กระทรวงเกษตรฯ ส่งเสริมเกษตรแปลงใหญ่ พร้อมบูรณาการทุกหน่วยงานช่วยกันถ่ายทอดความรู้ในการทำการเกษตรที่ถูกต้อง ใช้เทคโนโลยี มีการบริหารจัดการ และการตลาดร่วมด้วย

ข่าวทั่วไป Friday September 2, 2016 17:27 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--2 ก.ย.--สำนักงานปลัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ พลเอก ฉัตรชัย สาริกัลยะ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เปิดเผยภายหลังลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมการเกษตรแปลงใหญ่ (ข้าว) ณ ต.ตากตก อ.บ้านตาก จ.ตาก ว่า กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ได้มีการบูรณาการส่งเสริมเกษตรแปลงใหญ่ ซึ่งในปัจจุบันมีแปลงใหญ่ 32 ชนิด สินค้าเกษตร ใน 76 จังหวัด จำนวน 569 แปลง พื้นที่ 1.47ล้านไร่ เกษตรกร 93,260 ราย โดยเฉลี่ยแล้วเกษตรกรสามารลดต้นทุนการผลิตได้ 17.9% และสามารถเพิ่มผลผลิตได้15.6% ซึ่งการทำการเกษตรแบบแปลงใหญ่นี้ รัฐบาลมีนโยบายส่งเสริม เนื่องจากเป็นการวางรากฐานอย่างยั่งยืน สำหรับจุดเด่นของเกษตรแปลงใหญ่ (ข้าว) แห่งนี้ มีการลดต้นทุนจาก 5.01 กก./บาท เหลือ 4.25 กก./บาท ลดลงร้อยละ 14.21 และสามารถเพิ่มผลผลิตจาก 650 กก./ไร่ เป็น 800 กก./ไร่ เพิ่มขึ้นร้อยละ 23.08 นอกจากนี้ ยังได้นำความรู้และเทคโนโลยีมาใช้ในเรื่องเมล็ดพันธุ์ที่ดี ทำให้ลดอัตราการใช้เมล็ดพันธุ์ การใช้ปุ๋ยที่เหมาะกับดิน ทำให้ลดปริมาณปุ๋ย และการทำปุ๋ยใช้เอง โดยมีการไถกลบตอซัง อีกทั้งยังได้มี การรวมกลุ่มใช้เครื่องหยอดข้าว ซึ่งได้ผลผลิตดี ใช้เมล็ดพันธุ์น้อย และมีเครื่องจักรกลการเกษตรบริการกันเองในราคาถูก ทั้งนี้ กระทรวงเกษตรฯ ได้มีการบูรณาการทุกหน่วยงานช่วยกันถ่ายทอดความรู้ในการทำการเกษตรที่ถูกต้อง การนำเทคโนโลยีมาใช้ มีการบริหารจัดการ และการตลาดร่วมด้วย พลเอก ฉัตรชัย กล่าวเพิ่มเติมว่า รัฐบาลจะมีการให้การสนับสนุนด้านเงินทุนในโครงการต่าง ๆ ได้แก่ 1)โครงการสร้างความเข้มแข็งให้กลุ่มเกษตรกรเพื่อเข้าถึงแหล่งเงินทุนในภาคการผลิตและภาคการตลาด 2) โครงการสนับสนุนเงินทุนเพื่อสร้างระบบน้ำสำรองในไร่นาของสถาบันเกษตรกร 3) โครงการส่งเสริมการให้บริการเครื่องจักรกลทางการเกษตรเพื่อลดต้นทุนสมาชิก และ 4) โครงการสนับสนุนสินเชื่อเพื่อพัฒนาระบบส่งเสริมการเกษตรแปลงใหญ่ (สินค้าเกษตรอื่น ๆ นอกจากข้าว) ทั้งนี้ ในปี 2560 กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เตรียมขยายผลการดำเนินงานใน 3 ส่วน ได้แก่ 1)การเกษตรแปลงใหญ่ โดยจะเพิ่มจำนวนแปลงให้ถึง 1,000 แปลง และเพิ่มประสิทธิภาพในการลดต้นทุนและเพิ่มผลผลิตให้ได้ร้อยละ 20 2) การปรับเปลี่ยนการทำการเกษตรไม่เหมาะสมด้วย Agri-Map โดย การปรับเปลี่ยนการปลูกข้าวรอบแรก 0.57 ล้านไร่ การปรับเปลี่ยนการปลูกข้าวรอบสอง 4.49 ล้านไร่ และ การปรับเปลี่ยนการปลูกพืชอื่น ๆ และ 3) การขยายผลเกษตรทฤษฎีใหม่และเกษตรแบบผสมผสานด้วย

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ