กสิกรไทยโชว์ผลประกอบการครึ่งปีโตได้ตามเป้าแม้เศรษฐกิจซบ

ข่าวหุ้น-การเงิน Tuesday September 6, 2016 10:36 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--6 ก.ย.--ธนาคารกสิกรไทย กสิกรไทยโชว์ผลประกอบการครึ่งปี 2559 ของสายงานลูกค้าธุรกิจยังโตได้ตามเป้า สินเชื่อลูกค้ารายใหญ่โต 9% สวนทางเศรษฐกิจที่ชะลอตัว ส่วนเอสเอ็มอีโต 2% เผยอุตสาหกรรมเด่นครึ่งปีแรกของธนาคารได้แก่ รับเหมาก่อสร้าง ค้าวัสดุก่อสร้าง ยานยนต์ และฮาร์ดแวร์ นายพัชร สมะลาภา รองกรรมการผู้จัดการ ธนาคารกสิกรไทย เปิดเผยว่า ผลการดำเนินงานของสายงานธุรกิจลูกค้าบรรษัทที่ดูแลลูกค้าธุรกิจขนาดใหญ่ ณ 30 มิถุนายน 2559 เติบโตมากกว่าเป้าหมายที่ตั้งไว้ โดยมียอดสินเชื่อคงค้างอยู่ที่ 512,137 ล้านบาท เติบโต 9% จากสิ้นปี 2558 และในส่วนสายงานธุรกิจลูกค้าผู้ประกอบการหรือเอสเอ็มอี ในครึ่งปีแรกมีสินเชื่อคงค้างอยู่ที่ 628,693 ล้านบาท เติบโต 2% จากสิ้นปี 2558 โดยอุตสาหกรรมที่โดดเด่นในครึ่งปีแรกของธนาคาร ได้แก่ รับเหมาก่อสร้าง ค้าวัสดุก่อสร้าง ยานยนต์ และฮาร์ดแวร์ เนื่องจากได้รับอานิสงค์จากการส่งเสริมและสนับสนุนการลงทุนจากภาครัฐ ในส่วนมาตรการช่วยเหลือลูกค้าธุรกิจที่ได้รับผลกระทบจากเศรษฐกิจชะลอตัว ธนาคารได้มีการช่วยเหลือมาตั้งแต่ปี 2557 จนถึงปัจจุบัน โดยมียอดสินเชื่อที่เข้ามาตรการช่วยเหลือจำนวน 149,000 ล้านบาท โดย ณ 30 มิถุนายน 2559 มียอดสินเชื่อคงค้างของลูกค้าที่เข้ามาตรการอยู่ที่ 24,000 ล้านบาท ซึ่งมีจำนวนลดลงเนื่องจากลูกค้าธุรกิจมีการปรับตัวตั้งรับกับสถานการณ์เศรษฐกิจชะลอตัวได้ดีขึ้น ธนาคารยังคงมุ่งเน้นการดูแลลูกค้าในทุกห่วงโซ่ธุรกิจ (Value Chain) ตั้งแต่ต้นน้ำถึงปลายน้ำ โดยเฉพาะใน 3 กลุ่มธุรกิจหลัก ได้แก่ การบริโภค อุตสาหกรรมหนัก และโครงสร้างพื้นฐาน/พลังงาน ให้ได้รับเงินทุน ทั้งเงินกู้ระยะยาวและเงินทุนหมุนเวียน รวมถึงการบริหารเงินทั้งขารับและขาจ่ายผ่านบริการดิจิทัล แบงกิ้ง ให้มีหลักฐานการเดินบัญชี ซึ่งจะทำให้ผู้ประกอบการเอสเอ็มอีมีโอกาสเข้าถึงแหล่งเงินทุนได้มากขึ้น สำหรับลูกค้าธุรกิจขนาดใหญ่ของธนาคารในช่วงครึ่งปีแรกปีนี้ มีแนวโน้มการระดมทุนด้วยการออกหุ้นกู้ และกองรีทเพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อน ซึ่งธนาคารไม่สามารถสนับสนุนได้ทั้งหมด จึงแนะนำลูกค้าให้ระดมทุนผ่านช่องทางอื่น ๆ ด้วย เช่น การระดมทุนในตลาดหลักทรัพย์ (IPO) และการออกทรัสต์เพื่อการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ (REIT) โดยธนาคารยังคงครองความเป็นที่ 1 ของตลาดของ REIT และ IPO มูลค่ากว่า 8,085 ล้านบาท คิดเป็น 40% ของตลาดที่มีมูลค่าราว 20,125 ล้านบาท นายพัชร กล่าวเพิ่มเติมว่า ในครึ่งหลังปี 2559 เศรษฐกิจเริ่มมีสัญญาณฟื้นตัว ในส่วนของลูกค้าขนาดใหญ่ยังมีความต้องการระดมทุนผ่านตลาดทุน ในส่วนของเอสเอ็มอีมีโอกาสในการเข้าถึงแหล่งเงินทุน โดยได้แรงสนับสนุนจากมาตรการช่วยเหลือและการเพิ่มโอกาสในการเข้าถึงแหล่งเงินทุนจากภาครัฐที่ทยอยออกมาอย่างต่อเนื่อง เช่น มาตรการบัญชีเดียว พ.ร.บ.หลักประกันทางธุรกิจ และ National e-Payment เป็นต้น ซึ่งจะช่วยให้ผู้ประกอบการเอสเอ็มอีมีข้อมูลในระบบที่ถูกต้องในการทำธุรกิจ ซึ่งจะเป็นผลดีในการเข้าถึงแหล่งเงินทุนและการขยายการเติบโตในอนาคต นอกจากนี้ผู้ประกอบการยังปรับตัวนำเทคโนโลยีต่างๆ มาใช้เพื่อเพิ่มศักยภาพให้กับธุรกิจมากขึ้น ซึ่งจะทำให้ผู้ประกอบการไทยเติบโตได้อย่างยั่งยืน

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ