ธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด (มหาชน) ประกาศผลประกอบการและฐานะการเงินสำหรับไตรมาสที่ 3 ของปี 2543 ภายหลังการสอบทานโดยผู้สอบบัญชีอิสระ

ข่าวทั่วไป Wednesday November 15, 2000 13:17 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--15 พ.ย.--ธนาคารไทยพาณิชย์
ธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด (มหาชน) ประกาศผลประกอบการและฐานะการเงินสำหรับไตรมาสที่ 3 ของปี 2543 ภายหลังการสอบทานโดยผู้สอบบัญชีอิสระ
I. สรุปผลประกอบการที่สำคัญในไตรมาสที่ 3 ของปี 2543
ผลประกอบการที่สำคัญในไตรมาสที่ 3 ของปี2543 หลังการสอบทานโดยผู้สอบบัญชีอิสระ ไม่แตกต่างในสาระสำคัญจากที่ได้ประกาศเมื่อวันที่ 19 ตุลาคม 2543
ธนาคารมีกำไรสุทธิตามงบการเงินรวมและงบการเงินเฉพาะของธนาคารจำนวน 754 ล้านบาท เทียบกับ 2,694 ล้านบาทในไตรมาสเดียวกันของปี 2542 โดยงวด 9 เดือนสิ้นสุดวันที่ 30 กันยายน 2543 ธนาคารมีกำไรสุทธิจำนวน 2,787 ล้านบาท เทียบกับขาดทุนสุทธิ 36,978 ล้านบาทในงวดเดียวกันของปีก่อน
ณ สิ้นไตรมาส 3 ปี 2543 ธนาคารมีค่าเผื่อหนี้สงสัยจะสูญ 20,921 ล้านบาท สูงกว่าจำนวนที่ธนาคารแห่งประเทศไทยกำหนด 2,451 ล้านบาท หรือประมาณร้อยละ 0.5 ของเงินให้สินเชื่อรวมสถาบันการเงิน ธนาคารได้ตัดจำหน่ายหนี้สูญในงวด 9 เดือน จำนวน 4,737 ล้านบาท
ในงวดบัญชีนี้ ธนาคารได้เปลี่ยนแปลงวิธีการคำนวณกำไรต่อหุ้น เพื่อให้เป็นไปตามมาตรฐานบัญชีใหม่ ซึ่งกำหนดให้แสดงกำไรต่อหุ้นเป็น 2 รายการคือ กำไรต่อหุ้นขั้นพื้นฐาน และกำไรต่อหุ้นปรับลด ดังนั้นในงวดนี้ ธนาคารแสดงกำไรต่อหุ้นเป็น 2 รายการ คือกำไรต่อหุ้นขั้นพื้นฐาน ซึ่งคำนวณจากกำไรสุทธิหารด้วยจำนวนหุ้นสามัญ และกำไรต่อหุ้นปรับลด ซึ่งคำนวณจากกำไรสุทธิหารด้วยจำนวนหุ้นสามัญ หุ้นบุริมสิทธิ และหุ้นที่อาจต้องออกเพื่อรองรับการแปลงสภาพของ Warrant และหุ้นกู้แปลงสภาพ แทนวิธีเดิมซึ่งแสดงกำไรต่อหุ้นหารด้วยจำนวนรวมของหุ้นสามัญและหุ้นบุริมสิทธิ ซึ่งผลของการแสดงกำไรต่อหุ้นตามมาตรฐานบัญชีใหม่ ทำให้กำไรต่อหุ้นสามัญมีจำนวน 1.05 บาทและ 4.11 บาทสำหรับงวดไตรมาสและงวด 9 เดือนสิ้นสุดวันที่ 30 กันยายน 2543 ตามลำดับ ส่วนกำไรต่อหุ้นปรับลดมีจำนวน 0.24 บาท และ 0.89 บาท ตามลำดับ (หากใช้วิธีเดิมในการคำนวณ ธนาคารจะมีกำไรต่อหุ้น 0.24 บาท และ 0.89 บาท ตามลำดับ ซึ่งไม่ต่างกับกำไรต่อหุ้นปรับลดในระดับทศนิยม 2 ตำแหน่ง)
II. งบดุล ณ วันที่ 30 กันยายน 2543
ธนาคารมีสินเชื่อก่อนหักค่าเผื่อหนี้สงสัยจะสูญจำนวน 479,716 ล้านบาท ลดลงจากสิ้นปี 2542 จำนวน 8,782 ล้านบาท และมีดอกเบี้ยค้างรับจำนวน 2,754 ล้านบาท ลดลงจากสิ้นปี 2542 จำนวน 1,216 ล้านบาท ธนาคารมียอดเงินฝาก 585,047 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากสิ้นปี 2542 จำนวน 22,406 ล้านบาท หรือร้อยละ 4.0
ธนาคารมีส่วนของผู้ถือหุ้น 53,464 ล้านบาท โดยคิดเป็นส่วนของผู้ถือหุ้นต่อหุ้นจำนวน 17.1 บาท มีเงินกองทุนตามกฎหมาย (ชั้นที่ 1 และชั้นที่ 2) รวม 75,254 ล้านบาท หรือ ร้อยละ 15.7 ของสินทรัพย์เสี่ยง โดยเป็นส่วนของเงินกองทุนชั้นที่ 1 ร้อยละ 9.7 ของสินทรัพย์เสี่ยง
III. การปรับโครงสร้างหนี้และคุณภาพสินเชื่อ
ในช่วง 9 เดือนแรกของปี 2543 ธนาคารได้มีการปรับโครงสร้างหนี้จำนวน 61,615 ล้านบาท ซึ่งเป็นการปรับโครงสร้างหนี้ปกติ (PDR) และการปรับโครงสร้างหนี้มีปัญหา (TDR)
ธนาคารมียอดสินเชื่อที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ ซึ่งรวมรายการระหว่างธนาคารและตลาดเงิน (NPLs) ณ สิ้นกันยายน 2543 จำนวน 91,159 ล้านบาท หรือร้อยละ 18.7 ของสินเชื่อรวม ซึ่งแสดงถึงแนวโน้มที่ดีขึ้นเมื่อเทียบกับจำนวน 101,301 ล้านบาท หรือร้อยละ 21.0 ณ สิ้นไตรมาสที่ 2 โดยเป็นการลดลงอย่างต่อเนื่องในหนี้ค้างชำระเกินกว่า 12 เดือน
ธนาคารมีสินเชื่อจัดชั้นมีปัญหา (Problem Classified Loans) รวมรายการระหว่างธนาคารและตลาดเงิน ตั้งแต่ชั้นต่ำกว่ามาตรฐานลงมา ณ สิ้นกันยายน 2543 จำนวนทั้งสิ้น 115,421 ล้านบาท หรือร้อยละ 23.5 เทียบกับจำนวน 119,953 ล้านบาท หรือร้อยละ 24.7 ณ สิ้นไตรมาสที่ 2
ธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด (มหาชน)14 พฤศจิกายน 2543
--จบ--
-สส-

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ