กรุงเทพฯ--18 ธ.ค.--กรมศิลปากร
อธิบดีกรมศิลปากรเชิญชวนคนไทยส่งบัตรอวยพรถึงกันในวาระต่าง ๆ ทั้งอวยพรปีใหม่ อวยพรวันเกิด เรียกร้องสื่อมวลชนช่วยรณรงค์คนไทยหันมาอวยพรกันและกันในวันวิสาขบูชา จะเป็นบัตรอวยพรทำ ประดิษฐ์ประดอยด้วยวัสดุต่าง ๆ หรือ ทำขึ้นในเครื่องคอมพิวเตอร์ส่งผ่านระบบออนไลน์ก็ได้ ขอเพียงรังสรรค์ขึ้นมาด้วยความรัก ปรารถนาดีต่อกัน พร้อมเชิญชวนชมนิทรรศการบัตรอวยพรย้อนยุค ตั้งแต่สมัยรัชกาลที่ ๕ ตั้งแต่วันนี้ถึงวันที่ ๕ มกราคม ๒๕๔๔ และวันเวลาราชการ ณ ห้องสมเด็จฯกรมพระยาดำรงราชานุภาพ หอจดหมายเหตุแห่งชาติ ท่าวาสุกรี นาวาอากาศเอกอาวุธ เงินชูกลิ่น อธิบดีกรมศิลปากร เป็นประธานในพิธีเปิดนิทรรศการบัตรอวยพรที่หอจดหมายเหตุแห่งชาติ จัดขึ้น ร่วมฉลอง ๕๐ ปีการสถาปนาหอจดหมายเหตุแห่งชาติ ซึ่งตรงกับวันที่ ๑๘ สิงหาคม ๒๕๔๓ นำกิจกรรมที่หอจดหมายเหตุดำเนินการอยู่มาจัดแสดงให้ประชาชนได้รับทราบ อธิบดีกรมศิลปากร กล่าวว่า การจัดนิทรรศการเปิดกรุบัตรอวยพร เพื่อต้องการให้รู้ว่า งานจดหมายเหตุมีความรับผิดชอบหลายอย่าง ทั้งการดูแลรักษาเอกสารสำคัญและจดหมายเหตุซึ่งเป็นมรดกทรัพย์สินทางวัฒนธรรมของชาติทั้งในด้านวิชาการและความบันเทิงในรูปแบบต่าง ๆ โดยทำทุกอย่างแม้แต่เรื่องเล็กน้อยเช่น การเก็บรักษาบัตรอวยพร สามารถสะท้อนวิวัฒนาการของการส่งบัตรอวยพร หลายคนไม่เคยเห็นบัตรอวยพรในวันวิสาขบูชาซึ่งได้ส่งให้กันในสมัยรัชกาลที่ ๖ แต่ปัจจุบันนี้น่าเสียดายที่คนไทยหันมาส่งบัตรอวยพรให้กันในวันวาเลนไทน์ซึ่งเป็นเทศกาลของฝรั่ง “บัตรอวยพรแสดงถึงระบบของสังคม ความนิยมในสมัยนั้น ๆ บัตรอวยพรตั้งแต่สมัยรัชกาลที่ ๕ มีทั้งบัตรที่เป็นรูปภาพ บัตรอวยพรคล้ายนามบัตร การเขียนด้วยตัวอักษรที่สวยงาม บางภาพเป็นรูปกุหลาบแกะลายนูน มีภาษาอังกฤษเขียนกำกับด้วย สะท้อนให้เห็นว่า ช่วงนั้นไทยเปิดประเทศแล้ว มีการใช้สิ่งของที่นำเข้าจากต่างประเทศ เจ้านาย พระบรมวงศานุวงศ์เดินทางไปศึกษาต่อในต่างประเทศ ได้ส่งบัตรอวยพรของต่างชาติเข้ามาด้วย ขณะที่เริ่มมีธนาคาร เริ่มใช้เช็ค ปรากฎบัตรอวยพรในรูปของเช็ค ให้ความสุขกันด้วยเช็ค เบิกความสุขได้ตลอด ๓๖๕ วัน เป็นการสะท้อนถึงคนเริ่มใช้เช็ค ซึ่งแต่ก่อนไม่มี ” นาวาอากาศเอก อาวุธ กล่าว อธิบดีกรมศิลปากร เรียกร้องสื่อมวลชนช่วยรณรงค์ให้คนไทยเห็นความสำคัญของการส่งบัตรอวยพรให้กันในวาระต่าง ๆ ทั้งการอวยพรปีใหม่ อวยพรวันเกิด อวยพรวันวิสาขบูชา วันสำคัญต่าง ๆ ของไทย ที่เราละเลยกันไป การรณรงค์ส่งบัตรอวยพรให้กันในวันวิสาขบูชา เมื่อ ๓-๔ ปีที่แล้ว สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯสยามบรมราชกุมารี เคยรณรงค์ แต่ต่อมาก็เงียบไป สื่อมวลชนต้องหันมาช่วยกันกระจายข่าวให้คนเห็นความสำคัญการ จัดนิทรรศการครั้งนี้ ทำให้คนได้เห็นความสำคัญของสิ่งเล็กน้อย ทำให้เรามีความรู้สึกดีขึ้น เมื่อก่อนเขาให้ความปรารถนาดีต่อกันแบบนี้ เป็นเรื่องที่ดี ซึ่งหอจดหมายเหตุแห่งชาติเริ่มเก็บบัตรอวยพรได้ตั้งแต่สมัยรัชกาลที่ ๕ ปี พ.ศ.๒๔๒๘ ซึ่งงานจดหมายเหตุแสดงถึงวิถีชีวิตความเป็นอยู่ ระบบสังคม แสดงถึงหลายอย่าง ส่วนการอวยพรผ่านระบบออนไลน์อธิบดีกรมศิลปากร กล่าวว่า การอวยพรให้กันและกันเป็นสิ่งที่ดี แต่ปัจจุบันมักไม่คำนึงถึงวันสำคัญของชาติไทยมักนิยมทำในวันสำคัญของต่างชาติ การปลูกฝังต้องทำกันเพื่อให้มีสำนึกว่า ความเป็นไทย อย่าตามต่างชาติทั้งหมด การทำบัตรอวยพรเองมีความรู้สึกว่าเขาทำให้เรา ตั้งใจอวยพรให้เรา การทำบัตรอวยพรด้วยมือทุ่มเทความใส่ใจและความรักลงไปด้วย “จะใช้เครื่องคอมพิวเตอร์ทำก็ได้ ถามว่าตั้งใจทำหรือไม่ ถ้าตั้งใจทำให้เรา เราก็ปลื้มแล้ว เขาคิดถึงเรา แสดงอะไรหลายอย่างมิใช่แค่ได้รับบัตรอวยพรมาชิ้นหนึ่ง แล้วมาดู แต่เป็นเขาทำเพื่อเรา บัตรอวยพรออนไลน์มาทางเครื่องคอมพิวเตอร์หรือส่งทางไปรษณีย์ เป็นการแสดงถึงความระลึกถึงกันและกัน ถ้าสำคัญเราก็พิมพ์ออกมาเก็บไว้ ส่งบัตรอวยพรแบบออนไลน์ยังมีน้อย ไม่กระทบการเก็บรักษาบัตรอวยพรของหอจดหมายเหตุ” นาวาอากาศเอกอาวุธ กล่าว สำหรับบัตรอวยพรที่นำมาแสดงครั้งนี้เป็นภาพบัตรอวยพรในสมัยรัชกาลที่ ๕ รัชกาลที่ ๖ รัชกาลที่ ๗ และรัชกาลปัจจุบัน จำนวน ๕๐ ใบพร้อมอัลบั้มบัตรอวยพรชุดหอวชิรญาณ ซึ่งเป็นภาพถ่ายที่เก่าแก่ที่สุดของหอจดหมายเหตุแห่งชาติ จำนวน ๕ เล่ม มีทั้งภาพวาด นามบัตร ภาพถ่าย พิมพ์ด้วยสีสันสวยงามทั้งพิมพ์ในประเทศและต่างประเทศ--จบ--
-สส-