ปตท.เตรียมแผนร่วมทุนปิโตรเคมีขั้นกลางขยายมูลค่าเพิ่ม

ข่าวทั่วไป Wednesday September 20, 2000 15:34 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--20 ก.ย.--ปตท.
การปิโตรเลียมแห่งประเทศไทย (ปตท.) วางแผนลงทุน ปิโตรเคมีขั้นกลาง 2 โครงการ เพื่อรองรับความต้องการธุรกิจปิโตรเคมีช่วงขาขึ้นในปี 2547 โดยเจรจา ร่วมทุนกับญี่ปุ่นและเยอรมนี คาดผลิตป้อนในประเทศเป็นหลัก
นายปิติ ยิ้มประเสริฐ ผู้อำนวยการกลุ่มธุรกิจปิโตรเคมีของ ปตท. กล่าวว่า 2 โครงการ ดังกล่าว คือ อคริโลไนไตร (Acrylonitrile) และฟีนอล (Phenol) ซึ่งเป็นสายผลิตภัณฑ์ที่ต่อเนื่องจากโพรไพลีน เป็นผลิตภัณฑ์ที่ยังไม่เคยมีการผลิตในประเทศและในอาเซียน โดยวางแผนที่จะก่อสร้างเสร็จในปี 2547 ซึ่งอยู่ในช่วงราคาสูงสุดของปิโตรเคมี
สำหรับอคริโลไนไตร เป็นวัตถุดิบในการผลิตเส้นใยโพลีเอสเตอร์ในอุตสาหกรรมสิ่งทอ ซึ่งมีอัตราเติบโตปีละกว่าร้อยละ 10 ส่วน ปตท.จะลงทุนกับอาซาฮีแห่งญี่ปุ่น โดยได้มีการลงนามในบันทึก ข้อตกลงร่วมกันแล้ว และกำลังศึกษาความเป็นไปได้ของโครงการ เริ่มตั้งแต่วันที่ 1 กันยายนที่ผ่านมา โดยใช้เวลาศึกษา 6 เดือน และการที่อาซาฮีตัดสินใจที่จะใช้ไทยเป็นฐานการผลิตอคริโลไนไตร เพราะเห็นว่าไทยมีศักยภาพมากกว่าประเทศอื่น โดยคาดว่าจะใช้เงินลงทุนประมาณ 200 ล้านเหรียญสหรัฐ มีกำลังผลิตประมาณ 250,000 ตันต่อปี ปัจจุบันความต้องการใช้ในประเทศประมาณ 150,000 ตันต่อปี จะต้องส่งออก เกือบร้อยละ 50
ส่วนฟีนอลเป็นวัตถุดิบของโพลีคาร์บอร์เนต ซึ่งใช้ในอุตสาหกรรมรถยนต์ที่มีอัตราเติบโต สูงมาก ปตท. กำลังเจรจาอยู่กับ บริษัทฟีนอลเคมี ของเยอรมนี ซึ่งเป็นผู้ผลิตฟีอนอลอันดับ 1 ของโลก และโครงการนี้จะมีการผลิตคิวมีน (Cumene) ซึ่งเป็นวัตถุดิบของฟีนอลด้วย เพื่อทำให้ครบวงจรและลดต้นทุนวัตถุดิบที่ต้องนำเข้าคิวมีนจากต่างประเทศ โดยคาดว่าจะใช้เงินลงทุนประมาณ 250 ล้านเหรียญ กำลังการผลิตประมาณ 400,000 ตันต่อปี ซึ่งความต้องการในปัจจุบันอยู่ที่ประมาณ 120,000 ตันต่อปี ภายในอีก 5 ปี นับจากนี้ ความต้องการในประเทศจะเพิ่มขึ้นเป็น 400,000 ตันต่อปี เพราะไบเออร์และมิตซูบิชิ จะเปิดโรงงาน โพลีคาร์บอร์เนตซึ่งใช้ฟีนอลเป็นวัตถุดิบ กำลังการผลิตประมาณ 300,000—400,000 ตันต่อปี
“ทั้งสองโครงการนี้มีวัตถุดิบตั้งต้นคือโพรไพลีนซึ่งผลิตในประเทศไม่เพียงพอต่อความต้องการ ใช้ หากขึ้นสองโครงการนี้ ปตท.จึงมีแผนที่จะสร้างโรงแยกก๊าซธรรมชาติหน่วยที่ 5 ที่จังหวัดระยอง เพื่อแยกก๊าซโพรเพน ออกมาผลิต ประมาณปีละ 350,000-400,000 ตันต่อปี คาดว่าโรงแยกจะสร้างแล้วเสร็จ ในปลายปี 2546 หรือต้นปี 2547 ใช้เงินลงทุนประมาณ 10,000 ล้านบาท มีกำลังการผลิตประมาณ 530 ล้านลูกบาศก์ฟุตต่อวัน” นายปิติ กล่าว--จบ--
-สส-

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ