กรุงเทพฯ--20 ก.ค.--สำนักวิจัย ซูเปอร์โพล
ดร.นพดล กรรณิกา ประธานชมรมขับเคลื่อนวิชาการเพื่อวิจัยความสุขชุมชน สำนักวิจัย ซูเปอร์โพล (SUPER POLL) เปิดเผยผลสำรวจ ความเชื่อมั่นวางใจของสาธารณชนต่อ การแก้ปัญหาบ้านเมืองโดยรัฐบาลและ คสช. กรณีศึกษาตัวอย่างประชาชนผู้มีสิทธิเลือกตั้งใน 15 จังหวัด ได้แก่ กรุงเทพมหานคร เชียงราย เชียงใหม่ พิษณุโลก นครราชสีมา มุกดาหาร ขอนแก่น อุดรธานี ปทุมธานี ลพบุรี นครปฐม ชลบุรี นครศรีธรรมราช สงขลา และนราธิวาส จำนวนทั้งสิ้น 5,459 ตัวอย่าง ดำเนินโครงการระหว่างวันที่ 15 มิถุนายน – 8 กรกฎาคม 2559 ที่ผ่านมา
เมื่อถามว่า ประโยชน์ที่ ประเทศชาติและประชาชนได้รับจากการทำงานของรัฐบาล และ คสช. มีอะไรบ้าง พบว่า ประชาชนส่วนใหญ่หรือร้อยละ 73.9 ระบุ ความสงบสุขของบ้านเมือง คืนชีวิตที่ปกติสุขให้ประชาชน รองลงมาคือ ร้อยละ 64.6 ระบุ สกัด นักกาเมืองไม่ให้กอบโกย ผลประโยชน์ชาติและเงินภาษีของประชาชนอีกต่อไป ร้อยละ 62.3 ระบุ ปกป้องผลประโยชน์ชาติได้จากการแก้ปัญหาค้ามนุษย์และการค้าสัตว์ป่า ร้อยละ 61.8 ระบุ ทวงคืนผืนป่า อนุรักษ์ธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ร้อยละ 59.8 ระบุ เป็นที่ยอมรับของ นานาประเทศ เช่น จีน อินเดีย รัสเซีย ญี่ปุ่น และอเมริกา เป็นต้น ในขณะที่ ร้อยละ 48.7 ระบุแก้ปัญหาทุจริต คอรัปชั่น ได้ และร้อยละ 23.2 ระบุอื่นๆ เช่น แก้ปัญหายาเสพติด และอาชญากรรม การแก้ปัญหาว่างงาน และส่งเสริมอาชีพ ส่งเสริมธุรกิจ SME เป็นต้น
ดร.นพดล กรรณิกา ผู้อำนวยการสำนักวิจัย ซูเปอร์โพล กล่าวต่อว่า เมื่อถามถึง ความเชื่อมั่นวางใจของสาธารณชนต่อ รัฐบาล และ คสช. เปรียบเทียบกับ นักการเมือง พบว่า ส่วนใหญ่หรือร้อยละ 82.4 เชื่อมั่นวางใจ รัฐบาล และ คสช. มากกว่า ในขณะที่ ร้อยละ 17.6 เชื่อมั่น นักการเมือง มากกว่า โดยส่วนใหญ่ให้เหตุผลว่า รัฐบาล และ คสช. ไม่มีผลประโยชน์ทางการเมือง ไม่ใช่นักการเมือง ทำงานโดยไม่ต้องคำนึงฐานเสียงของพรรคการเมือง ทำเพื่อประโยชน์สุขของประชาชนทั้งประเทศ ในขณะที่ นักการเมืองเข้ามามีแต่การแก่งแย่ง ห่ำหั่นกัน ช่วงชิงผลประโยชน์ เลือกปฏิบัติเฉพาะภูมิภาค (ภาคนิยม) เฉพาะจังหวัด และพื้นที่ฐานเสียงของพรรคตัวเอง มุ่งแต่ปกป้องผลประโยชน์ เครือข่ายธุรกิจของตัวเองและญาติพี่น้อง แต่รัฐบาล และ คสช. เข้ามาทำงานหนักเพื่อปกป้องรักษาผลประโยชน์ชาติและของประชาชนโดยรวมทั้งประเทศโดยไม่แบ่งแยก