กรุงเทพฯ--5 ก.ย.--พีอาร์ดีดี
สภาวะตลาดวันที่ 05 กันยายน 2559 ราคาทองคำแกว่งตัวในกรอบที่ระดับ 1,321.60-1,327.40 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ขณะที่ราคาทองคำแท่ง 96.5% ภายในประเทศขายออกอยู่ที่ 21,800 บาทต่อบาททองคำ โดยราคาปรับตัวเพิ่มขึ้น 300 บาท จากวันก่อนหน้าที่ระดับ 21,500 บาทต่อบาททองคำ ขณะที่โกลด์ฟิวเจอร์ส GFV16 อยู่ที่ 21,920 บาท โดยราคาปรับตัวเพิ่มขึ้น 290 บาท จากวันก่อนหน้าที่ระดับ 21,630 บาท
(หมายเหตุ: ข้อมูลนี้จัดทำขึ้น ณ เวลา 15.43 น.ของวันที่ 05/09/16)
แนวโน้มวันที่ 06 กันยายน 2559
ดัชนีดอลลาร์เมื่อเทียบกับตะกร้าสกุลเงินร่วงลงแตะจุดต่ำสุดรอบ 1 สัปดาห์ ดันราคาทองคำดีดตัวขึ้นเมื่อกระทรวงแรงงานของสหรัฐรายงานว่า การจ้างงานนอกภาคเกษตรของสหรัฐเพิ่มขึ้นเพียง 151,000 ตำแหน่งในเดือนสิงหาคม หลังจากพุ่งขึ้น 275,000 ตำแหน่งในเดือนกรกฎาคม โดยการจ้างงานในภาคการผลิตและภาคก่อสร้างลดลง แต่อย่างไรก็ตามการจ้างงานในสหรัฐโดยเฉลี่ยในช่วง 3 เดือนที่ผ่าน ปรับตัวสูงขึ้นกว่า 200,000 ตำแหน่งต่อเดือนและทางด้านอัตราการว่างงานทรงตัวที่ 4.9% ส่งผลให้เทรดเดอร์ในตลาดสัญญาล่วงหน้าคาดว่า มีโอกาสสูงกว่า 20% เล็กน้อยที่ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในการประชุมวันที่ 20-21 กันยายน และมีโอกาสสูงกว่า 50% ที่เฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยก่อนสิ้นปีนี้ เพราะประเมินว่า ตัวเลขการจ้างงานในเดือนสิงหาคมอาจจะไม่ส่งผลกระทบมากนักต่อแผนการของเฟดในการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย ขณะที่นายเจฟฟรีย์ แลคเคอร์ ประธานเฟดสาขาริชมอนด์ แสดงความเห็นว่า เศรษฐกิจสหรัฐดูเหมือนแข็งแกร่งเพียงพอที่จะสนับสนุนการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย ส่งผลให้ดัชนีดอลลาร์ก็ฟื้นตัวขึ้นในเวลาต่อมาและราคาทองคำมีการอ่อนตัวลงจากแรงขายทำกำไร ทั้งนี้ ราคาทองคำในวันจันทร์เคลื่อนไหวในช่วงแคบเนื่องจากไม่มีการรายงานข้อมูลเศรษฐกิจ เนื่องจากหน่วยงานราชการและตลาดการเงินของสหรัฐปิดทำการเนื่องในวันแรงงาน ประกอบกับตลาดจะจับตาการประชุมธนาคารกลางยุโรปในวันพฤหัสบดีนี้เพื่อหาสัญญาณบ่งชี้เกี่ยวกับการผ่อนคลายนโยบายการเงินลงอีก ซึ่งนับตั้งแต่การประชุมอีซีบีในเดือนกรกฎาคม ตัวเลขเศรษฐกิจก็ไม่ได้แสดงสัญญาณที่ชัดเจนว่า การลงมติ Brexit สร้างความเสียหายต่อเศรษฐกิจยูโรโซน และตลาดการเงินก็ยังคงอยู่ในภาวะสงบ อัตราเงินเฟ้อในยูโรโซนปรับขึ้นเล็กน้อย โดยอยู่ที่ 0.2% ต่อปีในเดือนกรกฎาคมแต่ยังคงอยู่ห่างจากเป้าหมายที่อีซีบีตั้งไว้ที่ระดับใกล้ 2%
กลยุทธ์การลงทุน วายแอลจีมีมุมมองว่า หากราคาทองคำยังคงเคลื่อนไหวต่ำกว่าแนวต้านโซน 1,333 ดอลลาร์ต่อออนซ์จะทำให้ราคาทองคำอ่อนตัวลงเพื่อพักฐาน โดยหากราคาทองคำสามารถยืนเหนือแนวรับได้อย่างแข็งแกร่ง คาดว่าราคาน่าจะเกิดแรงซื้อเก็งกำไรระยะสั้นให้ราคาดีดกลับขึ้นอีกครั้ง สำหรับนักลงทุนที่รับความเสี่ยงได้แนะนำให้ถือต่อเพื่อทำกำไรบริเวณแนวต้าน 1,344 ดอลลาร์ต่อออนซ์ แต่หากยืนเหนือแนวต้านไม่ได้ต้องระมัดระวังแรงขายที่ออกมาอาจทำให้ราคาย่อตัวลงสู่แนวรับ สำหรับผู้ที่ไม่มีทองคำในมือรอดูบริเวณ 1,313 ดอลลาร์ต่อออนซ์ หากสามารถยืนได้อย่างมั่นคง ถือเป็นจุดซื้อเก็งกำไรระยะสั้น แต่หากราคาหลุดแนวรับ 1,300 ดอลลาร์ต่อออนซ์ แนะนำให้ชะลอการลงทุนเพื่อรอดูสถานการณ์ และควรตั้งจุดตัดขาดทุนหากราคาไม่เป็นไปตามคาดการณ์
ทองคำแท่ง (96.50%)
แนวรับ 1,313 (21,570บาท) 1,300 (21,350บาท) 1,293 (21,240บาท)
แนวต้าน 1,333 (21,900บาท) 1,344 (22,080บาท) 1,358 (22,310บาท)
GOLD FUTURES (GFV16)
แนวรับ 1,313 (21,700บาท) 1,300 (21,490บาท) 1,293 (21,370บาท)
แนวต้าน 1,333 (22,030บาท) 1,344 (22,210บาท) 1,358 (22,440บาท)
หากต้องการทราบทิศทางราคาทองคำและแนวทางลงทุนทองคำ ขอคำปรึกษาเพิ่มเติมจากทีมที่ปรึกษาการลงทุนด้านโกล์ดฟิวเจอร์ส โทร.02-687-9999