ไซมิสฯ พัฒนาหมู่บ้านประหยัดพลังงาน ปลื้มจับมือเซกิซุยร่วมพัฒนาครั้งแรกในไทย

ข่าวอสังหา Monday October 31, 2016 16:15 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--31 ต.ค.--คิปส์ คอมมูนิเคชั่น บริษัท ไซมิส แอสเสท จำกัด ร่วมกับบริษัท เซกิซุย เคมิคอล จำกัด บริษัทสร้างบ้านอันดับ 1 ของประเทศญี่ปุ่นพัฒนาโครงการ ไซมิส ไฮม์ โครงการบ้านเดี่ยว และทาวน์เฮาส์รวม 107 ยูนิต บนพื้นที่ประมาณ 26 ไร่ เพื่อตอบสนองการอยู่อาศัยที่เหนือกว่าด้วยคุณภาพและนวัตกรรมอัจฉริยะ นายขจรศิษฐ์ สิ่งสรรเสริญ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ไซมิส แอสเสท จำกัด กล่าวว่า "บริษัทไซมิส แอสเสท เติบโตในธุรกิจอสังหาริมทรัพย์มายาวนานกว่า 6 ปี เราพัฒนาโครงการมาแล้วและมีโครงการที่กำลังเตรียมพัฒนาในปีหน้าอีกมูลค่ารวมกว่าหมื่นล้านบาท อีกทั้งบริษัทยังเตรียมปรับแผนการบริหารเพื่อขยายทิศทางการทำกำไรในไตรมาสสุดท้ายนี้ด้วย เนื่องจากบริษัทมีความเชียวชาญในด้านการก่อสร้าง และการพัฒนานวัตกรรมต่างๆ ทำให้โครงการของไซมิสฯ มีความแตกต่าง และสร้างมูลค่าสูงสุดให้กับลูกค้า รวมถึงได้รับความไว้วางใจจากคู่ค้า ทั้งนี้สิ่งที่น่าภาคภูมิใจของบริษัทในปีนี้คือได้มีโอกาสที่ดีในการเป็นบริษัทพัฒนาอสังหาริมทรัพย์รายแรก ที่เซกิซุย เคมิคอล บริษัทก่อสร้างบ้านอันดับ 1 ในประเทศญี่ปุ่นเลือกที่จะร่วมคิดพัฒนาโครงการบ้านไปด้วยกัน โดยใช้ระยะเวลาการวางแผนและร่วมกันพัฒนากว่า 1 ปี พร้อมเป็นทางเลือกใหม่ให้ผู้บริโภค ตอบสนองกลุ่มลูกค้าที่ต้องการบ้านประหยัดพลังงานที่ช่วยสร้างความสุขในการอยู่อาศัยในทุกด้าน" "ทางด้านของการก่อสร้างเราได้ผู้เชี่ยวชาญด้านวัตกรรมมารับผิดชอบในเรื่องการก่อสร้าง คือเอสซีจี ซึ่งเดิมเอสซีจีได้ร่วมพัฒนาและผลิตชิ้นส่วนบ้านในระบบโมดูลาร์กับเซกิซุยตั้งแต่ปี 2552 ทั้งนี้บ้านไซมิส ไฮม์ เป็นบ้านที่พร้อมตอบสนองการใช้ชีวิตของผู้อยู่อาศัย ประกอบด้วยวัสดุที่ผลิตด้วยเทคโนโลยีคุณภาพสูง โครงสร้างโมดูลาร์ที่แข็งแรงสามารถทนแรงสั่นสะเทือนจากแผ่นดินไหว มีอายุการใช้งานยาวนาน อีกทั้งผนังด้านนอกผลิตจากเซรามิกที่ง่ายต่อการทำความสะอาด ดูดซับน้ำต่ำ ลดเสียงและความร้อนจากภายนอกบ้าน มีฉนวนกันเสียงและความร้อนที่มีคุณภาพสูง ช่วยในการประหยัดพลังงาน และประหยัดค่าใช้จ่ายด้วยระบบโซล่าเซลล์ ที่ลดค่าไฟฟ้าให้บ้านได้มากถึง 70 เปอร์เซ็นต์ ทั้งนี้บริษัทตั้งเป้าการก่อสร้างบ้านตัวอย่างให้แล้วเสร็จและเปิดให้เข้าชมช่วงต้นเดือนมกราคม ปี 2560 ราคาขายเริ่มต้นที่ 5 ล้านบาท และคาดการณ์การขายหมดภายในสิ้นปี 2560" นายขจรศิษฐ์ กล่าวปิดท้าย

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ