กรุงเทพฯ--3 ส.ค.--พีอาร์ดีดี
สภาวะตลาดวันที่ 03 สิงหาคม 2559 ราคาทองคำแกว่งตัวในกรอบที่ระดับ 1,361.25-1,366.24 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ขณะที่ราคาทองคำแท่ง 96.5% ภายในประเทศขายออกอยู่ที่ 22,500 บาทต่อบาททองคำ โดยราคาปรับตัวเพิ่มขึ้น 150 บาท จากวันก่อนหน้าที่ระดับ 22,350 บาทต่อบาททองคำ ขณะที่โกลด์ฟิวเจอร์ส GFQ16 อยู่ที่ 22,630 บาท โดยราคาปรับตัวเพิ่มขึ้น 170 บาท จากวันก่อนหน้าที่ระดับ 22,460 บาท
(หมายเหตุ: ข้อมูลนี้จัดทำขึ้น ณ เวลา 16.11 น.ของวันที่ 03/08/16)
แนวโน้มวันที่ 04 สิงหาคม 2559
ข้อมูลการขยายตัวทางเศรษฐกิจที่ย่ำแย่ของสหรัฐกดดัชนีดอลลาร์เมื่อเทียบกับตะกร้าสกุลเงินเคลื่อนตัวอยู่ใกล้จุดต่ำสุดในรอบ 6 สัปดาห์ ขณะที่ดอลลาร์ร่วงลงสู่ระดับต่ำสุดในรอบ 3 สัปดาห์เมื่อเทียบกับเยน เมื่อรัฐบาลญี่ปุ่นอนุมัติมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจทางการคลัง 1.32 แสนล้านดอลลาร์ ส่งผลให้ราคาทองปรับตัวพุ่งขึ้นมาที่ระดับสูงสุดในรอบ 4 สัปดาห์ ทั้งนี้ ความผันผวนของตลาดเงินได้สร้างแรงซื้อเข้าสู่ตลาดทองคำอย่างต่อเนื่อง เมื่อมีกระแสคาดการณ์ว่าเจ้าหน้าที่จีนจะพยายามทำให้หยวนมีเสถียรภาพ แต่ก็จะปล่อยให้หยวนอ่อนค่าลงในที่สุดตามการปรับเปลี่ยนของเศรษฐกิจไปสู่ภาวะที่ชะลอตัวลง ผลสำรวจของรอยเตอร์พบว่า หยวนอาจจะร่วงลงกว่า 3% เมื่อเทียบกับดอลลาร์ภายใน 1 ปีนับจากนี้ ซึ่งมากกว่าที่คาดไว้เมื่อ 1 เดือนก่อน ซึ่งการอ่อนค่าของเงินหยวนจะกระตุ้นให้นักลงทุนชาวจีนเปลี่ยนการถือครองเงินหยวนมาเป็นการถือครองทองคำเพิ่มมากขึ้นเพื่อเป็นการปกป้องความมั่งของตน อย่างไรก็ตามราคาทองคำปรับตัวขึ้นค่อนข้างมากในช่วงที่ผ่านมาส่งผลให้แรงซื้อชะลอตัวลงบ้างประกอบกับนักลงทุนจับตาธนาคารกลางอังกฤษ (บีโออี) ว่าจะดำเนินมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่มหรือไม่ในการประชุมวันที่ 4 สิงหาคมนี้ โดยนักเศรษฐศาสตร์ส่วนใหญ่คาดว่า บีโออีอาจจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยลงอย่างน้อยที่สุด 0.25% สู่ระดับ 0.25% และอาจจะเริ่มต้นเข้าซื้อตราสารหนี้อีกครั้งด้วยโครงการซื้อพันธบัตรซึ่งระงับไปตั้งแต่ปลายปี 2012 เพื่อสกัดกั้นไม่ให้การลงประชามติถอนตัวออกจากสหภาพยุโรปหรือ Brexit ส่งผลให้เศรษฐกิจเข้าสู่ภาวะถดถอย ทั้งนี้ ราคาทองคำในประเทศได้รับแรงหนุนจากค่าเงินบาทต่อดอลลาร์ช่วงบ่ายอ่อนค่าเพิ่มขึ้น หลังจากคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) มีมติด้วยเสียงเอกฉันท์ให้คงอัตราดอกเบี้ยนโยบายที่ 1.50% ไว้ตามคาด แต่ระบุว่า มีความเป็นห่วงการแข็งค่าของเงินบาทจะกระทบการฟื้นตัวของเศรษฐกิจไทย
กลยุทธ์การลงทุน ทางวายแอลจีมีมุมมองว่า หากราคาทองคำทดสอบแนวต้านที่ 1,375 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ยังไม่สามารถผ่านได้ ซึ่งนักลงทุนยังคงต้องระมัดระวังแรงขายทำกำไรเนื่องจากช่วงที่ผ่านมาเมื่อราคาทองคำมีการปรับตัวขึ้นยังคงมีแรงขายออกมาเช่นกัน นักลงทุนที่สะสมทองคำไว้อาจมีการขายทำกำไรบางส่วนออกมาบ้าง สำหรับการทำกำไรให้ดูว่าราคาจะผ่านแนวต้านได้หรือไม่ ถ้าสามารถผ่านไปได้แนะนำให้ถือต่อเพื่อไปขายทำกำไรที่แนวต้านถัดไปบริเวณ 1,383 ดอลลาร์ต่อออนซ์ และหากราคาทองคำมีการปรับตัวลดลงมาไม่หลุดแนวรับ แนะนำนักลงทุนเข้าซื้อเก็งกำไรระยะสั้น ทั้งนี้ประเมินแนวรับไว้ที่ 1,358 ดอลลาร์ต่อออนซ์ โดยมีแนวรับถัดไปอยู่ที่ 1,346 ดอลลาร์ต่อออนซ์
ทองคำแท่ง (96.50%)
แนวรับ 1,358 (22,410บาท) 1,346 (22,220บาท) 1,338 (22,080บาท)
แนวต้าน 1,375 (22,700บาท) 1,383 (22,830บาท) 1,390 (22,950บาท)
GOLD FUTURES (GFQ16)
แนวรับ 1,358 (22,530บาท) 1,346 (22,330บาท) 1,338 (22,200บาท)
แนวต้าน 1,375 (22,820บาท) 1,383 (22,950บาท) 1,390 (23,070บาท)
หากต้องการทราบทิศทางราคาทองคำและแนวทางลงทุนทองคำ ขอคำปรึกษาเพิ่มเติมจากทีมที่ปรึกษาการลงทุนด้านโกล์ดฟิวเจอร์ส โทร.02-687-9999