บอกรักแม่ด้วยภูมิสมดุล

ข่าวบันเทิง Thursday August 11, 2016 17:46 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--11 ส.ค.--ดีซี คอนซัลแทนส์ แอนด์ มาร์เก็ตติ้ง คอมมูนิเคชั่นส์ เดือนสิงหาคมของทุกปีเป็นเดือนแห่งเทศกาลวันแม่แห่งชาติ จึงเป็นช่วงเวลาพิเศษที่ลูกๆ จะได้แสดงความรักและตอบแทนพระคุณอันยิ่งใหญ่ของท่านผ่านกิจกรรมพิเศษต่างๆ เช่น พาท่านเข้าวัด ทำบุญ หรือจะพาไปทานอาหารร้านโปรดพร้อมหน้าครอบครัว แต่สิ่งที่สำคัญที่สุดคือการดูแลสุขภาพของท่านให้แข็งแรงอยู่เสมอ ซึ่งนับว่าเป็นของขวัญที่ล้ำค่ามากที่สุด เพราะเมื่อร่างกายแข็งแรง จิตใจก็จะพลอยเบิกบานสดชื่น มีความสุขไปด้วย ศ.ดร.พิเชษฐ์ วิริยะจิตรา หัวหน้าคณะนักวิจัย Operation BIM (โอเปอเรชั่น บิม) นักวิทยาศาสตร์ไทยคนแรกผู้คิดค้นวิธีการสร้างภูมิคุ้มกันให้สมดุลจากสารสกัดธรรมชาติ กล่าวว่า โดยหลักวิทยาศาสตร์ ความชรา (Aging) คือ ผลจากการสะสมของความเสื่อมสภาพที่มีต่อเซลล์ต่างๆ ในร่างกาย นำไปสู่ความเจ็บป่วยและเสียชีวิตในที่สุด จากการศึกษาพบว่า อนุมูลอิสระเป็นสาเหตุหลักของความชราและการเกิดโรคในผู้สูงอายุ ถ้าเปรียบร่างกายของคนก็เหมือนกับเหล็กที่ทำปฏิกิริยากับออกซิเจนแล้วเกิดเป็นสนิมขึ้นนั่นเอง เพราะฉะนั้นการรักษาระดับภูมิคุ้มกันของร่างกายให้อยู่ในระดับที่สมดุลอยู่เสมอเป็นสิ่งที่สำคัญอย่างยิ่งในการดูแลสุขภาพของคนที่เรารัก เรียกว่าภาวะ "ภูมิสมดุล" เพราะในร่างกายของคนเรามีเม็ดเลือดขาวอยู่ประมาณ 20,000-55,000 ล้านเม็ด ถือเป็นกองทัพที่ยิ่งใหญ่มากที่ธรรมชาติสร้างขึ้นให้เรา เพื่อทำหน้าที่ปรับภูมิคุ้มกันร่างกายให้เกิดความสมดุล เพราะผู้สูงวัยที่มีปัจจัยเสี่ยงที่อาจเกิดโรคเบาหวาน โรคข้อเข่าเสื่อม และโรคเกี่ยวกับดวงตา เป็นต้น ดังนั้นจึงถือเป็นหน้าที่อันยิ่งใหญ่ของบุตรหลานที่จะต้องดูแลผู้สูงวัยให้มีชีวิตความเป็นอยู่ที่ดี มีความสุขภาพที่แข็งแรงในตลอดช่วงชีวิตที่เหลืออยู่ของท่าน โดยมีวิธีที่ทุกคนสามารถทำได้ดังนี้ 1. ดูแลร่างกายให้อยู่ในภาวะ "ภูมิสมดุล" เพื่อกระตุ้นให้ร่างกายใช้กลไกธรรมชาติที่มีต่อสู้กับโรคด้วยตัวเอง การวิจัยในห้องปฏิบัติการได้ค้นพบว่า สารกลุ่ม Xanthones ที่มีสรรพคุณสูงสุดในมังคุดคือ GM-1 มีคุณสมบัติเพิ่มความสามารถของเม็ดเลือดขาวในการกำจัดสิ่งแปลกปลอมได้ดี ยิ่งเมื่อนำมาเสริมฤทธิ์ด้วยสารสกัดจากพืชและผลไม้อีก 4 ชนิด คือ ถั่วเหลือง งาดำ ฝรั่ง และบัวบก ยังพบว่ามีประสิทธิภาพสูงมากขึ้นในการกระตุ้นการทำงานของเซลล์เม็ดเลือดขาวชนิด Th1, Th9, Th17 และInterleukin-18 ซึ่งทำหน้าที่เสมือนกองทหารสื่อสาร ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพของเม็ดเลือดขาวกลุ่มเพชฌฆาต Cytotoxic T-Cell อย่างเห็นได้ชัด 2. ดูแลด้านการรับประทานอาหาร อาทิ โปรตีนควรต้องเป็นชนิดย่อยง่ายเช่นกันเช่น จากปลาและไข่ ถ้าจะบริโภคเนื้อแดงควรต้อง ปรุงให้เปื่อยยุ่ย เป็นต้น ในส่วนของไข่ ถ้าไม่มีโรคประจำตัวหรือไขมันในเลือดสูง สามารถกินไข่ที่รวมทั้งไข่แดงและไข่ขาวได้ถึงวันละ 2 - 3 ฟอง ควรจำกัดไขมันทุกประเภทให้เหลือน้อยที่สุด เพราะเป็นอาหารที่มีประโยชน์น้อยที่สุดสำหรับผู้สูงอายุ ส่วนใหญ่ให้โทษมากกว่า โดยเฉพาะโรคของหลอดเลือดต่างๆเช่น โรคหลอดเลือดหัวใจ โรคหลอดเลือดสมอง 3. ดูแลให้มีการเคลื่อนไหวร่างกาย (Physical activity) ทุกส่วนอยู่เสมอ เช่น การเดิน การบริหารกล้ามเนื้อและข้อต่างๆ โดยทั่วไปการออกกำลังกายที่เหมาะสมกับผู้สูงอายุคือ การเดิน ซึ่งเมื่อไม่มีปัญหาด้านสุขภาพ จะแนะนำการเดินวันละประมาณ 20-30 นาทีทุกๆวัน ไม่ควรนั่งแช่ดูทีวีหรือนอนอยู่แต่บนเตียง 4. ดูแลให้มีความสัมพันธ์ที่ดีต่อผู้คนรอบข้าง เพราะจากงานวิจัย Harvard Study of Adult Development ทำการศึกษาเกี่ยวกับพัฒนาการของผู้ใหญ่จากมหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ด Harvard University ที่ใช้ระยะเวลาศึกษาค้นคว้าทั้งสิ้น 75 ปีเต็ม พบว่า คำตอบที่แท้จริงของชีวิตที่มีความสุขก็คือ 'ความสัมพันธ์ที่ดี' นั่นเอง เพราะจากการศึกษาพบว่าบุคคลที่ให้ความสำคัญกับ 'ความสัมพันธ์ที่ดีต่อผู้คนรอบข้าง' จะเป็นผู้ที่พบกับความสุขที่แท้จริง นอกจากนี้แล้ว การได้รับการดูแลเอาใจใส่อย่างดีจากสมาชิกในครอบครัวจะยิ่งสร้างความสุข มากยิ่งขึ้น ทั้งยังเป็นการป้องกันไม่ให้เกิดโรคภัยไข้เจ็บได้อีกด้วย วันแม่ปีนี้บอกรักแม่โดยเริ่มต้นด้วยการดูแลสุขภาพด้วยการสร้างภูมิคุ้มกันที่ดี หรือเรียกว่า "ภูมิสมดุล" กันเถอะ

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ