กรุงเทพฯ--12 ต.ค.--พีอาร์ดีดี
สภาวะตลาดวันที่ 12 ตุลาคม 2559 ราคาทองคำแกว่งตัวในกรอบที่ระดับ 1,252.10-1,257.90 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ขณะที่ราคาทองคำแท่ง 96.5% ภายในประเทศขายออกอยู่ที่ 21,250 บาทต่อบาททองคำ โดยราคาปรับตัวเพิ่มขึ้น 250 บาท จากวันก่อนหน้าที่ระดับ 21,100 บาทต่อบาททองคำ ขณะที่โกลด์ฟิวเจอร์ส GFV16 อยู่ที่ 21,400 บาท โดยราคาปรับตัวเพิ่มขึ้น 270 บาท จากวันก่อนหน้าที่ระดับ 21,130 บาท
(หมายเหตุ: ข้อมูลนี้จัดทำขึ้น ณ เวลา 16.15 น.ของวันที่ 12/10/16)
แนวโน้มวันที่ 13 ตุลาคม 2559
ดอลลาร์และผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐพุ่งขึ้นจากการคาดการณ์มากขึ้นเกี่ยวกับการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของสหรัฐในเดือนธันวาคม และบรรดาเทรดเดอร์คาดว่า มีโอกาส 70 % ที่ ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในการประชุมวันที่ 13-14 ธันวาคม โดยปรับขึ้นจากโอกาส 66 % ที่เคยคาดการณ์ไว้ ประเด็นดังกล่าวยังคงกดดันราคาทองคำและกระตุ้นให้นักลงทุนในตลาดทองคำติดตามตัวเลขกระทรวงแรงงานสหรัฐจะเปิดเผยจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ในวันพฤหัสบดีนี้ หลังจากจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ก่อนหน้า อยู่ที่ระดับต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนเมษายน และต่ำกว่า 300,000 ราย เป็นสัปดาห์ที่ 83 ติดต่อกัน ซึ่งยาวนานที่สุดนับตั้งแต่ปี 1970 การว่างงานที่ระดับต่ำ บ่งชี้ถึงภาวะตลาดแรงงานที่แข็งแกร่งของสหรัฐ และหนุนให้เฟดสามารถทำการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในปีนี้ ทั้งนี้ นักลงทุนกำลังจับตาปัจจัยการเมืองสหรัฐมากขึ้น ขณะที่ใกล้ถึงการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐในวันที่ 8 พฤศจิกายน โดยความวุ่นวายที่เกิดขึ้นกับพรรครีพับลิกันและนายโดนัลด์ ทรัมป์ ผู้สมัครของพรรคกำลังทำให้มีการคาดการณ์ว่า นางฮิลลารี คลินตัน ผู้สมัครจากพรรคเดโมแครตอาจจะชนะการเลือกตั้ง พร้อมกับพรรคเดโมแครตจะได้ที่นั่งจำนวนมากในสภาคองเกรส ซึ่งจะยิ่งกระตุ้นแรงซื้อสินทรัพย์เสี่ยงและลดความน่าสนใจในการลงทุนทองคำในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัย อย่างไรก็ตาม ราคาทองคำในประเทศได้รับแรงหนุนจากค่าเงินบาทที่อ่อนค่าต่อเนื่อง โดยแตะ 35.89 ต่ำสุดในรอบกว่า 8 เดือน หลังหุ้นไทยร่วงลงแรงช่วง 2 วันที่ผ่านมา เบื้องต้นวายแอลจีประเมินว่าราคาทองคำมีโอกาสค่อยๆขยับขึ้น ซึ่งหากราคาทองคำสามารถผ่านระดับ 1,265 ดอลลาร์ต่อออนซ์ไปได้ ราคาทองคำจะขยับตัวขึ้นไปทดสอบแนวต้านถัดไปในโซน 1,274 ดอลลาร์ต่อออนซ์ สำหรับแนวรับยังคงอยู่ในโซนเดิมคือ 1,250-1,245 ดอลลาร์ต่อออนซ์
กลยุทธ์การลงทุน วายแอลจีแนะนำนักลงทุนสามารถลงทุนระยะสั้นโดยเข้าซื้อหากราคาย่อตัวไม่หลุดแนวรับบริเวณ 1,250-1,245 ดอลลาร์ต่อออนซ์ โดยไม่แนะนำให้เข้าซื้อทั้งหมดบริเวณแนวรับใดแนวรับหนึ่ง ควรเหลือเงินทุนเพื่อซื้อเฉลี่ยหากราคาหลุดแนวรับแรกซึ่งราคาจะปรับตัวลงไปบริเวณแนวรับถัดไป และให้แบ่งขายทำกำไรเมื่อราคาดีดตัวขึ้นบริเวณแนวต้าน 1,265-1,274 ดอลลาร์ต่อออนซ์ หากไม่สามารถผ่านไปได้อาจเห็นการย่อตัวของราคาทองคำอีกครั้ง เบื้องต้นวายแอลจียังมองว่าราคาทองคำอาจมีโอกาสค่อยๆขยับขึ้น ซึ่งหากราคาทองคำสามารถผ่านระดับ 1,274 ดอลลาร์ต่อออนซ์ไปได้มีโอกาสทดสอบแนวต้านถัดไป
ทองคำแท่ง (96.50%)
แนวรับ 1,245 (21,030บาท) 1,228 (20,740บาท) 1,210 (20,430บาท)
แนวต้าน 1,265 (21,370บาท) 1,274 (21,520บาท) 1,283 (21,670บาท)
GOLD FUTURES (GFV16)
แนวรับ 1,245 (21,210บาท) 1,228 (20,920บาท) 1,210 (20,620บาท)
แนวต้าน 1,265 (21,550บาท) 1,274 (21,700บาท) 1,283 (21,860บาท)
หากต้องการทราบทิศทางราคาทองคำและแนวทางลงทุนทองคำ ขอคำปรึกษาเพิ่มเติมจากทีมที่ปรึกษาการลงทุนด้านโกล์ดฟิวเจอร์ส โทร.02-687-9999