กรุงเทพฯ--8 ก.ย.--กลุ่มประชาสัมพันธ์ กระทรวงวัฒนธรรม
นายวีระ โรจน์พจนรัตน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม(รมว.วธ) เปิดเผยภายหลังประชุมติดตามความคืบหน้าการจัดทำปฏิทินกิจกรรม ประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2560 ว่า ตามที่ได้มอบหมายให้ทุกหน่วยงานในสังกัดกระทรวงวัฒนธรรม(วธ.) ร่วมกันจัดทำปฏิทินกิจกรรมวัฒนธรรม ในปีงบประมาณ 2560 ที่จะดำเนินงานในระดับท้องถิ่น ระดับชาติและนานาชาติ โดยวธ.แต่งตั้งคณะทำงานจัดทำปฏิทินกิจกรรมวัฒนธรรม ประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2560 เพื่อทำหน้าที่รวบรวม กลั่นกรอง วิเคราะห์ข้อมูลกิจกรรมของหน่วยงานในสังกัดวธ.ที่เกี่ยวข้อง เพื่อจัดทำปฏิทินกิจกรรมทางวัฒนธรรมและจัดพิมพ์เผยแพร่ประชาสัมพันธ์ปฏิทินดังกล่าวให้ประชาชนทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติได้รับทราบอย่างทั่วถึง
รมว.วธ กล่าวต่อว่า สำหรับหลักเกณฑ์การจัดทำและการคัดเลือกกิจกรรมทางวัฒนธรรม ทั้งส่วนกลางและส่วนภูมิภาคทั่วประเทศ ประกอบด้วย 1. กิจกรรมเกี่ยวกับวันสำคัญของสถาบันพระมหากษัตริย์2. กิจกรรมวันสำคัญทางศาสนา 3. กิจกรรมทางวัฒนธรรมที่เป็นภารกิจสำคัญของวธ. 4. งานประจำปีของจังหวัด อาทิ ประเพณีและเทศกาลที่สำคัญ 5. กิจกรรมในพื้นที่ทางวัฒนธรรมทั้งในส่วนกลางและส่วนภูมิภาค อาทิ โรงละครแห่งชาติ ศูนย์วัฒนธรรมแห่งประเทศไทย หอศิลปวัฒนธรรม ร่วมสมัยราชดำเนิน ศูนย์วัฒนธรรมอาเซียน หอภาพยนตร์ ศูนย์มานุษยวิทยาสิรินธร พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติทั่วประเทศ พื้นที่ทางวัฒนธรรมในส่วนภูมิภาค เป็นต้น ทั้งนี้ รายละเอียดของปฏิทินกิจกรรม จะประกอบด้วย ชื่อกิจกรรม วัน เดือน ปี สถานที่จัดกิจกรรมและข้อมูลเนื้อหาโดยย่อของแต่ละกิจกรรม ตลอด 12 เดือน กว่า 200 กิจกรรม อาทิ งานไหลเรือไฟ จ.นครพนม ประเพณีลอยกระทง จ.สุโขทัย ประเพณีวิ่งควาย จ.ชลบุรี ประเพณีแห่จาดเดือนสิบ จ.กระบี่ ประเพณีบวชนาคช้าง จ.สุรินทร์ งานสืบสานศิลป์ถิ่นโนรา จ.พัทลุง มหกรรมวัฒนธรรมรัตนโกสินทร์ กรุงเทพฯ เป็นต้น
รมว.วธ กล่าวอีกว่า อย่างไรก็ตาม เมื่อจัดทำข้อมูลเสร็จเรียบร้อยจะจัดทำเป็นรูปเล่มและเอกสารสำหรับเผยแพร่แจกจ่ายให้กับหน่วยงานและองค์กรต่าง ๆ รวมทั้งยังจัดทำข้อมูลในรูปแบบดิจิตอล เพื่อให้ประชาชนเข้าไปสืบค้นได้ เพื่อสร้างการมีส่วนร่วมของทุกภาคส่วนในการอนุรักษ์ สืบสานและสร้างสรรค์ศิลปวัฒนธรรม ส่งเสริมการท่องเที่ยวทางวัฒนธรรมและดึงดูดนักท่องเที่ยวไปร่วมกิจกรรมทางวัฒนธรรม ซึ่งจะเป็นการสร้างอาชีพ สร้างรายได้ให้แก่ศิลปินพื้นบ้าน ประชาชนและชุมชนท้องถิ่น รวมทั้งเป็นการ บูรณาการความร่วมมือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องให้มีความเข้มแข็งยิ่งขึ้น