่งใหม่ที่ ต.ราชาเทวะ จ.สมุทรปราการ ซึ่งมีพื้นที่ 255 ไร่ และผู้รับเหมาต้องปฏิบัติตามข้อตกลงที่ระบุไว้ในสัญญา โดยยึดเกณฑ์ทางวิชาการของกรมควบคุมมลพิษในเรื่องของมาตรฐานในการฝังกลบขยะที่ถูกสุขลักษณะ ทั้งนี้ทางกทม.จะดำเนินการกับห้างหุ้นส่วนจำกัด ไพโรจน์สมพงษ์พาณิชย์กรณีหากพบว่าทำผิดข้อสัญญา ก่อให้เกิดผลกระทบต่อประชาชน และในวันจันทร์ที่ 16 ก.ค.นี้ จะพาคณะผู้เกี่ยวข้องและผู้ได้รับผลกระทบไปดูสถานที่และการทำงานเพื่อเข้าไปแก้ไขปัญหา โดยจะมีสถาบันกลางด้านสิ่งแวดล้อมไปตรวจสอบลักษณะบ่อขยะและสภาพแวดล้อม โดยรอบ จากนั้นจะจัดทำการรายงานผลการทำงานทุก 15 วัน ในส่วนของวิธีการขนถ่ายขยะนั้นมอบหมายให้ทางสำนักรักษาความสะอาดหารือกับกรมควบคุมมลพิษถึงวิธีการที่ถูกสุขลักษณะ
ปลัดกทม. กล่าวด้วยว่า กทม.จะเสนอรัฐบาลผ่านทางกระทรวงวิทยาศาสตร์เทคโนโลยีและสิ่งแวดล้อมในการของบประมาณสร้างโรงเผาขยะ ซึ่งจะสามารถกำจัดขยะได้ถึง 2,000 ตัน/วัน และกทม.ต้องใช้ถึง 5 เตาจึงจะสามารถกำจัดขยะเมืองให้หมดได้ แต่เนื่องจากมีราคาสูงถึงเตาละ 7,000 ล้านบาท ดังนั้นภาครัฐจึงต้องเข้ามาร่วมดำเนินการแก้ไขปัญหาอย่างจริงจัง เพราะหากยังใช้วิธีการฝังกลบขยะเช่นเดิม ก็จะยังคงสร้างปัญหาให้กับประชาชนเจ้าของสถานที่ต่อไป--จบ--
-นห-