กรุงเทพฯ--7 ธ.ค.--ปตท.
นายพิชัย ชุณหวชิร ผู้จัดการใหญ่ ปตท.น้ำมัน รักษาการรองผู้ว่าการการเงินการบัญชีและองค์กรการปิโตรเลียมแห่งประเทศไทย (ปตท.) กล่าวว่า ในปี 2544 ปตท.มีแผนที่จะปรับโฉมระบบการค้าปลีกในสถานีบริการน้ำมันใหม่เพื่อเป็นการสร้างรายได้เข้าสถานีบริ- การน้ำมันด้วยการดำเนินแผนงานปรับปรุงร้านสะดวกซื้อ หรือ "ซี-สโตร์" ใหม่หมด
นอกจากนี้ ปตท.ยังมีแผนที่จะปรับกลยุทธ์ทางการตลาดใหม่ด้วยการให้ความสำคัญกับทำเลที่ตั้งของสถานีบริการน้ำมันมากขึ้น อาทิ สถานีบริการน้ำมันที่ตั้งอยู่ในเขตทางหลวง ปตท.จะทำการปรับปรุงให้เป็นระบบครบวงจร มีบริการที่ทันสมัย มีระบบเครือข่ายการสื่อสารที่สามารถดูแลได้และเข้าไปเสริมบริการทางด้านการบำรุงรักษารถยนต์, การสร้างให้สถานีบริการน้ำมันเป็นศูนย์กลางตลาด เช่น ในจังหวัดที่เป็นสถานที่ท่องเที่ยวก็จะมีสิ่งอำนวยความสะดวกให้กับนักท่องเที่ยว เช่น เสริมบริการให้เช่ารถยนต์ ซึ่งผู้เช่าสามารถเช่าจากจังหวัดหนึ่งแล้วไปคืนรถยนต์อีกจังหวัดหนึ่งได้ โดยการตลาดของสถานีบริการน้ำมัน ปตท.ทั้งหมดจะต้องปรับให้เข้ากับความต้องการของผู้บริโภค
"การปรับปรุงสถานีบริการน้ำมันของ ปตท.ในปีหน้าจะทยอยปรับ โดยในช่วงแรกจะทำการปรับปรุงสถานีบริการที่อยู่ในทำเลสำคัญก่อนประมาณ 50-70 แห่งจากจำนวนสถานีบริการทั้งหมดประมาณ 1,500 แห่ง โดยสถานีบริการส่วนใหญ่ของ ปตท.จะอยู่ในลักษณะของดีลเลอร์ นอกจากนี้ ปตท.ยังมีแผนที่จะนำระบบอี-คอมเมิร์ซเข้ามาใช้ในการบริการลูกค้าอีกด้วย โดยขณะนี้อยู่ระหว่างการจัดระบบการทำงาน เนื่องจาก ปตท. มองว่าระบบอี-คอมเมิร์ซจะเข้ามามีบทบาทกับผู้บริโภคในอีก 3-4 ปีข้างหน้า ประกอบกับในอนาคต ปตท.มีแผนที่จะรวมธุรกิจน้ำมันกับ ปตท.อินเตอร์เข้าด้วยกันเพื่อความสะดวกในการทำธุรกิจเพราะปัจจุบัน ปตท.ได้ตั้งเทรดดิ้งอย่างเป็นทางการที่สิงคโปร์แล้ว จากเดิมที่เป็นหน่วยงานหนึ่งที่ทำหน้าที่เป็นตัวแทนในการติดต่อซื้อขายเท่านั้น" นายพิชัยกล่าว
ส่วนการเพิ่มส่วนแบ่งทางการตลาดในการจำหน่ายน้ำมันของ ปตท. ในปี นายพิชัยกล่าวว่า ปตท.ไม่มีแผนที่จะเพิ่มส่วนแบ่งการตลาดน้ำมัน แต่จะใช้นโยบายปรับส่วนแบ่งการตลาดให้เหมาะสม ซึ่งอยู่ที่ประมาณ 5% และหันมาสร้างรายได้จากส่วนอื่น เช่น ซี-สโตร์ แทน--จบ--
-สส-