บริษัท "อลิสอินเตอร์'" นำเข้าไวน์จากโรมาเนียระบุเริ่มได้รับการยอมรับและเป็นที่รู้จักในตลาดเมืองไทย

ข่าวทั่วไป Tuesday December 19, 2000 09:23 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--19 ธ.ค.--ทูเดย์อินไทยแลนด์ดอทคอม
นายอำพล พันธุ์ประสิทธิ์ ประธานกรรมการ บริษัท อลิสอินเตอร์ จำกัด ผู้แทนจำหน่ายไวน์จากประเทศโรมาเนีย เปิดเผยว่า หลังจากที่บริษัทเริ่มทำตลาดไวน์จากประเทศโรมาเนียอย่างจริงจังมาประมาณ 1 ปี ปัจจุบันชื่อเสียงของ ไวน์จากโรมาเนียเริ่มได้รับการยอมรับและเป็นที่รู้จักในกลุ่มผู้นิยมดื่มไวน์มากขึ้น ขณะนี้ในแง่ของตัวเลข ยอดขายเฉลี่ยต่อเดือนอยู่ที่ประมาณ 4 ตู้คอนเทนเนอร์ (ตู้ละ 1,200 ขวด) เนื่องจากไวน์โรมาเนียเป็นไวน์โลกเก่าที่มีคุณภาพสูง รสชาติดี และที่สำคัญคือมีราคาถูกมากอย่างยิ่งเมื่อเทียบกันปีต่อปี คือราคาประมาณ 400 บาท/ขวด ประกอบกับปัจจุบันผู้บริโภคมีความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับเรื่องไวน์มากขึ้น เลือกซื้อไวน์เป็นขึ้น
เร็วๆ นี้บริษัทจะมีไวน์จากโรมาเนียอีกเข้ามาจำหน่ายเพิ่มอีกหลายตัว เช่น SAUVIGNON BLANC ปี 1998, CABERNET SAUVIGNON 1997 ทั้ง 2 ตัวนี้เป็น Special Reserve ฯลฯ จากปัจจุบันที่ทำตลาดอยู่ 12-14 ตัว และมียอดขายที่โดดเด่นอยู่ 4-5 ตัว นายอำพลให้รายละเอียดว่า ช่วงแรกที่ทำตลาดยอมรับว่าขายยากมาก เพราะไม่ค่อยมีใครรู้จักประวัติความเป็นมาของไวน์จากโรมาเนีย ร้านค้าโดยเฉพาะไวน์ช็อปจึงไม่ค่อยมั่นใจและไม่นำสินค้าเข้าไปขายสิน ค้าจึงเดินช้ามาก เพียงตู้คอนเทนเนอร์เดียวกว่าจะขายหมดใช้เวลาถึง 5 เดือน หลังจากบริษัทหันมาใช้วิธีการให้ความรู้กับผู้บริโภค ร้านค้า ฯลฯ ถึงประวัติและวิธีการผลิตไวน์โรมาเนียก็เริ่มได้รับการยอมรับมากขึ้น มาถึงวันนี้อาจจะกล่าวได้ว่าไวน์จากโรมาเนียนั้นเป็นอีกทางเลือกหนึ่งของผู้ดื่มไวน์
"ที่เราทำราคาได้ถูกเพราะต้นทุนที่มาจากประเทศโรมาเนียไม่สูง เนื่องจากค่าจ้างแรงงานที่นั่นถูก ขณะเดียวกันการทำตลาดของเราก็มีต้นทุนไม่มากนัก คือ ใช้บ้านเป็นสำนักงาน ไม่มีการโฆษณาประชาสัมพันธ์ และพยายามที่จะขายตรงให้ถึงผู้บริโภคและตัดตัวกลางออกไปให้มากที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ ปัจจุบันช่องทางจำหน่ายหลักๆ อยู่ที่ร้านอาหาร ไวน์ช็อป โฮลเซลเลอร์ เอเย่นต์ในต่างจังหวัดหลายๆ แห่ง เช่น อุดรธานี, หาด ใหญ่, ภูเก็ต ฯลฯ รวมทั้งสมาชิกที่เรานำระบบขายตรงมาใช้" นายอำพลกล่าวและว่าอย่างไรก็ตาม ยอมรับว่าขณะนี้การทำตลาดของบริษัทได้รับผลกระทบจากไวน์ราคา 100-200 บาท/ขวด ที่มีผู้ประกอบการหลายๆ รายนำเข้ามาทำตลาดมากในช่วงที่ผ่านมา ซึ่งไวน์เหล่านี้ส่วนใหญ่จะใช้สารเคมีในการเร่งกระบวนการผลิต และเป็นห่วงว่าเมื่อผู้บริโภคซื้อไปดื่มแล้ว นอกจากจะเสียเงินไปแล้วก็ยังจะทำให้เสียสุขภาพ
"จริงๆ แล้วคงเป็นเรื่องลำบากที่จะบอกว่าไวน์ขวดไหนใช้สารเคมี และกว่าจะรู้ก็ต่อเมื่อดื่มไปแล้ว แต่ที่จะสังเกตได้ก็คือ ไวน์ดังกล่าวจะไม่มีชื่อพันธุ์ไวน์ระบุอยู่บนฉลากเหมือนกับไวน์ปกติที่มักจะระบุชื่อพันธุ์องุ่นไว้ เช่น CHARDONNAY, CABERNET SAUVIGNON, SAUVIGNON BLANC, MERLO, FETEASCA NEAGRA, PINOT NOIR, SHIRAZ"
นอกจากนี้นายอำพลยังกล่าวถึงการทำตลาดส่งออกว่า เนื่องจาก เอส.ซี.บางกอกมาร์เก็ตติ้ง บริษัทแม่ผู้นำเข้าไวน์จากโรมาเนียได้รับการแต่งตั้งจากบริษัทแม่ในประเทศโรมาเนียให้เป็นผู้จัดจำหน่ายสินค้าได้ทั่วเอ- เชีย ด้วยการใช้ประเทศไทยเป็นศูนย์กลางในการกระจายสินค้า และปัจจุ- บันเริ่มส่งออกไปจำหน่ายในมาเลเซีย ฟิลิปปินส์ และในปลายเดือนนี้จะเริ่มส่งไปจำหน่ายในประเทศลาว ผ่านช่องทางร้านค้าปลอดภาษี และขณะนี้อยู่ระหว่างเจรจาที่จะนำไวน์เข้าไปจำหน่ายในจีน เวียดนาม และอินโดนีเซีย--จบ--
-สส-

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ