กทม.เผย ซอยรามคำแหง 24, 39 และซอยลาดพร้าว 103-105 ถึงแยกบางกะปิ รอดพ้นภาวะน้ำท่วมขังแล้ว

ข่าวทั่วไป Wednesday July 5, 2000 13:53 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--5 ก.ค.--กทม.
ดร.พิจิตต รัตตกุล รักษาการในตำแหน่งผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร พร้อมด้วยทีมงานระบายน้ำ จากสำนักการระบายน้ำ กทม. ได้ออกตรวจความพร้อมในการป้องกันและแก้ไขปัญหาน้ำท่วมบริเวณถนนรามคำแหง ซอย 24 และซอย 39 และบริเวณถนนลาดพร้าว ช่วงจากคลองยายเผื่อนถึงแยกบางกะปิ
รักษาการในตำแหน่งผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานครเปิดเผยว่า ถนนรามคำแหงบริเวณซอย 24 ไปทางมหาวิทยาลัยเอแบค และซอย 39 (ซอยวัดเทพลีลา) รวมถนนลาดพร้าว ช่วงตั้งแต่ซอย 103-105 หน้าห้างฯแมคโคร เดอะมอลล์ ไปถึงสี่แยกบางกะปิ และศูนย์การค้าแฮ้ปปี้แลนด์ จัดเป็นพื้นที่ 1 ใน 6 กลุ่มอันตรายที่น่าเป็นห่วงเรื่องน้ำท่วม เพราะบริเวณดังกล่าวเป็นพื้นที่ลุ่มต่ำจะมีปัญหามาก ที่ผ่านมาเมื่อมีฝนตกประมาณ 30 มม./ชม. ก็จะเกิดปัญหาน้ำท่วมขังและแห้งช้า อย่างไรก็ดีขณะนี้ได้รับการแก้ไขให้พร้อมรับปัญหาน้ำท่วมได้ในระดับที่น่าพอใจ โดยทางสำนักการระบายน้ำได้ดำเนินการสร้างท่อลอด (ขนาดเส้นผ่าศูนย์กลาง 70 ซม.) ที่ถนนรามคำแหงบริเวณปากซอย 24 ให้ทะลุมาฝั่งตรงข้ามได้สะดวก และสร้างท่อลอดซอย 39 อีก 2 แนว พร้อมติดตั้งเครื่องสูบน้ำขนาดใหญ่กำลังสูบ 4 ลบ.ม./วินาที ซึ่งนับเป็นครั้งแรกที่ติดตั้งเครื่องสูบน้ำขนาดใหญ่ที่บริเวณนี้ เนื่องจากเพิ่งก่อสร้างเขื่อนริมคลองแสนแสบเสร็จเมื่อปีที่แล้ว ทำให้สามารถดันน้ำลงเขื่อนได้ แต่หากยังไม่มีเขื่อนเมื่อสูบน้ำออกจากจุดที่ท่วม น้ำก็จะเทลงคลองแสนแสบซึ่งมีระดับน้ำสูงและจะวกกลับขึ้นมาท่วมใหม่อีก นอกจากนี้กทม. ยังได้รับความร่วมมือจากมหาวิทยาลัยรามคำแหง ซึ่งมีแก้มลิงในมหาวิทยาลัยช่วยกักเก็บน้ำไว้ก่อน จนกว่าน้ำในถนนแห้งจึงระบายน้ำออกจากแก้มลิง ทั้งนี้จะช่วยเพิ่มความมั่นใจได้ว่าถนนรามคำแหงจะปลอดภัยจากปัญหาน้ำท่วมมากขึ้น
ส่วนบริเวณถนนลาดพร้าวนั้น สำนักการระบายน้ำได้แก้ปัญหาโดยทำเป็นพื้นที่ปิดล้อม เพิ่มกำลังสูบน้ำที่คลองยายเผื่อน จากกำลังสูบเดิม 4 ลบ.ม./วินาที เป็น 6.5 ลบ.ม./วินาที รวมทั้งเพิ่มกำลังสูบน้ำที่ประตูระบายน้ำคลองตาหนัง จากเดิม 2 ลบ.ม./วินาที เป็น 4 ลบ.ม./วินาที ซึ่งสามารถรองรับปริมาณน้ำฝนที่ตกลงมาได้ 60-70 มม./ชั่วโมงได้ อย่างไรก็ตามรักษาการในตำแหน่งผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ระบุว่าจุดดังกล่าวนี้ยังน่าเป็นห่วงอยู่ เนื่องจากขณะนี้เขื่อนในคลองตาหนังและคลองยายเผื่อนยังไม่เสร็จตลอดแนวในบางส่วน เมื่อสูบน้ำลงคลองจึงยังมีโอกาสที่น้ำจะเอ่อล้นจากคลองกลับมาท่วมได้อีก ทั้งนี้เขื่อนริมคลองดังกล่าวนั้นขณะนี้มีการระงับการก่อสร้างไว้ชั่วคราว เนื่องจากอยู่ในช่วงฝนตกชุกเกรงจะเป็นอุปสรรคกีดขวางการระบายน้ำ ต้องรอให้พ้นหน้าฝนนี้จึงเริ่มก่อสร้างต่อ
รักษาการในตำแหน่งผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร กล่าวด้วยว่า ขณะนี้ประชาชนมั่นใจได้ว่า หากมีฝนตกลงมาไม่เกิน 60-70 มม./ชม. น้ำบริเวณถนนรามคำแหงซอย 24 และซอย 39 รวมทั้งถนนลาดพร้าวจากช่วงคลองยายเผื่อน ถึงแยกบางกะปิ จะแห้งได้อย่างรวดเร็ว แต่ถ้าตกหนักกว่า 60-70 มม./ชม. ถึงขั้นที่เรียกว่า “ฟ้ารั่ว” ก็สามารถระบายน้ำออกจากพื้นที่ได้ภายใน 60-90 นาที จากเดิมที่ใช้เวลามากกว่า 3 ชั่วโมง--จบ--
-นศ-

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ