เอสซีจี ผนึกภาคี สานฝันเยาวชนอาชีวะ ในโครงการ 'ทวิภาคี ดีวีอี แคเรียช้อยส์’ เสริมแกร่งหลักสูตร พร้อมมอบทุนเรียนต่อรวมกว่า 9 ล้านบาท

ข่าวทั่วไป Thursday September 29, 2016 09:38 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--29 ก.ย.--เอสซีจี เพราะเยาวชนอาชีวะถือเป็นกลไกสำคัญในการขับเคลื่อนประเทศ น้องๆ เหล่านี้จึงจำเป็นต้องได้รับการพัฒนาในทุกมิติที่ตอบความต้องการของตลาดแรงงาน เพื่อให้พวกเขามีความรู้ความสามารถที่เต็มเปี่ยม พร้อมเติบโตเข้าสู่การเป็นฝีมือชนคุณภาพในอนาคต เอสซีจี จึงได้ต่อยอดโครงการ 'โฮมโซลูชั่น แคเรียช้อยส์' ที่ดำเนินการมาตั้งแต่ปี 2553 ด้วยการบูรณาการงานสร้างบุคลากรสายอาชีพตามนโยบายของรัฐบาล ร่วมกับพาร์ทเนอร์สำคัญอย่างฤทธา ช.การช่าง และบริษัททางด่วนและรถไฟฟ้ากรุงเทพ พร้อมบริษัทในเครืออย่างสยามมอร์ตาร์ CPAC และเอสซีจี บิลดิ้งเทค เปิดตัวและมอบทุนการศึกษาในโครงการ 'ทวิภาคี ดีวีอี แคเรียช้อยส์' (Dual Vocational Education Career Choices) จำนวนทั้งสิ้น 9,408,000 บาท ให้กับนักศึกษาชั้น ปวส. สาขาวิชาการก่อสร้าง วิทยาลัยเทคนิคสระบุรี 48 คน ในปีการศึกษา 2559 - 2560 โดยดำเนินการในระบบการศึกษาแบบทวิภาคี ซึ่งเน้นการเรียนภาคทฤษฎีในสถานศึกษา ควบคู่กับการเรียนรู้งานจริงผ่านการปฏิบัติในสถานประกอบการ เพื่อผลิตบุคลากรที่มีศักยภาพสูงด้านการก่อสร้างมารองรับความต้องการของอุตสาหกรรม ในการนี้ รุ่งโรจน์ รังสิโยภาส กรรมการผู้จัดการใหญ่ เอสซีจี ได้กล่าวถึงวัตถุประสงค์ของโครงการว่า เอสซีจีมีความยินดีที่ได้มีส่วนช่วยสนับสนุนการผลิตแรงงานที่มีคุณภาพให้กับประเทศ ทั้งการเป็นหนึ่งในคณะทำงานด้านการยกระดับคุณภาพวิชาชีพ ที่จัดตั้งโดยคณะกรรมการสานพลังประชารัฐ ตลอดจนการดำเนินโครงการต่างๆ ของเอสซีจีตลอดระยะเวลากว่า 10 ปีที่ผ่านมา ไม่ว่าจะเป็นโครงการต้นแบบการผลิตช่างเทคนิคเพื่ออุตสาหกรรม หรือเอสซีจี โมเดล สคูล และโครงการเสริมสร้างสมรรถนะทางอาชีพเพื่อรองรับการขยายตัวของธุรกิจแบบทวิภาคี หรือโฮมโซลูชั่น แคเรียช้อยส์ ที่ได้รับการพัฒนาให้ก้าวไปอีกขั้นเป็นโครงการ 'ทวิภาคี ดีวีอี แคเรียช้อยส์' ในวันนี้ ซึ่งโครงการนี้จะเกิดขึ้นไม่ได้ หากไม่ได้รับการสนับสนุนจากทุกภาคส่วนที่ต่างเล็งเห็นความสำคัญในการพัฒนาศักยภาพบุคลากรด้านอาชีวศึกษาให้สอดคล้องกับความต้องการของประเทศ ซึ่งนอกเหนือจากทุนการศึกษาที่ภาคีได้ช่วยกันสนับสนุนแล้ว ยังช่วยออกแบบหลักสูตรที่เหมาะสมกับการทำงานจริงในอนาคตให้กับผู้เรียนด้วย ด้าน นิธิ ภัทรโชค Vice President-Domestic Market บริษัท เอสซีจี ซีเมนต์-ผลิตภัณฑ์ก่อสร้าง จำกัด กล่าวเสริมว่า โครงการ 'ทวิภาคี ดีวีอี แคเรียช้อยส์' เป็นการบูรณาการความร่วมมือจากทางภาครัฐผ่านคณะทำงานสานพลังประชารัฐ ด้านการยกระดับคุณภาพวิชาชีพ ร่วมกับสำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา ผ่านวิทยาลัยเทคนิคสระบุรี และภาคีภาคเอกชน เพื่อร่วมกันยกระดับความรู้สาขาวิชาการก่อสร้าง และพัฒนาฝีมือชน คนสร้างชาติต่อไป "นอกจากภาคเอกชนจะมีโอกาสได้เข้ามาร่วมออกแบบหลักสูตรวิชาเรียนเพื่อพัฒนากำลังพลในอนาคตตามความต้องการของตนแล้ว ยังเป็นการเปิดโอกาสให้น้องๆ จากวิทยาลัยเทคนิคสระบุรีกลุ่มนี้ ได้เข้ามาเก็บเกี่ยวประสบการณ์การทำงานจริงในบริษัทผู้ให้ทุนการศึกษา ที่สำคัญยังเปิดโอกาสให้นักศึกษาที่สำเร็จการศึกษาจากโครงการมีโอกาสเข้าสัมภาษณ์งานกับบริษัทผู้ให้ทุน ซึ่งถือเป็นการการันตีหน้าที่การงานในอนาคต" นิธิกล่าว ผลสัมฤทธิ์ 5 รุ่น การันตีมีงานทำ 100% จากปี 2553 จนถึงปีการศึกษาล่าสุด มีนักศึกษาสำเร็จการศึกษาในโครงการ 'โฮมโซลูชั่น แคเรียช้อยส์' แล้วจำนวน 5 รุ่น ขณะที่รุ่นที่ 6 กำลังอยู่ระหว่างการศึกษาชั้น ปวส. ปีที่ 2 ในฐานะผู้ที่เฝ้ามองความสำเร็จ ศุภชัย จันทรเกตุ รองผู้อำนวยการวิทยาลัยเทคนิคสระบุรี กล่าวชื่นชมโครงการนี้ว่าเป็นโครงการที่ประสบผลสัมฤทธิ์ด้วยดี โดยวิทยาลัยเทคนิคสระบุรีเข้าร่วมโครงการตั้งแต่ปี 2554 ซึ่งถือเป็นรุ่นที่ 2 และได้รับโอกาสต่อเนื่องเรื่อยมาจนถึงปีการศึกษาล่าสุด "ตั้งแต่รุ่นที่ 1 ถึงรุ่นที่ 5 มีนักเรียนที่สำเร็จการศึกษาจากโครงการนี้ 182 คน ทั้งหมดได้ผ่านการคัดเลือกเข้าทำงานกับบริษัทในเครือเอสซีจีทุกคน ซึ่งผมก็หวังให้เอสซีจีทำโครงการดีๆ แบบนี้ต่อไป จนปีนี้เอสซีจีก็ตอบความคาดหวังด้วยโครงการต่อยอดอย่าง 'ทวิภาคี ดีวีอี แคเรียช้อยส์' ซึ่งตลอดหลายปี ที่ผ่านมานักเรียนของวิทยาลัยเทคนิคสระบุรีมีความตื่นตัวมาก เพราะได้เห็นเด็กอาชีวะรุ่นพี่ที่จบออกไปมีงานทำ นำความสุขสู่สังคม เป็นคนดีของสถาบันครอบครัว ชาติ ศาสนา และพระมหากษัตริย์" รองผู้อำนวยการวิทยาลัยเทคนิคสระบุรีกล่าว 'Learning by Doing' ความลงตัวที่สอดคล้อง ชาวอาชีวะมีภารกิจหลักในการผลิตกำลังคนสายอาชีพให้มีคุณภาพและมาตรฐาน ยิ่งตอนนี้ประเทศไทยก้าวเข้าสู่ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน ยิ่งต้องมั่นใจให้ได้ว่า บุคลากรที่สำเร็จออกจากรั้วสถานศึกษาต้องมีคุณภาพจริง โดย วณิชย์ อ่วมศรี รองเลขาธิการคณะกรรมการอาชีวศึกษา กล่าวว่า เป็นที่น่ายินดีที่ได้เห็นภาคเอกชนเข้ามามีบทบาทสำคัญในการร่วมพัฒนากำลังคนภาคอาชีวะ ผ่านการสร้างโอกาส ด้วยการมอบทั้งทุนการศึกษา เบี้ยเลี้ยงระหว่างการฝึกงาน ตลอดจนค่าใช้จ่ายอีกหลากหลายรายการ สำคัญที่สุดคือการรับนักศึกษาเข้าทำงานหลังสำเร็จการศึกษา จึงถือเป็นโครงการที่สร้างประโยชน์ให้กับประเทศอย่างแท้จริง "โครงการนี้ทำให้ชาวอาชีวะมีโอกาสที่ดี มองภาพอนาคตได้ชัดเจนยิ่งขึ้น จากคำว่าช่างก่อสร้างในสภาพสังคมปัจจุบัน ที่พ่อแม่หรือแม้แต่นักเรียนเองก็ไม่นิยมเข้าเรียน ด้วยเกรงว่าจะไม่มีงานทำ หรือต้องทำงานหนักเป็นกรรมกร แต่ภายใต้การนำของเอสซีจีที่จัดทำโครงการนี้ขึ้นมา ก็ได้ช่วยปรับภาพลักษณ์ของอาชีวะ ตลอดจนแนวคิดของคนทั่วไปว่าการเรียนช่างก่อสร้างไม่ใช่กรรมกรอีกต่อไป เพราะนักศึกษามีโอกาสและทางเลือกมากมายรองรับอยู่" รองเลขาธิการคณะกรรมการอาชีวศึกษากล่าว นอกจากนี้ รองเลขาธิการคณะกรรมการอาชีวศึกษา ยังกล่าวเพิ่มเติมว่า การทำงานร่วมกันนี้จะสามารถสร้างบุคลากรที่มีคุณภาพ ตลอดจนศักยภาพที่พร้อมสู่การแข่งขันในระดับนานาชาติ ด้วยการปรับการเรียนการสอนให้ครอบคลุม เน้นการลงมือปฏิบัติจริง หรือ 'Learning by Doing' ที่ตรงกับความต้องการของสถานประกอบการ จึงเชื่อได้ว่านักเรียนที่จบไปจะพร้อมทำงานได้ทันที "นี่เป็นการทำงานระดับชาติที่ทั้งภาครัฐ สถานศึกษา และผู้ประกอบการมาวางแผนร่วมกัน ทำให้สิ่งที่ขาดตกบกพร่องได้รับการเติมเต็ม จากเดิมที่สถานศึกษาไม่รู้ว่าสถานประกอบการต้องการบุคลากรแบบใด มาวันนี้ทำให้สถานศึกษารู้ว่าต้องสร้างคนไปในทิศทางไหน หรือควรสอนอย่างไรเพื่อให้นักเรียนมีคุณภาพ ซึ่งการดำเนินการดังกล่าวนี้ยังตรงกับนโยบายของรัฐบาลที่ต้องการบุคลากรที่มีศักยภาพเพื่อยกระดับประเทศชาติต่อไป" รองเลขาธิการคณะกรรมการอาชีวศึกษากล่าวทิ้งท้าย ต้นกล้าใหม่ ภายใต้ 'ทวิภาคี ดีวีอี แคเรียช้อยส์' เมื่อถามถึงที่มาและความตั้งใจของเหล่าต้นกล้าใหม่ที่ได้เข้าร่วมโครงการ 'ทวิภาคี ดีวีอี แคเรียช้อยส์' ในครั้งนี้ บัญชร สงวนภักดิ์ นักศึกษา ปวส. ชั้นปีที่ 1 วิทยาลัยเทคนิคสระบุรี กล่าวว่า ตนเข้ามาร่วมในโครงการผ่านการแนะนำของอาจารย์ที่วิทยาลัย โดยได้รับทุนของบริษัท ฤทธา จำกัด เรียนในสาขาวิชาช่างก่อสร้าง "การเรียนการสอนในโครงการนี้จะเข้มข้นกว่าหลักสูตรปกติ เพราะมีวิชาเสริมเพิ่มเข้ามา ซึ่งผมมองว่าดี เพราะทำให้ความรู้แน่นขึ้น แล้วยังได้เข้าฝึกงานกับบริษัทชั้นนำด้วย ผมว่าถ้าโครงการนี้เปิดกว้างก็จะเป็นเรื่องดี เพราะสามารถเป็นแรงกระตุ้นให้เด็กอาชีวะหันมาสนใจใฝ่รู้มากขึ้น ซึ่งนอกจากทุนการศึกษาที่ได้รับแล้ว การเรียนตรงนี้ยังเป็นการการันตีอนาคตว่าเราจะมีงานทำที่มั่นคง เพื่อสร้างฐานะของตัวเองและเลี้ยงดูพ่อแม่ต่อไปได้" บัญชรกล่าว ด้าน อนาวิล บุญธรรม นักศึกษา ปวส. ชั้นปีที่ 1 วิทยาลัยเทคนิคสระบุรี กล่าวเพิ่มเติมว่า ตนได้เข้ามาร่วมในโครงการนี้ จากการที่เอสซีจีได้เข้าไปโรดโชว์ที่วิทยาลัยเทคนิคหาดใหญ่ เมื่อเห็นโครงการนี้มีอนาคต จากการสนับสนุนค่าใช้จ่ายทางการศึกษา ค่าแรงตอนฝึกงาน และโอกาสทำงานกับบริษัทชั้นนำเมื่อสำเร็จการศึกษา จึงสนใจเข้าร่วม "แค่เพียงผมได้รับการคัดเลือกให้เข้าโครงการนี้ พ่อแม่ผมก็ดีใจแล้ว เพราะพวกท่านอยากให้ผมมีอนาคต มีงานที่ดีทำ ผมเองก็มีความตั้งใจจะสานฝันนี้ให้สำเร็จ เรียนให้จบ และเข้าทำงานกับบริษัทที่ให้ทุน เพื่อเลี้ยงดูพ่อแม่ต่อไป" อนาวิลกล่าว ขณะที่ วัชรินทร์ ธนันต์ชัยวลี นักศึกษา ปวส. ชั้นปีที่ 1 วิทยาลัยเทคนิคสระบุรี กล่าวว่า ตนเองเป็นต้นกล้าเก่าจากโครงการ 'โฮมโซลูชั่น แคเรียช้อยส์' ได้รับทุนจากเอสซีจีในการศึกษา ปวช. ระดับชั้นปีที่ 1 ถึงปีที่3 เมื่อใกล้สำเร็จการศึกษาและได้เห็นโครงการต่อยอดนี้ จึงได้สมัครสอบและได้รับการคัดเลือกรับทุนการศึกษาจากบริษัท ช.การช่าง จำกัด (มหาชน) "ผมเป็น 1 ใน 4 คนจากวิทยาลัยเทคนิคสระบุรีที่ได้ทุนต่อยอดในระดับชั้น ปวส. ซึ่งผมมองว่าโครงการนี้มีแต่ข้อดี ตั้งแต่หลักสูตรการเรียนการสอนที่ทางภาคเอกชนเข้ามาช่วยออกแบบ การต่อยอดในการฝึกงาน และท้ายที่สุดคือโอกาสในการทำงานกับบริษัทชั้นนำ ซึ่งผมตั้งใจด้านการเรียนตรงนี้มาตั้งแต่ชั้น ปวช. แล้ว การได้รับทุนอีกครั้งในระดับชั้น ปวส. ยิ่งเติมเต็มอนาคตของผม ซึ่งเมื่อสำเร็จการศึกษา ผมจะเข้าสู่เส้นทางการทำงาน และทำให้ดีที่สุด เพื่อเลี้ยงดูครอบครัวต่อไป" วัชรินทร์กล่าวทิ้งท้าย ทั้งหมดนี้จึงเป็นเครื่องยืนยันได้ว่าโครงการ 'ทวิภาคี ดีวีอี แคเรียช้อยส์' จะทำให้เกิดผลดีอย่างยิ่งต่อการพัฒนาวงการอุตสาหกรรมก่อสร้างของไทย ซึ่งส่งผลต่อเนื่องไปจนถึงความสามารถทางการแข่งขันของประเทศในภาพรวม และทำให้ทุกคนได้รับรู้ว่าเยาวชนไทยที่เติบโตในสายอาชีวะ ก็มีความสามารถและพร้อมทำสิ่งดีๆ ให้กับสังคมได้อย่างไม่แพ้ใครแน่นอน

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ