บทความพิเศษ เรื่อง “ต้นแบบ” ที่อยู่คู่คนไทยตลอดกัลปาวสาน

ข่าวทั่วไป Monday November 7, 2016 15:00 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--7 พ.ย.--ซูมพีอาร์ ความโศกเศร้าอาดูรและการสูญเสียครั้งยิ่งใหญ่ของปวงชนชาวไทยในรอบ 70 ปี จากการเสด็จสวรรคตของ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช มหิตลาธิเบศรรามาธิบดี จักรีนฤบดินทร สยามมินทราธิราช บรมนาถบพิตร หรือที่ลูกๆของพระองค์ท่านเรียกสั้นๆว่า " ในหลวง " เชื่อว่าไม่มีคนไทยคนใดที่ไม่เสียใจ ความเศร้าโศกเสียใจ...จะทำอย่างไรให้กลายมาเป็น "พลังความดี" "พลังแผ่นดิน" และ"พลังความสามัคคี" ให้แก่ประเทศ เพื่อให้พระองค์ท่านได้ภาคภูมิใจในลูกๆของพระองค์ เมื่ออยู่บนสรวงสวรรค์ก็เป็นอีกแนวทางหนึ่งที่พวกเราควรนำไปปฏิบัติ การน้อมนำทำตามคำสอนของ "ในหลวง" ก็เปรียบดังเป็นการแสดงความกตัญญูกตเวทิตาต่อพระองค์ท่านได้อีกทางหนึ่งโดยไม่ต้องใช้ต้นทุนที่มากเกินกำลัง โดยเฉพาะการกระทำตามรอยพระยุคลบาท ซึ่งมีมากมายเหลือคณานับ พระองค์ท่านทรงวางแบบอย่างให้พวกเราชาวไทยได้ปฏิบัติตาม ไม่ว่าจะเป็นโครงการส่วนพระองค์ โครงการตามพระราชประสงค์ โครงการตามพระราชดำริ โครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ และอื่นๆ อีกมากมาย ที่ให้พวกเราชาวไทยได้ศึกษา สืบสาน และนำไปสู่การปฏิบัติได้ไม่รู้จักหมดสิ้น ในภาคการเกษตรพระองค์ท่านก็ได้ให้วิชาความรู้ด้านเกษตรทฤษฏีใหม่ เกษตรพอเพียง ฝากไว้ให้พี่น้องเกษตรกรไทยนำไปใช้ในการต่อยอดอย่างมิมีวันจบสิ้น การน้อมนำหลักการ 3 ห่วง 2 เงื่อนไข คือ พอประมาณ มีเหตุมีผล มีภูมิคุ้มกันในตัวที่ดี ไปพร้อมๆกับการมีความรู้ควบคู่คุณธรรม.... ความรู้ก็คือ รอบรู้ รอบคอบ ระมัดระวัง คุณธรรม ก็คือ ความซื่อสัตย์สุจริต ความขยันอดทน สติปัญญา และแบ่งปัน ก็จะสามารถนำพาตนเองไปสู่เศรษฐกิจ สังคม สิ่งแวดล้อมและวัฒนธรรมได้อย่างสมดุลและพร้อมต่อการเปลี่ยนแปลง พระจริยาวัตรอันงดงามของพระองค์ที่ทรงอยู่ในทศพิธราชธรรม เป็นต้นแบบให้พวกเราชาวไทยได้น้อมนำเป็นแบบอย่างได้ในชีวิตประจำวัน ไม่ว่าจะเป็นการวางองค์ให้เป็นแบบอย่างในการดำเนินชีวิตอย่างมีสติสัมปชัญญะในการ "ครองตน" "ครองคน" และ "ครองงาน" คือทรงนำอิทธิบาท 4 คือ ฉันทะ วิริยะ จิตตะ วิมังสา มาเป็นแนวทางในการปฏิบัติงาน คือมีความรักในงานที่ทำ มีความขยันหมั่นเพียรในการปฏิบัติงาน มีความมุ่งมั่นในการทำงานให้ประสบความสำเร็จและมีการพัฒนางานให้มีคุณภาพดียิ่งๆขึ้นไป ในขณะเดียวกันก็ทรงวางองค์ให้เป็นต้นแบบของผู้บริหารมืออาชีพที่ใช้หลักพรหมวิหาร 4 คือ เมตตา กรุณา มุทิตา และอุเบกขา ในการทำงานร่วมกับผู้อื่นในลักษณะที่เป็นกัลยาณมิตร เกิดเป็นเครือข่ายร่วมมือที่มีความสัมพันธ์กันอย่างเหนียวแน่นและยั่งยืน สำหรับท่านที่ยังเศร้าโศกเสียใจ และไม่รู้จะแสดงความจงรักภักดีในรูปแบบใด เพียงน้อมนำคำสอนและหลักปฏิบัติต่างๆไปใช้ให้เกิดประโยชน์ต่อตนเองและสังคม ก็ทำให้เทวดาที่อยู่บนสวรรค์ภาคภูมิใจกับพวกเราแล้ว เพราะพระองค์ท่านมิได้ทิ้งเราไปไหน แต่ยังคงอยู่กับเราในรูปแบบของ "ต้นแบบ" ที่รอให้เราน้อมนำทำตาม เราก็จักอยู่กับพระองค์ท่านตลอดกาลปาวสาน … สนับสนุนบทความโดยนายมนตรี บุญจรัส กรรมการผู้จัดการบริษัท ไทยกรีน อะโกร จำกัด (ชมรมเกษตรปลอดสารพิษ) สอบถามข้อมูลข่าวได้ที่ฝ่ายประชาสัมพันธ์ โทรศัพท์ 0 2000 8499 , 081 732 7889

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ