กรุงเทพฯ--6 ก.ย.--พีอาร์ดีดี
สภาวะตลาดวันที่ 06 กันยายน 2559 ราคาทองคำแกว่งตัวในกรอบที่ระดับ 1,324.45-1,329.81 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ขณะที่ราคาทองคำแท่ง 96.5% ภายในประเทศขายออกอยู่ที่ 21,850 บาทต่อบาททองคำ โดยราคาปรับตัวเพิ่มขึ้น 50 บาท จากวันก่อนหน้าที่ระดับ 21,800 บาทต่อบาททองคำ ขณะที่โกลด์ฟิวเจอร์ส GFV16 อยู่ที่ 21,980 บาท โดยราคาปรับตัวเพิ่มขึ้น 30 บาท จากวันก่อนหน้าที่ระดับ 21,950 บาท
(หมายเหตุ: ข้อมูลนี้จัดทำขึ้น ณ เวลา 15.55 น.ของวันที่ 06/09/16)
แนวโน้มวันที่ 07 กันยายน 2559
สภาผู้แทนราษฎรอังกฤษจัดประชุมเพื่ออภิปรายกรณีการจัดทำประชามติใหม่เกี่ยวกับการถอนตัวออกจากสหภาพยุโรป (Brexit) หลังจากประชาชนมากกว่า 4.1 ล้านคนยืนคำร้องระบุว่าฝ่ายที่สนับสนุนการ Brexit ไม่สามารถได้รับคะแนนเสียงมากกว่า 60% มีประชาชนลงชื่อคนเพื่อยื่นคำร้องให้รัฐสภาพิจารณาประเด็นดังกล่าว อย่างไรก็ตามหากเกิดการจัดทำประชามติอีกครั้งจะสร้างความกังวลและส่งผลกระทบให้เกิดความผัวผวนต่อเศรษฐกิจอังกฤษเพิ่มสูงขึ้น ประเด็นดังกล่าวอาจกลับมาเป็นปัจจัยหนุนราคาทองคำในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัยให้ดีดตัวขึ้นได้ ทั้งนี้ในระยะสั้นนักลงทุนจับตาสถานการณ์ดังกล่าวว่าจะส่งผลกระทบมากน้อยเพียงใด หากปัญหาอยู่ในวงจำกัดและไม่ได้ลุกลามในวงกว้าง หรือไม่ได้ส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจโลก ก็จะส่งผลให้ราคาทองคำเมื่อดีดตัวขึ้นก็ยังคงขาดปัจจัยหนุน หรือมีแรงขายทำกำไรสลับออกมาเช่นกัน ขณะที่นักลงทุนจับตาธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) เปิดเผยในรายงานสรุปภาวะเศรษฐกิจ หรือ Beige Book อิงกับข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐในช่วงกลางดึกคืนวันพุธเพื่อแสดงถึงภาพรวมของเศรษฐกิจสหรัฐ และจะมีการปรับปรุงข้อมูลราว 2 สัปดาห์ก่อนการประชุมกำหนดนโยบายการเงินของเฟดในแต่ละครั้ง เพื่อใช้เป็นข้อมูลบ่งชี้ถึงความแข็งแรงของเศรษฐกิจสหรัฐ เพื่อคาดการณ์แนวโน้มและระยะเวลาที่เฟดจะมีการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเพื่อใช้เป็นปัจจัยชี้นำทิศทางราคาเช่นกัน ซึ่งในระยะสั้นราคาทองคำจึงมีการเคลื่อนไหวในกรอบเพื่อรอปัจจัยใหม่ๆ เข้ามาชี้นำทิศทางราคา อย่างไรก็ตาม ราคาทองคำภายในประเทศได้รับแรงหนุนเพิ่มเติมจาก ค่าเงินบาทต่อดอลลาร์อ่อนค่าแตะระดับต่ำสุดในรอบเกือบ 1 เดือนจากแรงขายพันธบัตร ส่งให้ค่าเงินบาทดอลลาร์อ่อนค่า ทดสอบระดับ 34.83 ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่วันที่ 10 สิงหาคม นักลงทุนที่ไม่อยากแบกรับความเสี่ยงควรรอการเข้าซื้อเมื่อราคาทองคำอ่อนตัวลงมาในโซนแนวรับ
กลยุทธ์การลงทุน ทางวายแอลจีมีมุมมองว่า หากราคาทองคำขึ้นทดสอบแนวต้านที่ 1,333 ดอลลาร์ต่อออนซ์ หรือ 1,344 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ซึ่งนักลงทุนยังคงต้องระมัดระวังแรงขายทำกำไรเนื่องจากช่วงที่ผ่านมาเมื่อราคาทองคำมีการปรับตัวขึ้นเริ่มมีแรงขายทำกำไรออกมา นักลงทุนที่สะสมทองคำไว้อาจมีการขายทำกำไรบางส่วนออกมาบ้าง สำหรับการทำกำไร ให้ดูว่าราคาจะผ่านแนวต้านได้หรือไม่ ถ้าสามารถผ่านไปได้แนะนำให้ถือต่อเพื่อไปขายทำกำไรที่แนวต้านถัดไป และหากราคาทองคำมีการปรับตัวลดลงมาไม่หลุดแนวรับ แนะนำนักลงทุนสามารถเข้าซื้อเก็งกำไร ทั้งนี้ประเมินแนวรับไว้ที่ 1,313 ดอลลาร์ต่อออนซ์ โดยมีแนวรับถัดไปอยู่ที่ 1,300 ดอลลาร์ต่อออนซ์
ทองคำแท่ง (96.50%)
แนวรับ 1,313 (21,560บาท) 1,300 (21,350บาท) 1,293 (21,230บาท)
แนวต้าน 1,333 (21,890บาท) 1,344 (22,070บาท) 1,358 (22,310บาท)
GOLD FUTURES (GFV16)
แนวรับ 1,313 (21,730บาท) 1,300 (21,510บาท) 1,293 (21,400บาท)
แนวต้าน 1,333 (22,060บาท) 1,344 (22,240บาท) 1,358 (22,470บาท)
หากต้องการทราบทิศทางราคาทองคำและแนวทางลงทุนทองคำ ขอคำปรึกษาเพิ่มเติมจากทีมที่ปรึกษาการลงทุนด้านโกล์ดฟิวเจอร์ส โทร.02-687-9999