กรุงเทพฯ--15 ธ.ค.--กบข. กบข. กำหนดนโยบายปรับสัดส่วนสินทรัพย์และเพิ่มช่องทางการลงทุน เพื่อสร้างผลตอบแทนที่ดีแก่สมาชิก นายวิสิฐ ตันติสุนทร เลขาธิการคณะกรรมการ กบข. เปิดเผยว่า กบข. ให้ความสำคัญกับการจัดสัดส่วนการลงทุนอย่างต่อเนื่องสม่ำเสมอ ซึ่งจะทำให้ผลรวมของความเสี่ยงอยู่ในขอบเขต ที่ดีและสามารถสร้างผลประโยชน์เพิ่มเติมให้กับสมาชิกได้มากขึ้นกว่าการฝากเงินกับธนาคารเพียงอย่างเดียว ประกอบกับสภาวะเศรษฐกิจที่ขึ้นลงจึงต้องมีการปรับสัดส่วนการลงทุนให้สอดคล้องกับสภาวะเศรษฐกิจและสภาวะตลาดอยู่เสมอ เพื่อเป็นโอกาสในการสร้างผลตอบแทนจากการลงทุน ไม่ว่าเป็นการเลือกตราสารเพื่อลงทุนในพันธบัตรรัฐบาลและตราสารใหม่ๆ ที่เกิดขึ้น รวมทั้งมีการเพิ่มช่องทางในการลงทุนอื่นๆ เพิ่มเติม ไม่ว่าจะเป็นการลงทุนในตราสารทุน การลงทุนตราสารในต่างประเทศ การลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ ภายใต้ความเสี่ยงที่ยอมรับได้และการควบคุมอย่างใกล้ชิด โดยเชื่อว่าการจัดสัดส่วนการลงทุนอย่างต่อเนื่องสม่ำเสมอ จะทำให้ผลรวมของความเสี่ยงอยู่ในขอบเขตที่ดี และสมาชิกจะได้รับประโยชน์มากขึ้นกว่าการฝากเงินกับธนาคารเพียงอย่างเดียว ทั้งนี้ ปัจจุบัน ณ สิ้นไตรมาส 3 ประจำปี 2548 กบข.ได้กระจายสัดส่วนการลงทุนจากสินทรัพย์สุทธิจำนวนทั้งสิ้น 272,054 ล้านบาท ดังนี้ พันธบัตรรัฐบาล รัฐวิสาหกิจร้อยละ 31.03 ตราสารหนี้ร้อยละ 26.17 เงินฝากธนาคารและตราสารหนี้ที่ออกโดยธนาคารร้อยละ 20.52 ตราสารทุนร้อยละ 13.53 อสังหาริมทรัพย์และการลงทุนทางเลือกอื่นๆร้อยละ 4.03 รวมทั้งการลงทุนในตราสารหนี้ต่างประเทศอีกร้อยละ 3.76 และตราสารทุนต่างประเทศร้อยละ 0.96 อย่างไรก็ตาม กบข. ยังได้พยายามหาช่องทางลงทุนอื่นๆ ที่จะทำให้ผลตอบแทนจากการลงทุนเพิ่มขึ้น ตลอดเวลาที่ผ่านมา กบข. ได้มีการพัฒนาและการเปลี่ยนแปลงระบบการบริหารงานภายในองค์กรให้เท่าทันต่อการเปลี่ยนแปลงต่างๆ ที่เกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง เพื่อมุ่งมั่นให้ กบข. เป็นองค์กรที่มีการบริหารจัดการที่ดี ภายใต้กรอบนโยบายการลงทุนที่กำหนดโดยคณะอนุกรรมการจัดการลงทุนและคณะกรรมการ กบข. อย่างใกล้ชิด หากสมาชิกต้องการสอบถามข้อมูลใดๆ เพิ่มเติม เรื่องนโยบายการลงทุนสามารถติดตามได้จากรายงานประจำปี หรือที่เว็บไซต์ www.gpf.or.th ยุวพร นนท์ภาษโสภณ กองทุนบำเหน็จบำนาญข้าราชการ (กบข.) Government Pension Fund Tel. 02-636-1000 Ext.263 , 01-612-2322 Fax. 02-636-1691--จบ--