กรุงเทพฯ--18 ต.ค.--พีอาร์ดีดี
สภาวะตลาดวันที่ 18 ตุลาคม 2559 ราคาทองคำแกว่งตัวในกรอบที่ระดับ 1,254.40-1,263.28 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ขณะที่ราคาทองคำแท่ง 96.5% ภายในประเทศขายออกอยู่ที่ 21,000 บาทต่อบาททองคำ โดยราคาไม่มีการเปลี่ยนแปลงจากวันก่อนหน้าที่ระดับ 21,000 บาทต่อบาททองคำ ขณะที่โกลด์ฟิวเจอร์ส GFV16 อยู่ที่ 21,070 บาท โดยราคาไม่มีการเปลี่ยนแปลงจากวันก่อนหน้าที่ระดับ 21,070 บาท
(หมายเหตุ: ข้อมูลนี้จัดทำขึ้น ณ เวลา 15.59 น.ของวันที่ 18/10/16)
แนวโน้มวันที่ 19 ตุลาคม 2559
ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) อาจจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในการประชุมวันที่ 13-14 ธันวาคม นักลงทุนพิจารณาแนวโน้มนโยบายการเงินของสหรัฐในระยะใกล้ หลังจากนายสแตนลีย์ ฟิชเชอร์ รองประธานธนาคารกลางสหรัฐ(เฟด) กล่าวว่า เสถียรภาพทางเศรษฐกิจอาจจะเผชิญภัยคุกคาม จากอัตราดอกเบี้ยที่ระดับต่ำ แต่การที่เฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยไม่ใช่เรื่องง่าย แม้ประเด็นดังกล่าวส่งผลให้นักลงทุนเพิ่มความระมัดระวังการซื้อขายทองคำ แต่ราคาทองคำได้รับแรงหนุน เมื่อเจ้าหน้าที่สภาทองคำโลก (WGC) กล่าวว่า อุปสงค์ทองในจีนจะยังคงอยู่ในระดับแข็งแกร่ง โดยอาจอยู่ที่ราว 900-1,000 ตันในปี 2017 ซึ่งใกล้เคียงกับระดับในปี 2015 อุปสงค์ทองคำที่แข็งแกร่งในจีนน่าจะช่วยหนุนราคาทองคำในตลาดโลกหลังจากราคาทองร่วงลงจากจุดสูงสุดในรอบ 2 ปีในช่วงนี้ สอดคล้องกับ กองทุน SPDR Gold Trust ซึ่งเป็นกองทุน ETF ทองคำที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในโลกเปิดเผยว่า สัดส่วนการถือครองทองคำของกองทุนเพิ่มขึ้นในสัปดาห์ที่ผ่านมาและกองทุนยังคงเพิ่มการถือครองคำอีกในช่วงต้นสัปดาห์นี้ ทั้งนี้ทองคำในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัยได้รับแรงหนุนเพิ่มเมื่อความกังวลต่อแนวโน้มเศรษฐกิจจีน เมื่อธนาคารพาณิชย์ของจีนปล่อยเงินกู้ใหม่สกุลเงินหยวนเป็นมูลค่าสุทธิ 1.22 ล้านล้านหยวนในเดือนกันยายน ซึ่งสูงกว่าที่คาดไว้ และเพิ่มขึ้นจากเดือนสิงหาคม ประกอบกับธนาคารกลางจีน (PBOC) ได้อัดฉีดเงิน 8 หมื่นล้านหยวน (1.19 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ) เข้าสู่ตลาดเงินเพิ่มเติม ทั้งนี้ ประเมินว่าหากราคาทดสอบแนวต้าน 1,265-1,276 ดอลลาร์ต่อออนซ์ หากไม่สามารถผ่านไปได้ราคาจะเกิดการอ่อนตัวลง แต่หากการอ่อนตัวของราคาทองคำยังคงสามารถยืนเหนือโซนบริเวณ 1,245-1,241 ดอลลาร์ต่อออนซ์ได้ โดยราคาทองคำยังมีโอกาสดีดตัวขึ้นอีกครั้ง ซึ่งการแกว่งตัวของราคาทองคำยังถือเป็นโอกาสให้นักลงทุนเข้าเก็งกำไรระยะสั้น
กลยุทธ์การลงทุน ทางวายแอลจีมีมุมมองว่า ราคาทองคำเคลื่อนไหวในลักษณะแกว่งตัวออกด้านข้าง นักลงทุนสามารถลงทุนระยะสั้นโดยเข้าซื้อหากราคาย่อตัวไม่หลุดแนวรับบริเวณ 1,245-1,241 ดอลลาร์ต่อออนซ์ โดยไม่แนะนำให้เข้าซื้อทั้งหมดบริเวณแนวรับใดแนวรับหนึ่ง ควรเหลือเงินทุนเพื่อซื้อเฉลี่ยหากราคาหลุดแนวรับแรกซึ่งราคาอาจจะปรับตัวลงไปบริเวณแนวรับถัดไป และให้ขายทำกำไรเมื่อราคาดีดตัวขึ้นบริเวณแนวต้าน 1,265-1,276 ดอลลาร์ต่อออนซ์ หากไม่สามารถผ่านไปได้อาจเห็นการย่อตัวของราคาทองคำอีกครั้ง เบื้องต้นวายแอลจียังมองว่าการลงทุนยังเน้นการลงทุนระยะสั้น เพราะแม้ว่าราคาทองคำจะดีดตัวขึ้นได้บ้าง ก็ยังคงมีแรงขายทองคำออกมาเช่นกัน ซึ่งนักลงทุนควรตั้งจุดตัดขาดทุนเพื่อควบคุมความเสี่ยง
ทองคำแท่ง (96.50%)
แนวรับ 1,241 (20,550บาท) 1,228 (20,330บาท) 1,213 (20,090บาท)
แนวต้าน 1,265 (20,950บาท) 1,276 (21,130บาท) 1,283 (21,250บาท)
GOLD FUTURES (GFV16)
แนวรับ 1,241 (20,720บาท) 1,228 (20,500บาท) 1,213 (20,250บาท)
แนวต้าน 1,265 (21,120บาท) 1,276 (21,300บาท) 1,283 (21,420บาท)
หากต้องการทราบทิศทางราคาทองคำและแนวทางลงทุนทองคำ ขอคำปรึกษาเพิ่มเติมจากทีมที่ปรึกษาการลงทุนด้านโกล์ดฟิวเจอร์ส โทร.02-687-9999