กรุงเทพฯ--8 ก.ย.--พีอาร์ดีดี
สภาวะตลาดวันที่ 08 กันยายน 2559 ราคาทองคำแกว่งตัวในกรอบที่ระดับ 1,342.00-1,348.78 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ขณะที่ราคาทองคำแท่ง 96.5% ภายในประเทศขายออกอยู่ที่ 22,100 บาทต่อบาททองคำ โดยราคาไม่มีการเปลี่ยนแปลงจากวันก่อนหน้าที่ระดับ 22,100 บาทต่อบาททองคำ ขณะที่โกลด์ฟิวเจอร์ส GFV16 อยู่ที่ 22,250 บาท โดยราคาปรับตัวเพิ่มขึ้น 10 บาท จากวันก่อนหน้าที่ระดับ 22,240 บาท
(หมายเหตุ: ข้อมูลนี้จัดทำขึ้น ณ เวลา 16.06 น.ของวันที่ 08/09/16)
แนวโน้มวันที่ 09 กันยายน 2559
นายฮิโรชิ นากาโสะ รองผู้ว่าการธนาคารกลางญี่ปุ่น (บีโอเจ) แถลงแนวโน้มนโยบายการเงิน โดยส่งสัญญาณว่าบีโอเจจะไม่ตัดโอกาสในการปรับลดอัตราดอกเบี้ยลงสู่ระดับติดลบมากยิ่งขึ้นไปอีก และจะไม่ตัดโอกาสในการดำเนินมาตรการผ่อนคลายอื่นๆ เพื่อให้บรรลุเป้าหมายอัตราเงินเฟ้อด้วยการรักษาสมดุลที่เหมาะสมระหว่างผลของนโยบายต่างๆ กับผลเชิงลบที่อาจจะเกิดขึ้นต่อตัวกลางทางการเงิน โดยยืนยันว่าไม่มีความเป็นไปได้ที่บีโอเจจะเข้าซื้อพันธบัตรต่างชาติเพื่อกดดันเยนให้อ่อนค่าลง ถ้อยแถลงของรองผู้ว่าการบีโอเจมีความคล้ายคลึงกับถ้อยแถลงของผู้ว่าการบีโอเจในช่วงต้นสัปดาห์นี้ เพราะการชั่งน้ำหนักระหว่างข้อดีและข้อเสีย ปัจจัยดังกล่าวส่งผลให้ สกุลเงินเยนแข็งค่าขึ้นและกดดันให้ดัชนีดอลลาร์เมื่อเทียบกับตะกร้าสกุลเงินขยับลง ส่งผลบวกต่อราคาทองคำ โดยนักลงทุนหวังว่าหลังจากบีโอเจได้ผ่อนคลายนโยบายการเงินในเดือนกรกฎาคม ในการประชุมวันที่ 20-21 กันยายนนี้ บีโอเจอาจจะขยายมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่มอีกครั้งในการประชุมในเดือนนี้ อย่างไรก็ตาม การขยับขึ้นของราคาทองคำยังคงถูกกดดันจาก มีสัญญาณบ่งชี้ถึงความเชื่อมั่นในตลาดแรงงานสหรัฐ เมื่อกระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยผลสำรวจการเปิดรับสมัครงานและการออกจากงาน หรือ JOLTS ในเดือนกรกฎาคม เพิ่มสูงขึ้นในระดับสูงสุดนับตั้งแต่เริ่มมีการจัดทำตัวเลขนี้ในเดือนธันวาคม ปี 2543 ซึ่ง ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะใช้ข้อมูลดังกล่าวมาเป็นเงื่อนไขในการพิจารณาปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย ในการประชุมนโยบายในวันที่ 20-21 กันยายน เบื้องต้นวายแอลจีประเมินว่าหากราคาทองคำได้ดีดตัวขึ้นทดสอบแนวต้านบริเวณ 1,335-1,333 ดอลลาร์ต่อออนซ์ แต่ไม่สามารถผ่านไปได้ ทำให้ราคาทองคำมีแนวโน้มจะอ่อนตัวลงทดสอบแนวรับบริเวณ 1,335-1,333 ดอลลาร์ต่อออนซ์อีกครั้ง แต่หากสามารถผ่านไปได้ ราคาทองคำจะมีโอกาสขึ้นทดสอบแนวต้านถัดไป
กลยุทธ์การลงทุน แนะนำให้ลงทุนระยะสั้นโดยรอซื้อเมื่อราคาย่อตัวลงไปบริเวณแนวรับที่ 1,335-1,333 ดอลลาร์ต่อออนซ์ และให้ขายทำกำไรเมื่อราคาดีดตัวขึ้น โดยราคาทองคำระยะสั้นมีการแกว่งตัวแบบ Sideway โดยมีการทรงตัวรักษาระดับไว้ น่าจะพอทำให้ในระยะสั้นนี้ราคาจะเคลื่อนไหวในกรอบ โดยหากราคาทองคำไม่สามารถยืนเหนือแนวต้านได้อย่างแข็งแกร่ง นักลงทุนยังต้องระมัดระวังแรงขายทางเทคนิคและนักลงทุนควรตั้งจุดตัดขาดทุนหากราคาหลุดบริเวณแนวรับ เพื่อลดความเสียหายของพอร์ทการลงทุน ในขณะที่นักลงทุนที่มีทองคำในมือ ให้ขายทำกำไรเมื่อราคาดีดตัวหรือบริเวณแนวต้าน 1,358 หรือ 1,367ดอลลาร์ต่อออนซ์ แล้วรอไปซื้อคืนบริเวณแนวรับสำคัญ
ทองคำแท่ง (96.50%)
แนวรับ 1,333 (21,850บาท) 1,324 (21,700บาท) 1,313 (21,890บาท)
แนวต้าน 1,358 (22,260บาท) 1,367 (22,410บาท) 1,375 (22,540บาท)
GOLD FUTURES (GFV16)
แนวรับ 1,333 (22,000บาท) 1,324 (21,850บาท) 1,313 (21,730บาท)
แนวต้าน 1,358 (22,410บาท) 1,367 (22,560บาท) 1,375 (22,690บาท)
หากต้องการทราบทิศทางราคาทองคำและแนวทางลงทุนทองคำ ขอคำปรึกษาเพิ่มเติมจากทีมที่ปรึกษาการลงทุนด้านโกล์ดฟิวเจอร์ส โทร.02-687-9999