“ปูเป้ อรหทัย” เผยชีวิตจริงยิ่งกว่าละคร!! น้ำตาคลอ 38 ปีที่รอคอยเจอแม่บังเกิดเกล้า...

ข่าวบันเทิง Tuesday September 6, 2016 10:45 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--6 ก.ย.--สถานีโทรทัศน์ช่อง 8 เคยได้เห็นกันแต่ในละครไทยเมื่อผู้เป็นแม่มีเหตุผลบางอย่างที่ไม่สามารถเลี้ยงลูกได้ จึงจำเป็นต้องยกลูกตัวเองให้กับคนอื่นไปเลี้ยงดู และผู้เป็นแม่ก็ต้องจำใจเก็บเป็นความลับไว้ หากเมื่อใดคิดถึงลูกแม่ก็ทำได้เพียงเฝ้ามองผ่านหน้าจอทีวี ซึ่งเรื่องราวเหลือเชื่อดั่งละครทั้งหมดนี้ก็ได้เกิดขึ้นจริงกับชีวิตของนักแสดงสาว "ปูเป้ อรหทัย ซื่อศรีสวัสดิ์" ที่วันนี้ (5กันยายน2559) เธอได้เดินทางมาเปิดใจในรายการ "ปากโป้ง" ทางช่อง 8 กดเลข 27 ที่มี "หนิง ปณิตา ธรรมวัฒนะ" และ "หนุ่ม กรรชัย กำเนิดพลอย" เป็นพิธีกร โดยเธอจะมาเผยถึงวินาทีแรกที่เธอรู้ความจริงใครเป็น "แม่ผู้ให้กำเนิด" จะเป็นอย่างไร ไปฟังจากปากเจ้าตัวกันเลย คุณปูเป้เป็นคนที่ไหนครับ? "เป็นคนราชบุรี ตั้งแต่เกิดเลย" แล้วที่มีข่าวว่าคุณพ่อคุณป่วย คุณต้องงดูแลท่าน ขอโทษนะครับใช่คุณพ่อคุณจริง ๆ หรือเปล่า? "คุณพ่อที่ป่วย เป็นคุณพ่อที่ดูแลเรามาตั้งแต่เด็ก ๆ คือเราคิดเสมอว่าเค้าเป็นพ่อแม่แท้ ๆ ก็คิดดูแลเค้าเหมือนกับพ่อแม่แท้ ๆ ค่ะ ทุกวันนี้ก็ยังดูแลอยู่ ก็ยังอยู่ด้วยกัน" รู้ตัวเองตั้งแต่เมื่อไหร่ว่า เราไม่น่าจะใช่ลูกของคุณพ่อคุณแม่ที่ดูแลเรามา? "คือเรื่องนี้มันค่อนข้างเซ็นท์ซิทีฟ จริง ๆ ต้องบอกก่อนว่ามันเป็นเรื่องที่เป้ไม่อยากจะออกมาพูดเลย เพราะว่ามันเป็นเรื่องของครอบครัวและเราก็ต้องดูแลความรู้สึกของทุกคน แต่ด้วยความที่เราสนิทกัน เรามาที่ปากโป้งบ่อย และพี่หนุ่มก็เป็นคนบอกเองว่าเรื่องนี้ก็สอนคนด้วย ก็เลยออกมาพูด ก็คืออย่างที่พี่หนุ่มถาม คุณพ่อคุณแม่เนี่ยก็คือเป็นคุณพ่อคุณแม่ที่เลี้ยงเรามาตั้งแต่เราจำความได้ ลืมตาขึ้นมาก็เป็นคุณพ่อคุณแม่นี้ ชื่อคุณพ่อวิชัย และคุณแม่อรจิต เขาก็เลี้ยงมาตั้งแต่เป้เกิดนั่นแหล่ะ แต่เราก็มีความรู้สึกตั้งแต่เราจำความได้เลยว่า เราหน้าจะออกฝรั่ง เด็กฝรั่งเวลาที่อยู่ต่างจังหวัดมันจะเป็นอะไรที่แบบโดดเด่น แต่ในความโดดเด่นมันจะมีความแซว ความล้อ อย่างเช่น ลูกฝรั่ง เราก็หันมามองหน้าพ่อแม่เราก็เป็นคนไทยนิ คุณเริ่มคิดว่าหน้าคุณฝรั่งแล้วพ่อแม่เป็นคนไทยเนี่ยเมื่อไหร่? "ก็จำความได้เลยค่ะ ที่โดนล้อก็ตั้งแต่เล็กเลยค่ะ 3-4 ขวบ เราก็ติดใจมาตลอด เพราะมีคนล้อตลอด เก็บมาเลี้ยง" แล้วทำไมคุณไม่ถามคุณพ่อวิชัย คุณแม่อรจิต? "เชื่อไหม ไม่เคยถามเลยสักคำเดียว เพราะไม่กล้าถาม 1.กลัวเขาเสียใจ 2.มีความรู้สึกว่าพอมองย้อนกลับไปก็กลัวตัวเองเสียใจ นึกออกไหม กลัวว่าพอถามแล้วไม่ใช่เราจะรับไม่ได้ ก็เลยไม่ถาม เหมือนเป็นเด็กขี้กลัว และก็รักพ่อแม่ที่เลี้ยงดูเรามามาก ๆ" แต่จากข้อมูลเขาบอกว่าคุณเองคิดอยู่ในใจเสมอว่าคุณพ่อวิชัยน่าจะมีภรรยาเป็นฝรั่ง? "(หัวเราะ) ใช่ คือตอนแรกไม่ได้คิดอะไร แต่เผอิญจะมีกลุ่มเพื่อน กลุ่มเพื่อนก็พูดกัน ว่าแม่ชั้นเล่าให้ฟังว่าแม่เธอเป็นฝรั่งมาเรียนหนังสือและก็ท้องเธอไว้กับพ่อเธอแล้วก็หนีกลับประเทศไป ก็เป็นเรื่องเม้าท์กันไป เราเลยคิดว่าสงสัยแม่เราเป็นฝรั่ง แม่คงทิ้งเราไป ไม่สนใจเราแล้ว" ความรู้สึกตอนนั้นรู้สึกโกรธเกลียดแม่ฝรั่งที่เราคิดไว้ตอนนั้นไหม? "ก็รู้สึกไม่เข้าใจ ว่าทำไมต้องทิ้ง ฉันน่ารักจะตายทำไมต้องทิ้ง" ระยะเวลาที่ผ่านมา 30 กว่าปีพ่อแม่เขาก็เลี้ยงดูคุณมาอย่างดี ทำไมคุณถึงมีความสงสัยที่จะคลายปม? "ทุกคน คืออยากจะรู้ว่าต้นกำเนิดของตัวเองเป็นใครถูกไหม ต้องบอกก่อนเลยว่าอย่างเป้เอง เป้มีโอกาสไปเข้าคอร์สจิตวิยาคอร์สนึง ของครูอ้อย เข็มทิศชีวิต แล้วก็เหมือนกลับว่า กลับไปมองเห็นตัวเอง ตอนตัวเองเป็นเด็กเล็กมาก ๆ เหมือนปรากฏว่าสิ่งที่เห็นก็คือเป็นรูปแม่อุ้มเราอยู่ แต่ปรากฏว่าแม่คนนั้นไม่ใช่ฝรั่ง เขาเป็นคนไทย แล้วคุณมีคิดจะถามพ่อแม่ไหม? "ไม่คิดจะถามเลย เพราะว่าถ้าถามไปเขาต้องเสียใจแน่ ๆ ว่าเขาเลี้ยงเราไม่ดีหรอ" สุดท้ายตัดสินใจไปถามคุณพ่อวิชัยคุณแม่อรจิต? "ก็คุย ๆ เล่นกันเหมือนปกติทุกวัน แล้วก็ถามเลย แต่ว่าก่อนที่จะถามตัดสินใจอยู่ 2-3 วัน รอจังหวะอยู่สองสามวัน พ่อหนูถามจริง ๆ แม่หนูเป็นใคร เท่านั้นล่ะ พ่อช็อคร้องไห้ ฟันปลอมหลุดหมดเลย ไม่คิดว่าลูกจะถาม แล้วแม่ก็นั่งอยู่ด้วย ทั้งสองท่านก็อึ้งแล้วมองหน้ากัน แล้วพ่อก็บอกว่านี่ไงแม่ เราก็บอกว่าไม่ใช่ แม่ที่คลอดหนูมาคือใคร แล้วเขาก็ไปปรึกษากันก่อน ทีนี้เขาก็ยังไม่บอก เคยคิดที่จะเอาเลือดคุณพ่อคุณแม่ไปตรวจไหม? "ไม่เคย เคยแต่สงสัยว่าทำไมพ่อกรุ๊ปเลือดนี้ แม่กรุ๊ปเลือดนี้ แต่ทำไมเรากรุ๊ปเลือดนี้ (หัวเราะ)" หลังจากที่เขาไปปรึกษากัน เขาก็มาบอกว่าแม่เป็นใครอะ ไม่สำคัญหรอกเพราะว่าเขาทั้งสองคนรักเป้มาก (เสียงสั่นเครือ) เป้ก็บอกว่าแต่เป้ก็อยากรู้อะเนอะ เป้ก็อยากทดแทนพระคุณเขา เพราะตอนนี้เป้อยู่ในจุดที่เป้สามารถดูแลเขาได้แล้ว ในชีวิตเป้ก็อยากทดแทนพระคุณคนที่ให้กำเนิด เขาก็ไปปรึกษากัน หลังจากนั้นแม่อรจิตก็ไลน์มาบอก ถ้าหนูอยากรู้จริงๆ ว่าอะไรคืออะไร ตอนนี้พ่อยังทำใจไม่ได้ ก็ไลน์มาบอกว่าให้ไปหาญาตอีกคนหนึ่ง แล้วเขาจะพาไปหาแม่" คุณตกใจไหม ที่เขายอมรับแล้วว่าคุณไม่ใช่ลูก? "ณ วินาทีนั้น คือตื่นเต้น ไม่ตกใจ" เหตุการ์ณที่เกิดขึ้นกี่เดือนละ? "สอง สามเดือนก่อนหน้านี้เองค่ะ ตอนนั้นก็คิดประมวลผลอยู่ค่ะ แต่ระหว่างคิดก็บอกแม่อรจิตบอกเขาตลอด บอกว่าแม่เลี้ยงหนูมาได้ดีมาก แม่ตัดสินใจถูกแล้วที่แม่บอกหนู และหนูก็ยังรักพ่อกับแม่เหมือนเดิม คือให้กำลังใจเขาตลอด จากนั้นก็โทรไปหาญาติคนนั้นเขาอยู่สุพรรณบุรี จากนั้นก็ขับรถนัดกับเขา หนูจะไปขับป้าหมวยที่สุพรรณนะคะ ป้าหมวยพามาหาแม่หน่อย ทุกคนรู้หมด ยกเว้นเป้คนเดียวที่ไม่รู้ จากนั้นพอเป้ไปรับป้าหมวย ป้าหมวยก็ให้เป้ขับรถกลับมาที่กรุงเทพ ระหว่างทางขับมา เขาก็เล่าให้เป้ฟังหมด ว่าแม่มีเราตั้งแต่เด็ก และก็เอาเราไปฝากไว้กับป้าคนนึงที่มีฐานะหน่อย และป้าคนนี้เห็นว่าพ่อวิชัยกับแม่อรจิตไม่มีลูก ก็เลยยกเป้ไปฝากไว้ และพอไปฝากไว้เขาก็รักมาก ตั้งแต่ยังไม่ถึงขวบ" แสดงว่าคุณแม่อรจิตกับคุณแม่ที่คลอดคุณมาเป็นพี่น้องกัน? "พ่อ พ่อวิชัยเนี่ยเขาเปรียบเสมือนเป็นคุณตาของเป้ ระหว่างทางสุพรรณบุรีมาถึงกรุงเทพมให้เป้คลี่คลายเหตุการ์ณทั้งหมดในชีวิตเลยว่าเป็นอย่างไร" คุณมาถึงบ้านแม่คุณเจอไหม? "เจอค่ะ แม่เป็นคนไทย ธรรมดา เนี่ยแหล่ะค่ะ ที่ช็อคคือแม่เป็นพนักงานทำความสะอาดอยู่ที่โรงแรม มันคือโรงแรมรายวัน เป็นคนทำความสะอาด ปูที่นอน เปลี่ยนหมอน ทำมา20ปีแล้ว ตอนนั้นน้ำตาไหลออกมาเลย การเป็นอยู่ก็จะเป็นบ้านไม้เก่า ๆ ในซอย พอเจอครั้งแรกก็กอดเขา และก็ร้องไห้ และก็บอกเขาว่าหนูไม่รู้จริง ๆ ว่าแม่อยู่ตรงนี้ หนูพึ่งรู้แค่สองสามวัน หนูก็มาหาแม่เลย แม่หลังค่อมหมดเลย เป้ก็ถามว่าทำไมแม่หลังค่อมจัง แม่บอกไม่ค่อมได้ไง แม่ปูเตียงมาตั้งยี่สิบปี ในขณะที่เราสบายทุกอย่าง ส่วนคุณพ่อวิชัยกับคุณแม่อรจิตก็คือ ทุกอย่างมันก็ต้องเป็นค่อยไป เป้ก็ทำในสิ่งที่เป้ทำได้ คือเราต้องดูแลเขาอยู่แล้ว ดูแลให้ดีกว่าเดิม ให้เวลามากว่เดิม ทำดีมากกว่าเดิม" ทั้ง 3 ท่านได้มีโอกาสพบกันยัง? "ยังเลย คือต้องค่อยเป็นค่อยไป ทุกอย่างต้องใช้เวลา" ทุกวันนี้คุณเป้ต้องดูแลพ่อวิชัยและก็แม่อรจิตและก็แม่หมวย? "ก็ต้องดูแล ทุกวันนี้สิ่งที่เป้ทำก็คือเป้บอกให้แม่ออกจากงาน แต่แม่ก็บอกว่าคนเราจะมีค่าก็ตอนที่มีงานทำ ถ้าอย่างนั้นแม่สบายใจแม่ทำงานไปก่อน เป้ให้เงินเดือนแม่นะ อยากได้อะไรก็ซื้อ" ขอโทษนะครับ ที่ต้องถามคุณอยู่ในวงการบันเทิงรู้สึกอย่างไรที่มีแม่แท้ ๆ เป็นพนักงานปูเตียงในโรงแรมม่านรูด? "คือเป้มองว่ามันไม่เกี่ยวกีน ไม่ว่าแม่เราจะทำอาชีพอะไร เขาทำอาชีพอะไรก็เป็นอาชีพสุจริต และอีกอย่างเขาก็เป็นแม่ ให้เลือดเนื้อให้ร่างกายให้กำเนิดเรามา ถึงเราจะสูงส่งเราก็ต้องดูแลเขา เพราะเราเกิดมาจากเขา เขาให้หน้าตา ให้เรามาทำมาหากิน เราต้องตอบแทนบุณคุณกับเขา"
แท็ก ปูเป้  

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ