“GBS” จับตาเฟดเคาะขึ้นดอกเบี้ย 20-21 ก.ย.นี้หรือไม่ ให้กรอบดัชนี 1,420 - 1,460 จุด-แนะเก็งกำไร THAI-AAV-BA-ILINK-ARROW

ข่าวหุ้น-การเงิน Wednesday September 14, 2016 10:41 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--14 ก.ย.--มีเดีย แพลนเนอร์ คอนซัลแทนท์ บล.โกลเบล็ก มองหุ้นไทยเจอแรงกดดันเฟดประชุมวันที่ 20 – 21 ก.ย. หาบทสรุปขึ้นอัตราดอกเบี้ยหรือไม่ ให้กรอบดัชนี 1,420 - 1,460 จุด แนะเก็งกำไร THAI-AAV -BA รับอานิสงส์ กพท.ตรวจรับรอง 25 การบินลั่น 4 เดือนตรวจเสร็จลุ้นต้นปี60 ยื่นขอ ICAO ตรวจมาตรฐานอีกรอบ และหุ้นที่ได้ประโยชน์จาก กฟน.เร่งเครื่องโครงการเปลี่ยนสายไฟฟ้าอากาศเป็นสายไฟฟ้าใต้ดิน ชู ILINK- ARROW ด้านราคาทองคำลงต่อ หลังธนาคารกลางยุโรปไม่ลดดอกเบี้ย และไม่ต่อเวลา QE โดยมีแนวรับ 1,305-1,300 เหรียญต่อทรอยออนซ์ และแนวต้าน 1,355-1,360 เหรียญต่อทรอยออนซ์ น.ส.วิลาสินี บุญมาสูงทรง ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์ บริษัทหลักทรัพย์ โกลเบล็ก จำกัด หรือ GBS ประเมินทิศทางตลาดหุ้นไทยได้รับปัจจัยบวกจากกระแสเงินทุนจากต่างชาติเป็นหลักตั้งแต่ต้นเดือนก.ย. นักลงทุนต่างชาติซื้อสุทธิตลาดหุ้นไทยกว่า 1.1 หมื่นล้านบาท ขณะที่ปัจจัยบวกภายในประเทศมาจากมาตรการภาครัฐที่ออกมาอย่างต่อเนื่องเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ เห็นได้จากที่ประชุมคณะรัฐมนตรีเห็นชอบแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติฉบับที่ 12 (พ.ศ.2560 - 2564) เริ่มใช้ 1 ต.ค.59 ตั้งเป้า GDP โตเฉลี่ยกว่า 5% ต่อปี และมติอนุมัติให้ขยายระยะเวลาการปรับลดอัตราภาษีมูลค่าเพิ่ม (VAT) จาก 10% เป็น 7% ต่อไปอีก 1 ปี จากเดิมที่จะสิ้นสุดในวันที่ 30 ก.ย.นี้ รวมถึงเงินลงทุนในกองทุนรวมหุ้นระยะยาว (LTF) หลังดัชนี SET ปรับลดลงลึกเข้ามาช่วยพยุงตลาด อย่างไรก็ตาม มีความไม่แน่นอนจากผลการประชุมธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ในวันที่ 20 – 21 ก.ย.นี้ว่าจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยหรือไม่ ทั้งนี้ความเห็นของเจ้าหน้าที่เฟดต่อการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยมีทั้งฝ่ายที่สนับสนุนและคัดค้าน รวมทั้งเสนอความเห็นว่าเฟดควรหารือกันอย่างจริงจังต่อสภาวะเศรษฐกิจในปัจจุบัน นอกจากนี้ยังคงต้องจับตาในวันที่ 14 ก.ย. มีการประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) ครั้งที่ 6/2559 คาดว่าน่าจะมีมติคงอัตราดอกเบี้ยที่ระดับเดิมเพื่อสนับสนุนการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ ส่วนธนาคารแห่งประเทศไทยคาดว่าจะมีการปรับประมาณการตัวเลข GDP ใหม่หลัง GDP ไตรมาส 2/2559 ที่ 3.5% ดีกว่าคาด ส่วนวันที่ 15 ก.ย. กำหนดประชุมธนาคารกลางอังกฤษ (BOE) โพลล์คาดคงอัตราดอกเบี้ย วันที่ 20 – 21 ก.ย. กำหนดประชุมธนาคารกลางสหรัฐ และในวันที่ 26– 28 ก.ย. กลุ่มโอเปกเตรียมจัดการประชุมอย่างไม่เป็นทางการเพื่อหารือวิธีสร้างเสถียรภาพในตลาดน้ำมัน ด้านนายชัยยศ จิวางกูร ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์ บล.โกลเบล็ก ประเมินกลยุทธ์การลงทุนใน SET ว่าตลาดหุ้นทั่วโลกรวมถึงไทยยังคงมีแรงกดดันและผันผวนสูง จากประเด็นการประชุม FOMC ในวันที่ 20 – 21 ก.ย. ว่าจะมีการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยหรือไม่ อย่างไรก็ตามคาดว่าการประชุมอย่างไม่เป็นทางการของกลุ่มผู้ผลิตน้ำมันในวันที่ 26 – 28 ก.ย. น่าจะเป็นบวกต่อราคาน้ำมันรวมถึงกลุ่มพลังงาน ประกอบกับแรงซื้อเก็งกำไรตามสัญญาณเทคนิค Oversold ของดัชนีน่าจะช่วยหนุนต่อภาวะการลงทุนในสัปดาห์นี้ ดังนั้นประเมินว่า SET แกว่งตัวในกรอบ 1,420 - 1,460 จุด ทั้งนี้แนะนำซื้อเก็งกำไรในกลุ่มที่มีปัจจัยบวก ได้แก่ THAI, AAV และBA ที่ได้รับผลดีเชิงบวกด้านจิตวิทยาจากการที่สำนักงานการบินพลเรือนแห่งประเทศไทย (กพท.) เร่งตรวจรับรอง 25 สายการบิน ซึ่งคาดว่าจะใช้เวลาราว 4 เดือน ลุ้นต้นปี 60 ยื่นขอ ICAOตรวจมาตรฐานอีกรอบ รวมถึงหุ้นที่ได้ประโยชน์จากการที่การไฟฟ้านครหลวง (กฟน.) เร่งเครื่องโครงการเปลี่ยนสายไฟฟ้าอากาศเป็นสายไฟฟ้าใต้ดิน วงเงิน 6.3 หมื่นล้านบาท เปิดฉากประมูลในเดือนต.ค. ได้แก่ ILINK และARROW สำหรับแนวทางการลงทุนในทองคำ นายสุทธิพงษ์ ศรีพรประเสริฐ นักวิเคราะห์การลงทุน บล.โกลเบล็ก เปิดเผยว่า ราคาทองคำปรับลงในช่วงท้ายของสัปดาห์ที่ผ่านมา จากแรงกดดันธนาคารกลางยุโรป (ECB) ไม่ได้ปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบาย และไม่มีการขยายช่วงเวลาในการซื้อพันธบัตรตามมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ (QE) ประกอบกับความกังวลว่าเฟดอาจปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในการประชุมวันที่ 20-21 ก.ย.นี้ หลังเจ้าหน้าที่ระดับสูงของเฟดหลายรายได้ออกมาแสดงความเห็นในเรื่องนี้ โดยประธานเฟด สาขาบอสตันกล่าวเตือนว่าเฟดเผชิญความเสี่ยงมากขึ้นหากชะลอการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนานเกินไป ขณะที่ประธานเฟด สาขาดัลลัส เผยปัจจัยที่สนับสนุนให้เฟดปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยกำลังมีน้ำหนักมากขึ้นในช่วงหลายเดือนที่ผ่านมา ด้านนายแดเนียล ทารูลโล หนึ่งในผู้ว่าการเฟด กล่าวว่าเขาไม่ปฏิเสธความเป็นไปได้ที่เฟดอาจปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 1 ครั้งในปีนี้ รวมถึงประธานเฟดสาขาแอตแลนตาเห็นว่าเฟดควรทำการหารืออย่างจริงจังในการประชุมวันที่ 20-21 ก.ย.นี้เกี่ยวกับการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย อย่างไรก็ตามถึงแม้ว่าตลาดจะคลายกังวลลงบ้างต่อแนวโน้มการปรับขึ้นดอกเบี้ยของเฟดหลังนางลาเอล เบรนนาร์ด หนึ่งในคณะผู้ว่าการเฟดได้แนะนำให้เฟดดำเนินนโยบายผ่อนคลายทางการเงินต่อไปถึงแม้ว่าเศรษฐกิจสหรัฐยังคงมีการฟื้นตัว แต่ความเห็นของเจ้าหน้าที่ระดับสูงส่วนใหญ่ที่มองว่าเฟดควรปรับขึ้นดอกเบี้ยจะยังเป็นแรงกดดันต่อทิศทางของราคาทองคำ สำหรับแนวโน้มราคาทองโลกด้านเทคนิค ราคาทองปรับลงต่ำกว่าแนวรับเส้นค่าเฉลี่ย 5 วัน ด้วยการต่อยอดขาลงแท่งเทียนสัญญาณลบที่หลุดฐานแนวรับไหล่ขวา ประกอบกับค่าสัญญาณทางเทคนิคที่เป็นลบ แม้ระยะสั้นจะมีการฟื้นตัวขึ้นมาบ้างแต่ยังมีแรงกดดันจากแนวพักตัวลง ทำให้ดัชนีแนวโน้มปรับขึ้นช่วงสั้นเท่านั้นก่อนปรับลงต่อ โดยมีแนวรับ 1,305-1,300 เหรียญต่อทรอยออนซ์ และแนวต้าน 1,355-1,360 เหรียญต่อทรอยออนซ์

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ